บทที่ 9 กุมารทอง=โดรนล่องหน
บทที่ 9 กุมารทอง=โดรนล่องหน
"เดี๋ยว!" เสียงกรีดร้องในใจของมีนาดังลั่น! ‘หยุดนะ! เจ้าหนู! กลับมาเดี๋ยวนี้!’
ฟู่! ร่างเล็กๆ ที่พุ่งทะลุผนังคอกม้าออกไปชะงักกึก!มันหยุดนิ่งกลางอากาศ ห่างจากแผ่นหลังของยามผู้โชคร้ายเพียงหนึ่งคืบ ไอดำทะมึนที่แผ่ออกจากตัวมันหยุดสั่นไหวดวงตาสีแดงก่ำค่อยๆ หรี่ลงแต่ยังไม่ดับ
ยามสองคนนั้นไม่เห็นมัน แต่พวกเขารู้สึกได้!
"บ…บัดซบ! ลมอะไรวะ!หนาว! หนาวจนกระดูกจะแตก!" ทหารยามทั้งสองกอดอกขนลุกเกรียวพวกเขามองซ้ายมองขวา แต่ไม่เห็นสิ่งใดนอกจากความมืดและความเหม็นอับ
เจ้าอ้วนน้อยหันกลับมา มันไม่ได้หันร่าง มันหันแค่ศีรษะดวงตาสีแดงก่ำจ้องทะลุผนังไม้ มองตรงมายังมีนาเสียงของมันที่ก้องในหัว บัดนี้ไม่ใช่เสียงเด็กแต่มันคือเสียงคำรามจากขุมนรก
"ทำไม!"
‘ฆ่าพวกมัน แล้วยังไงต่อ? ’ มีนาสวนกลับทันทีจิตของเธอเย็นเยียบราวกับเหล็กกล้าเธอต้องคุมสถานการณ์นี้!
‘ฆ่าพวกมัน แล้วพรุ่งนี้เช้าฉีเจิ้นจะพบศพทหารสองศพที่แห้งตาย เขาจะรู้ทันทีว่า 'ตัวอัปมงคล' ไม่ใช่แค่ตัวซวย แต่คือ 'ปีศาจ'ตัวจริง!หลังจากนั้นต่อให้ฉันกระโดดลงแม่น้ำก็ยากจะพ้นมลทินแล้ว จากนั้นเขาจะฆ่าจะแกงฉันก็สามารถทำได้’
เจ้าหนูคำราม
"แต่พวกมันรังแกพี่จ๋า!พวกมันทำให้พี่จ๋าหิว"
‘พวกมันมันแค่ปลาซิว!’ มีนาตวาดกลับ
‘สมอง! ใช้สมองที่พ่อให้มาหน่อยสิ! พวกมันกลัวพวกมันโง่พวกมันแค่ทำตามกระแส!ศัตรูที่แท้จริงคือหนอนบ่อนไส้ที่เราพูดถึงคือฉีเจิ้นที่ขังเราไว้ คือการที่อยู่ฉันก็ทะลุมิติมาอยู่ในที่ห่วยแตกแบบนี่! นี้ต่างหากเล่าคือศัตรูตัวจริง’ (แสดงว่าไรท์ก็เป็นศัตรูเธอด้วย เพราะไรท์ส่งมา555)
เธอเปลี่ยนโทนเสียงจากตวาดเป็นล่อลวง เกลี่ยกล่อมอย่างที่เธอถนัด
‘แกอยากกินแค่ปลาซิวสองตัวนี่เหรอ? หรือแกอยากกินมื้อใหญ่?'
