บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 อีกเจ็ดวันเจ้าต้องแต่งเข้าสกุลเฉิน

3 วันถัดมา

ป๊อก! ป๊อก!

เสียงไม้กระทบกันดังมาจากประตูไม้ เพื่อส่งเสียงให้คนในเรือนได้รู้ถึงการมาเยือน

"มีใครอยู่หรือไม่"

เสียงเรียกดังออกมาจากหน้าเรือน หลังจากเคาะไปเพียงแค่ 2 ครา บ่งบอกว่าผู้ที่มาใหม่นั้นใจร้อนมากเพียงใด หลี่ซู่หลินที่กำลังตากปลาอยู่ที่ลานกว้างต้องวางข้าวของในมือก่อนที่จะออกไปเปิดประตู

"ช้าเสียจริง"

ทันทีที่ประตูเปิดออกหญิงร่างท้วมอายุราว 50 ปี ก็ถือวิสาสะเดินเข้ามาในลานกว้างหน้าเรือนทันทีด้วยท่าทีหงุดหงิด ตามด้วยสาวใช้ 2 คน และบ่าวรับใช้ชายที่ถือกล่องไม้ผูกด้วยผ้าสีแดงอีก 3 กล่อง ดูก็รู้ได้ทันทีว่าภายในกล้องคืออะไรและวันนี้มาเพื่อสิ่งใด

"แม่นมหย่าเฟย"

"ข้าเอง บุตรสาวเจ้าเหล่า"

เสียงแหลมถามหาจุดหมายของการมาที่นี่ทันที แม่นมหย่าเฟย เป็นบ่าวที่รับใช้สกุลเฉินมานาน

"ซิ่วเออร์ไม่สบายเจ้าค่ะ ครานี้ป่วยรุนแรงนัก หลายวันมานี้ลุกจากเตียงมิได้เลยเจ้าค่ะ"

"เด็กๆ"

แม่นมหย่าเฟยส่งสัญญาณให้สาวรับใช้ที่มาด้วยเข้าไปตรวจสอบในเรือนว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ หญิงสาวรู้สึกไม่พอใจนักเรื่องหลี่ซิ่วอิงเป็นเพียงสาวชาวบ้านธรรมดา มิรู้ว่านายท่านคิดเช่นไรถึงแต่งนางให้ไปเป็นอนุของคุณชาย ถึงกระนั้นนางยังทำตัวไม่รู้ความ ทำให้ข้าต้องมาหาถึงที่แบบนี้ หากเป็นชาวบ้านเรือนอื่นคงวิ่งไปอ้อมหน้าอ้อมหลังที่จวนแล้วกระมัง

ไม่นานก็ปรากฏร่างของหญิงสาวผอมบาง ที่อีกเพียงนิดหากถูกลมที่แรงกว่านี้เสียหน่อยพัดมาก็คงจะปลิวแล้ว ใบหน้ามิได้งดงามอีกทั้งยังซีดเผือกด้วยอาการป่วยจึงค่อยๆเดินออกมา

"หยุดนะ หยุดตรงนั้น"

แม่นมหย่าเฟยเอ่ยออกมาอย่างห้ามปราม อีกทั้งมีท่าทีรังเกียจหญิงสาวอย่างเห็นได้ชัด มิรู้ว่าหลี่ซิ่วอิงเป็นโรคอะไร หากติดนางขึ้นมาจะทำอย่างไรก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้ามาปิดจมูกเอาไว้

"แม่นมหย่าเฟยใช่หรือไมเจ้าคะ"

เสียงแหบแห้งของหลี่ซิ่วอิงเอ่ยออกไปอย่างยากลำบาก ก่อนจะส่งสายตามาทางมารดาให้เข้าไปพยุงตนเอง หลี่ซูหลินรู้หน้าที่ตน ตอนนี้นางแทบแยกไม่ออกว่าบุตรสาวนั้นป่วยจริงหรือแกล้งป่วยกันแน่ หากไม่ได้รู้ถึงแผนการของบุตรสาว เกรงว่าวันนี้นางคงเชื่อเช่นเดียวกับผู้อื่นเสียแล้ว

" เชิญหมอมาดูหรือยัง หากยังข้า...."

"เชิญมาแล้วเจ้าค่ะ ท่านหมอบอกว่าอีก 7 วันถึงจะหายได้เจ้าค่ะ"

หลี่ซิ่วอิงรีบเอ่ยขัด หากเชิญท่านหมอมาตรวจนาง เกรงว่าเรื่องที่นางโกหกว่าป่วยจะปิดไว้ไม่ได้เสียแล้ว

" 7 วัน โอ๊ย~~~มิได้หรอก ข้าให้เจ้าได้เพียงแค่ 5 วันเท่านั้น หากแม้เจ้าไม่หายต่อให้ป่วยใกล้ตาย เจ้าก็ต้องแต่งเข้าจวนสกุลเฉิน หากไม่แต่งเข้าเจ้าคงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัว"

หย่าเฟยบอกกับหญิงสาวอย่างชัดเจน ก่อนที่ประโยคหลังจะหันมาเอ่ยกับหลี่ซู่หลินผู้เป็นมารดาอย่าข่มขู่

"ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ"

"เด็กๆ กลับ"

แม่นมหย่าเฟยเอ่ยสั่ง ก่อนที่จะส่งสายตาให้บ่าวรับใช้ชายที่ตามมาด้วยเอาสินสอดเข้าไปวางไว้ แต่กลับถูกหลี่ซิ่วอิงขวางทางไว้เสียก่อน

"อันใดของเจ้าอีกกัน"

"เรียนแม่นมหย่าเฟย เรือนข้าเล็กเพียงนิด อีกทั้งมิได้มีประตูหนาแน่นอันใด มีเพียงสตรีสองคนที่อยู่เรือนตลอด ท่านพ่อก็ออกไปล่าสัตว์หลายวันถึงกลับเรือนครั้ง เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยหากมีโจรเข้ามาบุกหวังทรัพย์ไป ท่านเป็นถึงคนในจวนสกุลเฉินก่อนเข้ามาเรือนข้า คงมีผู้พบเห็นมิน้อย อาจทำให้ผู้มิหวังดีแอบดูอยู่นะเจ้าคะ"

หลี่ซิ่งอิงเอ่ยหวาดล้อมอย่างถ่อมตน หากนางรับสินสอดเหล่านี้ไว้ เกรงว่านางจะปฏิเสธงานแต่งนี้ไม่ได้เสียแล้ว อย่างไรนางจะต้องปฏิเสธรับสิ่งของจากจวนสกุลเฉินทุกอย่าง ป้องกันเอาไว้และหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดภายหลังได้

"เช่นนั้น อีก 5 วัน ข้าจะมาที่นี่อีกครั้ง หวังว่าเจ้าจะไม่ป่วยตายไปเสียก่อน"

แม่นมหย่าเฟยเอ่ยจบก็เดินออกจากเรือนไป

.…

"แบบนี้จะดีหรือ"

ผู้เป็นมารดาเอ่ยอย่างเป็นกังวล

"แบบนี้ดีเจ้าค่ะ เพียง 5 วัน 5 วันก็เพียงพอแล้วเจ้าค่ะท่านแม่"

หลี่ซิ่วอิงกุมมือผู้เป็นมารดาของตน จากนั้นตรงดิ่งเข้าห้องนอนตัวเองอย่างกระปรี้กระเปร่ามิได้เหมือนนางที่แซ่งป่วยเมื่อสักครู่

หญิงสาวจัดการอาบน้ำอาบท่า ขัดผิว จนแน่ใจแล้วว่าตนเองนั้นสะอาด สระผมยาวสลวยและชโลมด้วยเครื่องหอมบำรุงผมที่นางทำเองจนมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ สวมด้วยชุดตัวใหม่ที่ไม่มีรอยปะสีฟ้าครามไม่ฉูดฉาดสบายตาเวลามอง เกล้าผมครึ่งบนเป็นทรงสวยก่อนจะปักด้วยปิ่นไม้เรียบๆที่แกะสลักเป็นรูปใบไม้ธรรมดา แต่เพราะมีเพียง 1 เดียวบนศรีษะทำให้มันดูเด่นเละเข้ากับทรงผมวันนี้เป็นที่สุด

"จากนั้นเหลือแค่..."

หญิงสาวเอ่ยออกมากับตัวเองขณะนั่งอยู่หน้ากระจกทองแดง ที่สะท้อนภาพหญิงสาวหน้าตาธรรมดานางหนึ่ง มือบางหยิบฉาดสีสำหรับประทินโฉมขึ้นมาแต่งแต้มอย่างคร่องมือ

"ร่างเจ้าหน้าตาธรรมดาที่ไหนกัน ใบหน้าก็รูปไข่ ตาก็โต จมูกก็ทรงสวย ปากก็บางกระจับ มีครบขนาดนี้ เกิดมาจน 20 ปีกลับใช้มันไม่เป็น"

หญิงสาวเอ่ยกับตนเองออกมาอย่างอดไม่ได้ หากมองเผินๆก็มิได้งดงาม แต่หากตั้งใจมองจะรู้ว่าร่างนี้งดงามเพียงใด ท่านพ่อก็คมเข้มองอาจ ท่านแม่ก็ใบหน้างามหวานหยดย้อย แล้วร่างนี้จะอัปลักษณ์ไปได้เช่นไรกัน ที่หน้าตาเป็นอย่างนี้คงเป็นเพราะก่อนหน้าที่นางจะมาอยู่ เจ้าของร่างคงรู้ดีว่า เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาหากใบหน้างดงามคงมิได้อยู่อย่างสงบจนอายุมากขนาดนี้ นั้นก็นับว่าฉลาดอยู่บ้าง

"แต่ขอโทษนะจ๊ะหนู หากวันนี้เจ้ามิงดงามอีก 5 วันข้างหน้าเจ้าจะต้องแต่งเข้าไปเป็นอนุผู้อื่นแล้วล่ะ"

หญิงสาวมองตนเองในกระจกก็ยิ่มร่าออกมาอย่างพอใจ รูปร่าง ทรงผม ใบหน้า นี่นับว่างามที่สุดเท่าที่นางเห็นตนในร่างนี้แล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel