ตอนที่2 ปล่อยให้ข้าอยู่อย่างสงบสุขไม่ได้หรือ
“ท่านพ่อกับท่านแม่มีอะไรก็บอกข้ามาเถอะเจ้าค่ะ”
หลี่ซิ่วอิงเอ่ยขึ้นหลังจากที่ทั้งสองท่านส่งสายตาให้กันไปมาเหมือนจะเอ่ยกับนางแต่ไม่กล้า ในขณะที่กำลังทานข้าวอยู่
"นี่เจ้าก็อายุ 20 แล้ว มีคนรักแล้วหรือไม่"
หลี่ซูหลินผู้เป็นมารดาเอ่ยขึ้นในที่สุด
เพล้ง!
เสียงตะเกียบกระทบจานข้าวทันทีหลังได้ยินผู้เป็นมารดาเอ่ยถาม
"ท่านแม่....."
"ข้ามิได้จะไล่เจ้า แต่ข้าสองคนก็แก่มากแล้ว หากภายภาคหน้าเจ้ามิมีผู้ดูแลจะทำเช่นไร"
"แล้วอย่างไรเจ้าคะ ข้าก็อยู่คนเดียวได้ หรือพวกท่านไม่รักข้าแล้วหรือ"
"เฮ้อ~ มิใช่เช่นนั้นซิ่วเออร์ เจ้าก็รู้ว่าครอบครัวเรามีเพียงกินอิ่มนอนหลับเท่านั้น อำนาจมิได้มีเฉกเช่นครอบครัวขุนนาง หากวันใดอยากให้เราผิดหรือเราถูกก็ง่ายเพียงนิด"
หลี่กวางหมิง ผู้เป็นนบิดาเอ่ยอธิบาย
"เราก็อยู่เงียบๆ ไม่หาเรื่องหรือพาตนเองเข้าใกล้พวกเขาก็สิ้นเรื่องมิใช่หรือเจ้าคะ"
ซิ่วอิงเอ่ยขึ้นอย่างหาทางออกให้กับเรื่องนี้ นางคิดว่าหากใช้ชีวิตอย่างไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับคนใหญ่โตหรือทางวังหลวงก็สามารถรอดพ้นจากสิ่งที่อาจเป็นอันตราย
"ซิ่วเออร์ แม่มิอยากให้เจ้าต้องทนทุกข์หากเลือกได้ ก็อยากให้เจ้าออกเรือนกับชาวบ้านธรรมดาที่เจ้าพึงพอใจ''
ผู้เป็นมารดา หันมาเอ่ยกับบุตรสาว พร้อมยื่นมือไปกุมเอาไว้อย่างอ่อนโยน
"เฉินเต๋อหมิง เสนาบดีกรมพิธีการ อยากหาอนุให้แก่บุตรชาย เฉินชินหยาน เมื่อหลายวันก่อนพ่อนำสัตว์ที่ล่าได้ไปขาย เห็นเจ้าที่ยังมิได้ออกเรือน เลยอยากได้เจ้าไปเป็นอนุ"
"ตระกูลเฉิน บุตรชายที่แต่งงานมีฮูหยินและอนุอีกหกคนนั่นหรือเจ้าค่ะ"
หญิงสาวเอ่ยออกมาอย่างตกใจ ในนิยายคนผู้นี้นิสัยทั้งเจ้าชู้และโง่งม ถึงมีอำนาจจะตระกูลแต่กลับเป็นหมันไม่สามารถมีทายาทได้'
"แล้วท่านพ่อ เอ่ยตอบไปว่าเช่นไรเจ้าคะ"
"ข้าเพียงบอกว่าเจ้าป่วยหนัก แต่เมื่อวานคนของคนจวนเฉินมาสอดส่องที่หน้าเรือนเรา คาดว่าคงไม่เชื่อคำพูดที่ข้าบอกไปเป็นแน่ ช่วงนี้เจ้าก็เก็บตัวอยู่ในเรือน "
ผู้เป็นพ่อเอ่ยอย่างลำบากใจ หากตนไม่ไปที่จวนสกุลเฉิน บุตรสาวของตนคงไม่ต้องมาเจอเรื่องเช่นนี้
"เราเป็นเพียงชาวบ้าน ส่วนเขาเป็นถึงขุนนางในวังหลวง หากแจ้งทางการก็คงไม่พ้นต้องตกไปอยู่ที่จวนนั้น ข้าไม่มีคนรักที่สามารถออกเรือนได้ในพรุ่งนี้หรือในเร็วๆ นี้ เกรงว่าจะหนีไม่พ้น"
หญิงสาวเอ่ยอย่างใช้ความคิด ในนิยายไม่มีเรื่องเช่นนี้กล่าวถึง เพราะว่าร่างนี้เป็นตัวประกอบที่ไม่ถูกเอ่ยถึงในนิยาย เกรงว่าถึงนางจะแต่งเข้าไปหรือไม่แต่งเข้าไปก็ไม่ได้มีผลอะไรกับเนื้อเรื่องหลัก แต่แล้วอย่างไรนี้ชีวิตนางเลยนะ จะให้เข้าไปเป็นอนุคนที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ได้อย่างไร หากนางแต่งเข้าไปแล้วไม่ตั้งครรย์สักทีเกรงว่าจะอยู่ไม่เป็นสุข