ดวงตาสีแดงก่ำกระพริบไอดำเริ่มจางลง "มื้อใหญ่? หนูต้องอยากจะกินมื้อใหญ่สิ พี่จ๋าดูซิมาที่นี่ไม่กี่วันพุ่งหนูหายไปตั้งเยอะ" เจ้าหนูกุมารทองที่น่าสงสารถูกเขาล่อลวงไปอย่างง่ายดาย ตอนนี้มันกำลังพยายามแอ่นพุ่งอันอ้วนกลมไปทางพี่จ๋าให้ดูว่า พุ่งมันหายไปจริง
‘ได้ ถ้าอย่างนั้นต้องอดทนไว้ อย่าเพิ่งแสดงตัวทำตัวเป็น'ผี'ที่ดีแล้วฉันจะหาอาหารที่ดีกว่านี้ให้แก’
เจ้าหนูจ้องมองยามทั้งสองมันเลียริมฝีปาก ก่อนจะพ่นลมหายใจอย่างหัวเสีย
"ก็ได้!" มันตวาดลั่นในหัว "ปลาซิว!ตัวผอมแห้งเหล่านี้น่าเบื่อ! แต่ถ้าหนูไม่ได้กินมื้อใหญ่ หนูจะกลับมากินไอ้สองตัวนี้ก่อน!"
ฟุ่บ! ร่างเล็กนั้นหายวับกลับเข้ามาในคอกม้าความหนาวเย็นยะเยือกภายนอกสลายไปในทันทียามสองคนนั้นมองหน้ากันอย่างงุนงง
"เมื่อกี้ อะไรกัน?"
"ไม่รู้ รีบไปแจ้งเปลี่ยนเวรเถอะข้าไม่อยากอยู่ที่นี่แม้วินาทีเดียว!" ทหารยามทั้งสองขยับถอยห่างจากคอกม้าไปอีกไกลจนแทบจะติดรั้วค่าย
"โครกกกก" เสียงท้องของมีนาดังขึ้นอีกครั้ง ดังกว่าเดิม ร่างกายนี้ มันกำลังกินตัวเอง
"พี่จ๋า หนูหิวแล้วจริงๆ นะ" เจ้าหนูกลับมานั่งกอดเข่าบนตักเธอ ดวงตากลับเป็นสีทอง แต่มันหม่นหมอง
"สัญญาเรื่องมื้อใหญ่มันกินไม่อิ่ม หนูอยากกินไก่ต้มของพ่อจ๋า"
มีนาหลับตาลง ‘เจ้าหนู’
"อะไร" เสียงตอบอู้อี้ ‘เองเป็นผีใช่ไหม? ’
"หนูไม่ใช่ผี!" เจ้าหนูเด้งตัวขึ้น ทำสีหน้าขึงขังราวกับถูกสบประมาทอย่างร้ายแรงกับการที่ถูกเรียกว่า ผี ทั้งๆ ที่มันก็คือ ผี..
"หนูเป็นกุมารเทพ กุมารทอง! กุมารเทพอะรู้จักปะ!" แล้วก็ทำสีหน้ามองพี่จ๋าว่าประมาณเป็นคนบ้านนอกไม่รู้จักกุมารทองอะไรประมาณนั้น
‘เออ เทพก็เทพ 'เทพ' อย่างแกล่องหนได้ใช่ไหม? ผ่านกำแพงได้ใช่ไหม? ไม่มีใครเห็นใช่ไหม?’
