ตอนที่ 2
รถยนต์สีหม่นเทียบในโรงจอดรถอย่างเงียบเชียบ ร่างผ่ายผอมของหญิงชราเดินเข้าไปในบ้าน สายตาสะดุดเข้ากับหนังสือนิยายเล่มโปรด อดประหลาดใจไม่ได้เพราะมั่นใจว่าก่อนไปปฏิบัติธรรมเธอเก็บพวกมันเข้าชั้นแล้วเรียบร้อย
ไหน ๆ ก็ไหนๆ แล้วเลยนั่งลงที่โซฟาแล้วหยิบหนังสือเล่มนั้นอ่านซ้ำอีกสักหน
อิงฮวาร่วงโรย คือชื่อหนังสือนิยายเรื่องโปรดของเธอ เหตุผลที่ทำให้หยิบเล่มนี้อ่านบ่อยสุดคงเพราะตัวละครมีชีวิตคู่อาภัพไม่ต่างจากตัวเอง
ถึงจะเป็นแค่เรื่องสมมุติแต่เธอก็รู้สึกเห็นใจ หลิวอิงฮวา นางเอกของเรื่องไม่น้อย
ในนิยายเล่าถึงสาวน้อยคนหนึ่งที่อยู่กับมารดาสองคน คนเป็นแม่ก็อยากให้ลูกเป็นฝั่งเป็นฝาตามประสา จัดแจงหาคู่หมั้นมาให้ แต่บุรุษผู้นั้นดันมากรัก เขาเป็นพวกปากหวาน รู้จักพูดจา สตรีหลายคนจึงตกหลุมพราง รวมถึงตัวอิงฮวาด้วยเช่นกัน
หลิวอิงฮวามองโลกเพ้อฝันเหมือนเธอสมัยเยาว์วัยไม่มีผิด สาวน้อยเข้าใจว่าหากแต่งงานแล้วทุกอย่างจะราบรื่น หารู้ไม่ว่าเขายังคงเกี้ยวพาสตรีนางอื่นอยู่เนือง ๆ ซ้ำยังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับอีกหลายคน
เป็นเหตุให้ชู้รักเกิดความริษยาบุกเข้ามาทำร้ายเสียจนตาย บทสรุปของสาวน้อยผู้ที่อดทนต่อโชคชะตาโหดร้าย ราวต้นอิงฮวาถูกพายุหิมะกลางฤดูหนาวถาโถมก็คือความตาย
อ่านไปได้ราวยี่สิบนาทีหูของอิงวราก็ได้ยินเสียงเหมือนคนหัวร่อต่อกระซิก จะว่าลูกสาวเธอแวะกลับมาเยี่ยมก็คงไม่ใช่ มือเหี่ยวย่นวางหนังสือลงบนโต๊ะก่อนจะขึ้นบันไดไปดู
เมื่อเดินมาถึงด้านบนเสียงก็ได้ยินชัดขึ้น แต่ด้วยความที่อายุมากแล้ว สมรรถภาพการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ก็เสื่อมถอยไปตามเวลา กว่าจะฟังออกว่าอะไรเป็นอะไรก็เป็นตอนที่เธอเดินถึงหน้าห้องนอนแล้ว
“คิกๆ อย่าสิคะ มันจักจี้ค่ะป๋า” เสียงผู้หญิงหัวเราะคิกคักดังลอดมา
“มาใกล้ ๆ ป๋าสิจ๊ะ” เสียงนี้เป็นเสียงของสามีเธอไม่ผิดแน่ แต่งกันมาจนจะลงโลงเขาไม่เคยทำสำเนียงแบบนี้ด้วยสักครั้ง
ภายในห้องนอนใหญ่ชายชราร่างท้วมนั่งอยู่บนเตียง ข้างกันนั้นเป็นหญิงสาวอายุราวยี่สิบ ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่ชุดชั้นในตัวเล็กจิ๋วปกปิดพื้นที่สงวนทั้งล่างบน
“ขอฟัดให้หายคิดถึงหน่อย” ตาเฒ่ามากตัณหาพูดพลางบีบคลึงทรวงอกของหญิงสาวที่อายุน้อยกว่าลูกตัวเอง
เขายกยิ้มหื่นกระหาย สาวเอ๊าะ ๆ มองอย่างไรก็ชื่นอกชื่นใจกว่าภรรยาตามกฎหมายอยู่หลายขุม
อิงวรานิ่งงันคล้ายเท้าโดนหมุดล่องหนตรึงไว้ ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่เดินหนีไปตรงอื่น จุดที่ยืนอยู่แม้มองไม่เห็นภาพด้านใน แต่สามารถทราบสถานการณ์จากบทสนทนาของสามีกับหญิงชู้
