บท
ตั้งค่า

บทที่ 10 เหยื่อล่อ หรือผู้คุมเกม?

บทที่ 10 เหยื่อล่อหรือผู้คุมเกม?

เวลาผ่านไปอีกสองวันชีวิตในคอกม้า เข้าสู่ภาวะปกติที่แปลกประหลาด ทหารยามที่เปลี่ยนหน้าไปทุกวันเพราะไม่มีใครอยากอยู่เวรซ้ำสวัสดิการแย่ขนาดนี้ใครจะอยากมา! ทุกเช้าพวกเขาจะนำชามข้าวต้มเละๆ มา พวกเขามายืนตัวแข็งทื่อห่างออกไปสิบก้าว

"เฮ้ย! โยนเลย!"

"ไม่!สิโยนสิ!"

"ม่าย! ข้าเพิ่งแต่งงาน! ข้ายังไม่อยากดวงกุด!"

สุดท้ายทหารที่ขาสั่นที่สุดจะรวบรวมความกล้า 7ขว้างชามข้าวนั้น! เคร้ง! โครม! ชามไม้กระแทกกับพื้นดินโคลน ข้าวต้มหกกระจาย 7ห่างจากประตูสิบห้าก้าว (ไกลกว่าเมื่อวานอีก!) มีนาที่นั่งพิงกองฟาง ไม่แม้แต่จะเหลือบมอง เธอนั่งนิ่ง หายใจเข้าและหายใจออกไม่ได้ขยับออกจากองศาที่นั่งแม้แต่น้อย

ทหารยามเริ่มกระซิบกระซาบกัน

"เห็นไหม! นางไม่กิน! นังปีศาจมันไม่กินข้าว!"

"ข้าบอกแล้ว มันกินดวงชะตาเป็นอาหาร! เมื่อคืนข้าฝันร้ายต้องเป็นนางแน่ๆ!" ข่าวลือเรื่องตัวซวยตัวกินดวงชะตายิ่งหนาหูขึ้น

มีนาถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ ปลายตามองพวกเขาเล็กน้อย กินดวงชะตาเหรอ?เธอคิดในใจฉันอยากจะกินตับพวกแกมากกว่า โง่ขนาดนี้!

เจ้าพวกบ้านั้นทำข้าวต้มมาทุกวัน ก็เขวี่ยงเข้ามาทุกวัน!!แล้วจะให้เธอกินอย่างไร เธอมองข้าวต้มที่คลุกดินจนกลายเป็นสีเดียวกับมูลม้า ‘ก่อนจะบอกว่าฉันไม่กิน พวกแกน่าจะดูบริการจัดส่ง' (Delivery Service) ของพวกแกก่อนเถอะ คะแนนรีวิว 0.0 ดาว!’ เธอบ่นด่าพวกเขาในใจก่อนที่จะนั่งหลับตาลงอีกครั้งราวกับกำลังปลีกวิเวกอย่างไรอย่างนั้น

แต่เมื่อยามสามผ่านพ้นความมืดสนิทมาเยือนปฏิบัติการ'โกสต์-ไรเดอร์' (Ghost-Rider) ก็จะเริ่มต้น! เจ้าหนูกลายเป็นหน่วยจู่โจมพิเศษ มันคล่องแคล่วขึ้นคืนแรกมันกลับมาพร้อมกับมันเผาสามหัว

"พี่จ๋า! ดู! มันเผา!แต่หัวมันร้อนมาก!หนูลวกมือ (ทิพย์) เลย!"

‘ดีมากแบ่งกันเธอสองฉันหนึ่ง’ มีนาแบ่งสัดส่วนแบบคนดีมีน้ำใจ

"ไม่!หนูหนึ่ง!พี่จ๋าสอง!หนูตัวเล็ก!" เจ้าหนูเถียงก่อนจะลอยไปสูดกลิ่นมันเผาอย่างเมามัน

"อ่า หอมกลิ่นถ่าน เนื้อมันช่างเนียนนุ่มละลายในปากเสียใจ"