เจ้าหนูเริ่มมีชีวิตชีวา เมื่อกำลังจะบอกเล่าถึงความสามารถที่ร้ายกาจของเขา
"แน่นอน! หนูคือสุดยอดนักซ่อนแอบ!หนูเล่นกับพวกพี่ตานี พวกเขาไม่มีใครหาตัวหนูเจอสักกกคน…มันสนุกมากจริงๆ"
เมื่อนึกถึงการเล่นเจ้าอ้วนน้อยก็ยิ้มตาลอย คิดถึงเพื่อนๆ ขึ้นมาแล้ว มีนาแสยะยิ้มมันคือรอยยิ้มแรกนับตั้งแต่เธอทะลุมิติมารอยยิ้มของวิศวกรที่เพิ่งค้นพบเครื่องมือชิ้นใหม่ ‘ดี งั้นเรามาเล่นเกมกัน’
"เกม! เกมอะไร! เกมไล่จับเหรอ!หรือว่าเล่นซ่อนแอบ แต่ว่าหนูเก่งมากจะ พี่จะไหวเหรอ!! "
เจ้าอ้วนลืมความหิวไปชั่วครู่เมื่อนึกถึงการละเล่นที่มันชื่นชอบมาก
‘เกมส่งเสบียง’ เธอจ้องมองความมืดในคอกม้า ‘ฉันต้องการให้เองไปช็อปปิ้งที่โรงครัว’
เจ้าหนูตาโต
"โรงครัว! พี่จ๋าฉลาดที่สุด!หากว่าหิวข้าวก็ต้องไปที่ครัว ที่ครัวมีอาหารแน่นอน เฮ้อ..ทำไมฉันคิดไม่ได้เหมือนพี่สาวน่า มิน่าเล่าพ่อจ๋าจึงบอกว่าพี่สาวฉลาดมาก ที่โรงครัวต้องมีไก่ย่างแน่ๆ!" มันทำท่าจะพุ่งออกไปทันที ภาพไก่ย่างสีเหลืองทองลอยมาวิ๊งวั๊งเต็มหัวไปหมดแล้ว
‘เดี๋ยว!’ มีนาดึงสติเจ้าอ้วนเอาไว้ ‘นี่คือภารกิจลอบเร้นไม่ใช่บุฟเฟ่ต์!’ เธอดึงความรู้ด้านการวางแผนโลจิสติกส์ทั้งหมด มาย่อส่วนให้กุมารทองเข้าใจ
‘กฎข้อที่ 1: ห้ามเด็ดขาด ห้ามให้ใครเห็นห้ามทำเสียงดังและห้ามกินพ่อครัว!’
"โห่ พี่จ๋าขี้งกอะ แล้วแบบนี้มันจะไปสนุกอาไร" ไปทั้งทีไม่ให้หลอก ไม่ให้แว๊บวั๊บให้คนดูสักหน่อย…มันก็จะเสียเที่ยวน่า
‘กฎข้อที่ 2: เอามาเฉพาะของที่มีพลังงานสูง แต่สังเกตเห็นได้ยากขนมหมั่นโถวเนื้อตากแห้ง เกลือเม็ดหรืออะไรก็ได้ที่หยิบมาแล้วไม่มีใครรู้ว่ามันหายไปเราไม่ได้จะกินให้อิ่มเราจะกินเพื่ออยู่รอด จนกว่าวิกฤตนี้ของเราจะหมดไป’
‘กฎข้อที่ 3: นี่คือการทดสอบ ถ้าเองทำสำเร็จฉันจะถือว่าแกมีประโยชน์ และฉันจะเริ่มวางแผนมื้อใหญ่ที่แท้จริงให้แกเอง พ่อจักรบอกไม่ใช่เหรอว่าฉันฉลาด ดังนั้นฉันต้องคิดออกแน่นอน’
ต้องเอาพ่อมาล่องเจ้าอ้วนถึงจะเชื่อหมดใจการผสมผสานระหว่างคำสั่งการติดสินบน และการท้าทายดวงตาสีทองของเจ้าหนูเป็นประกาย
"แค่เนี้ย? ง่ายมาก!" มันยืดอกอ้วนๆ "รอดูฝีมือเทพอย่างหนูได้เลยพี่จ๋า!" ฟุ่บ! มันหายตัวไป
มีนานั่งรอวินาที กลายเป็นนาทีความหิวความหนาวและความวิตกกังวลปะปนกันนี่เธอทำบ้าอะไรลงไป? ส่งผีเด็กไปขโมยของในค่ายทหาร? ซึ่งมันเป็นผีขี้โมโหเสียด้วย เกิดมันเห็นว่าใครยั่วยุมันเหล่า ถ้ามันทำงานพลาดถ้ามันเกิดคลั่งทุกอย่างจบสิ้นสิบนาทีผ่านไป เธอเริ่มใจเสีย มันนานเกินไป มันต้องไปกินพ่อครัวแล้วแน่ๆ!
ฟุ่บ! เจ้าหนูกลับมา มันลอยอยู่ตรงหน้าเธอเอามือไพล่หลังทำหน้าเครียด
"พี่จ๋า"
‘ว่าไง! ทำพลาดเหรอ!’
"คือ ไก่มัน"
‘เองไปยุ่งกับไก่เหรอ!’