"ท่านพ่อท่านแม่เจ้าคะ ท่านไม่ต้องห่วงข้านะเจ้าคะ เรื่องนี้ขอข้าจัดการเอง ข้าสัญญาจะไม่ทำให้ท่านทั้งสองต้องเป็นกังวล"
หญิงสาวเอ่ยจบก็เดินเข้าห้องของตนเองไป
"ซิ่วเออร์ฉลาด ต้องเลือกทางที่ดีให้ตนเองเป็นแน่"
หลี่กวางหมิงเอ่ยปลอบฮูหยินของตนเมื่อเห็นแสดงสีหน้าของความเป็นกังลออกมา เขาเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาหากโชคดีหน่อยนางก็คงออกเรือนกับคนรักใช้ชีวิตธรรมดามิต้องไปเป็นอนุจวนไหน แต่นางกลับโชคร้ายเช่นนี้เขาผู้เป็นบิดาก็ยิ่งทุก์ใจยิ่งนัก
.…
ภายในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ หญิงสาวกางแผ่นกระดาษกว้างจากนั้นจรดพู่กันลงกระดาษอย่างตั้งใจ จนเวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วยามก็เงยหน้าขึ้น ระหว่างคิ้วของนางยังคงผูกกันเป็นปม หญิงสาวกำลังเขียนวงจรตัวละครทั้งหมดในนิยายออกมาเพื่อหาทางรอด ในโลกที่อำนาจอยู่เหนือทางการเช่นนี้
สถานะนางตอนนี้ต้องหนีจากการเป็นแค่ฐานะชาวบ้านธรรมดาที่ทำมาหากิน ฐานะถัดจากชาวบ้านธรรมดาคือการเป็นพ่อค้าแม่ค้าในท้องตลาด แต่อาชีพนี้อย่างไรก็หนีไม่พ้นการถูกจับเข้าไปเป็นอนุอยู่ดี ทางที่นางสามารถออกจากวงวารการถูกจับไปก็คงหนีไม่พ้นไปอยู่ใต้ชายคาเรือนของผู้ที่มีอำนาจ ดูสภาพและหน้าตาของร่างนี้สิ่งที่ทำได้คงต้องขายตัวเข้าไปเป็นบ่าวรับใช้จวนไหนสักจวน
"จวนสกุลโจ้ว เป็นจวนของโจ้วยู่ร์เฟิง พระเอกในนิยาย หากข้าจะเข้าไปอยู่คงมิใช่เรื่องง่าย จากเนื้อเรื่องนั้นเป็นจวนที่เข้ายากที่สุดและถูกตรวจสอบนานกว่าจะได้เข้าไปทำงานเป็นบ่าวรับใช้ได้ เกรงว่าคงไม่ทันการถูกจับไปเป็นอนุก่อนเป็นแน่"
หญิงสาวเอ่ยออกมากับตัวเองอย่างไล่เรียงเหตุการ์ในนิยาย จากนั้นจับพู่กันจุ่มหมึกสีแดงกากบาทที่ชื่อจวนสถุลโจ้วออก
"จวนสกุลจาง เป็นจวนของจางเซี่ยวเหยียน นางเอกในนิยาย แต่ในภายหลังถูกกล่าวหาว่าทุจริตทำให้ถูกยึดทรัพย์และสาวรับใช้ถูกขายไปกว่าครึ่งจวน ไม่ได้ๆ ข้าจะเอาชีวิตตัวเองไปไว้ที่ๆไม่แน่นอนแบบนั้นไม่ได้ จวนสกุลอู่ก็ไม่ถูกกับจวนสกุลเฉิน หากนางเข้าไปเรื่องที่นางไม่ไปเป็นอนุ เกรงว่าจะมาเอาเรื่องกับท่านพ่อท่านแม่ข้าเป็นแน่"
ในกระดาษที่ก่อนหน้านี้ถูกวาดเขียนชื่อจวนสกุลต่างๆ ไว้ ถูกหมึกสีแดงกาทิ้งไปจนทั้งกระดาษเต็มไปด้วยหมึกสีแดง
"จริงหรือนี่..."
มือเรียวบางวงรอบชื่อจวนสกุลเว่ยในกระดาษ สกุลเว่ยเป็นจวนของอ่องเว่ย หรือเว่ยตงหยาง ตัวร้ายในนิยายเมื่อตอนที่อ่านนิยายจบนางยังนึกสงสารที่ตัวร้ายทำตัวไม่สมกับการเป็นตัวร้าย ทั้งรูปงามไม่แพ้พระเอก ฉลาด มีกำลังในมือมากมาย แต่กลับยอมให้กับนางเอก นี่เรียกเสียสละตนเองเพื่อให้คนที่รักมีความสุข หากจะให้เรียกตัวร้ายคงไม่เหมาะ เรียกว่าพระเอกตัวจริงน่าจะถูกเสียกว่า แต่ถึงอย่างนั้นหากเข้าไปเป็นสาวใช้จริงๆ นางจะทำตัวให้กลืนกินไปกับกำแพงจวนเลย ไม่เข้าไปวุ่นวายและจะเป็นบ่าวรับใช้ที่ไม่โพล่หน้าเข้าไปให้เขาเห็นเด็ดขาด