“ป๋าขา หนูจะต้องจ่ายค่าเทอมวันศุกร์นี้แล้ว ป๋าช่วยหนูหน่อยได้มั้ยคะ” คนพูดทำสีหน้าลำบากใจ จริตจะก้านออดอ้อนแบบนี้ใครเห็นก็ต้องยอมควักเงินให้
“โถ จะไม่ได้ได้ยังไงล่ะจ๊ะ เป็นเด็กของป๋า ป๋าก็ต้องช่วยหนูสิ” อิงวราได้ยินแค่เสียง เธอจึงไม่ทราบว่าตอนนี้สามีตัวเองกำลังล่อนจ้อน
“แต่หนูต้องบริการให้ป๋าก่อนนะ” ชายชราร่างท้วมเสนอแนะ เขาจะไม่ยอมจ่ายโดยที่ไม่ได้อะไรตอบแทนหรอก
“ได้สิคะ” หญิงสาวคนนั้นยิ้มยั่ว มือถอดชุดชั้นใน จากนั้นก็นั่งแยกขาออกกว้าง ไม่พอแค่นั้นเธอยังใช้นิ้วแหวกกลีบดอกไม้ เจตนาโชว์เนินเนื้อสีสวยให้อีกคนดู
“อู้ว” ชายชราตาโต บางอย่างที่ห่อเหี่ยวมานาน พอเจอภาพแบบนี้เข้าก็ยืนตรงเริงร่า
เหมือนโลกกำลังพลิกกลับ เสียงครวญครางดังออกมา หากแต่หูของอิงวราอื้ออึงไม่รับรู้อะไรอีก แข้งขาไร้เรี่ยวแรงพยายามประคองตนไว้สุดกำลัง หยาดน้ำแห่งความโศกศัลย์กลิ้งไหลจากดวงตา คิดมาตลอดว่าตัวเองปลงเรื่องคู่ครองไปเยอะแล้วหากเทียบกับสมัยก่อนแต่เหมือนว่าเธอจะเข้าใจผิด
ที่ผ่านมาเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ได้เพราะเขาไม่เคยมาทำให้เห็น ทว่าตอนนี้กลับเอาคนนอกมาเหยียบหัวเธอถึงในบ้าน เป็นการยากหากจะปล่อยโดยไม่พูดอะไร
มือผอมเกร็งปาดน้ำตาแล้วผลักบานประตูเข้าไป หญิงชายบนเตียงที่กำลังระเริงสวาทสะดุ้งด้วยความตกใจ กิจกรรมบาปชะงักไปชั่วคราว
“ทำไมไม่ไปทำกันข้างนอก” อิงวรากวาดตามองรอบห้อง พยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น
หญิงชู้ดูมีความละอายเหลืออยู่บ้าง เธอรีบแต่งเนื้อแต่งตัว มองที่ผู้มาใหม่ด้วยสายตาหวาดหวั่น พูดกับตัวเองในใจว่าแค่ต้องการเงิน ไม่ได้อยากได้ผัวแก่ ๆ ของป้าเลยสักนิดเดียว
“เอ่อ หนูกลับก่อนนะคะ” เธอยิ้มแหยพยายามแทรกออกไปทางประตู
ผู้หญิงคนนี้ดูแล้วคงอายุเพิ่งแตะเลขสองได้ไม่นาน ใบหน้าสะสวย รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ผิวพรรณก็เต่งตึง ไม่แปลกหากผู้ชายจะหลงใหล
อิงวราปล่อยให้เธอคนนั้นผ่านไปโดยไม่ด่าทอหรือตบตี เธอคิดว่าเรื่องนี้คนผิดก็คือสามีตัณหากลับของตัวเอง
“ก็นี่บ้านผม!” ชายชราร่างท้วมตะคอกตอบ เขารู้ว่าอีกฝ่ายไปปฏิบัติธรรมแต่ไม่รู้ว่าจะกลับมาวันนี้ พอความแตกแถมกิจกรรมเมื่อครู่ก็ค้างเติ่งเลยยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่
“ครึ่งเดียว เพราะนี่ก็บ้านฉันเหมือนกัน” อิงวราเชิดหน้าตอบ เห็นสามีไม่สำนึกผิดแล้วก็ขุ่นเคือง
“จะไประเริงที่โรงแรมหรือบ้านใครฉันไม่เคยว่า คุณคิดไม่ได้หรือไงว่าไม่ควรเอาอีหนูมาถึงในบ้าน”