"เปล่า! ไก่มันถูกตาเฒ่าหน้าหนวดเฝ้าอยู่! หนูเข้าใกล้ไม่ได้!"
ไอ้หนูทำหน้าจะร้องไห้ เจ็บใจติดหมัดที่เดียว
"หนูเลยได้มาแค่ นี่" มันยื่นมืออวบๆ สองข้างออกมาในมือคือหมั่นโถวสองก้อนเย็นชืดและแข็งเล็กน้อยและเนื้อแผ่นตากแห้ง เค็มๆ หนึ่งชิ้น
มีนาจ้องมองอาหารในมือผี น้ำตาเธอแทบไหลไม่ใช่เพราะความกลัวแต่คือความสำเร็จ!
‘ดีมาก’ เธอเค้นเสียง ‘ดีมากเจ้าหนูเองทำได้ เองช่างเก่งสมกับที่พ่อบอกจริงๆ ’ สองพี่น้องชมกันไปมา เพราะไม่มีคนอื่นให้ชม
"จริงเหรอ! หนูเก่งใช่ไหม!"
เมื่อได้รับคำชมจากพี่จ๋าเจ้าอ้วนก็มีความสุข เต้นดึ้งดั๊งไปมาในอาการจนพุ่งกลมๆ ของมันกระเพื่อม มีนารับหมั่นโถวมามันแข็งเหม็นกลิ่นควันไฟเธอฉีกมันยัดเข้าปากเคี้ยวคิดเพียงว่านี่คือแคลอรี่พลังงานที่จะทำให้เธอมีแรง ห้ามคิดถึงรสชาติโดยเด็ดขาด
"พี่จ๋า แล้ว แล้วของหนูล่ะ?" ไอ้หนูมองตาแป๋ว มีนางุนงง
‘แล้วเองกินของจริงได้เหรอ? ’
"กินไม่ได้แต่หนู 'กิน' กลิ่นได้!" มันลอยเข้าไปใกล้เนื้อตากแห้ง สูดหายใจเข้าลึกๆ "อ่า หอมๆ เค็มๆ อร่อยใช่ได้!" ร่างเรืองรองของมันดูสว่างขึ้นเล็กน้อย มันทำปากหมุบหมับเหมือนกำลังเคี้ยวอาหารอยู่
เมื่อมีอะไรในท้องสมองก็เริ่มทำงานได้อีกครั้ง ตอนนี้มีนาค่อยๆ หันไปมองเจ้าอ้วนน้อยที่กำลังหลับตาทำปากเคี้ยวอาหารและโยกตัวไป ก่อนที่มุมปากขวาของเธอจะค่อยๆ ยกขึ้นมาก แม้ว่าการทะลุมิติของเธอจะมาแบบกระทันหัน (ไรท์) ไม่ได้ให้โอกาสเธอในการเตรียมของจากอนาคตมาเลยเหมือนคนอื่น แต่ว่าเจ้าอ้วนน้อยที่พ่อให้มาก็น่าจะไม่เลว รอยยิ้มของเธอกว้างขึ้นมันล่องหนได้มันทะลุกำแพงได้และที่สำคัญที่สุด มันขโมยของกลับมาได้โดยไม่มีใครเห็น
"พี่จ๋า พี่จ๋ายิ้มอะไร?"
เจ้าหนูถามทำหน้าใสซื่อมีนากลั้นหัวเราะ นี่มันไม่ใช่กุมารทองแล้ว!นี่มันไม่ใช่ภาระ! นี่มันคือตัวเงินตัวทองนำโชค ไม่สิ!นี่มันคือโดรนล่องหนสารพัดประโยชน์ชัดๆ!หากว่าในอนาคต เธอต้องการอะไร ยา? กุญแจคุก? แผนที่จากกระโจมแม่ทัพ? เธอก็แค่ส่งเจ้าอ้วนไปปฏิบัติภารกิจ ไม่เลวเลยทีเดียว มีนาฉีกหมั่นโถวคำต่อไปคราวนี้รสชาติของมันเหมือนกับชัยชนะ
**** ได้ของดีมาต่างหากเนาะอ้วนเนาะ **