คืนที่สองภารกิจยากขึ้นโรงครัวมีคนเฝ้าไอ้หนูหายไปนานจนมีนาเกือบคิดว่ามันแอบไปกินพ่อครัวแล้ว และแล้ว ฟุ่บ! มันกลับมาแล้ว! แต่มันไม่ได้กลับมาเปล่าๆ! ภาพที่เห็นทำให้มีนาแทบสำลักอากาศเจ้าหนูลอยอยู่กลางอากาศแต่มันไม่ได้ลอยธรรมดามันลอยแบบ แอ่นอก! สีหน้าของมันราวกับเพิ่งไปพิชิตแผ่นดินต้าเซียมาได้อย่างไรอย่างนั้น! และในมืออวบๆ สองข้า ที่เล็กเท่านิ้วโป้งมันกำลังแบก

น่องไก่ย่าง!!!

น่องไก่ที่ใหญ่ ใหญ่กว่าหัวของมัน! น้ำมันสีเหลืองทองยังคงหยดติ๋งๆ กลิ่นหอมของเครื่องเทศและเนื้อย่างตลบอบอวลไปทั่วคอกม้าเหม็นๆ!

‘ทะ ท่านเทพกุมารทอง ท่านกุมารเทพ ท่านคือของจริง ฮาฮาฮา!!’ มีนาถึงกับพูดออกมาอย่างไม่รู้ตัว

"พี่จ๋า!" เจ้าหนูตะโกนลั่นสีหน้าท่าทางนั้นไม่ต้องให้บรรยาย

"เรียกหนูว่าผู้พิชิตน่องไก่ที่แท้ทรู!"

มันลอยมาวางน่องไก่ลงบนกองฟางที่สะอาดที่สุดด้วยท่าทางราวกับกำลังถวายเครื่องราชบรรณาการ

"ตาเฒ่าหน้าหนวดย่างไก่หลายน่องวันนี้มันเผลอ! หนูก็เลย ฉก!" เจ้าอ้วนทำท่าฉกโชว์

"เร็วป่ะล่ะ! เร็วกว่าพ่อจ๋าอีก!"

มีนามองน่องไก่แล้วมองผีเด็กเธอวิศวกรโยธา กำลังจะได้รับสารอาหารโปรตีนจากการโจรกรรมโดยสิ่งเหนือธรรมชาติ

'เก่ง เก่งมาก เก่งสุดยอดเลย ช่างสมกับเป็นกุมารเทพในการขโมยของจริงๆ’ คำชมไม่ใช่ของสิ้นเปลืองเธอจึงจัดให้เจ้าอ้วนน้อยเน้นๆ

"แน่นอน!" เจ้าหนูยืดอกจนพุงที่กลมอยู่แล้วยิ่งกลมขึ้น คืนนั้นสองพี่น้อง (คนกับผี) ต่างก็นั่งแบ่งน่องไก่กันอย่างมีความสุขในคอกม้าเก่าซอมซ่อแห่งนี้ มีนาฉีกเนื้อไก่ที่นุ่ม เคี้ยวช้าๆ นี่คือโปรตีนมื้อแรกในรอบหลายวัน เจ้าหนูลอยวนรอบน่องไก่สูดกลิ่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

"อ่า หอม อร่อย อิ่ม" มันตบพุง (ทิพย์) ดังปุๆ ร่างกายของหลิวซือซือ แม้จะยังผอมและสกปรกขั้นสุดแต่ไม่สั่นเทาอีกต่อไปดวงตาของเธอที่เคยพร่ามัวเพราะความหิวบัดนี้เริ่มมีประกาย

มีนาหรือตอนนี้ต้องเรียกว่าหลิวซือซืออย่างแท้จริงแล้วเธอไม่ได้แค่รอกินจากเจ้าอ้วนเท่านั้นแต่เธอกำลังทำงาน เธอใช้เวลาทั้งวันจ้องมองผ่านรอยแตกของผนังไม้คอกม้าที่ฉีเจิ้นคิดว่าเป็นคุกบัดนี้ได้กลายเป็นหอสังเกตการณ์ที่ดีที่สุดในค่าย! เธอมักจะให้เจ้าอ้วนบินดูรอบๆ ค่ายและมาบอกว่าเจอสิ่งใดบ้างในค่ายแห่งนี้ จากนั้นเมื่อได้ข้อมูลจากโดรนล่องหนส่วนตัวของเธอแล้วก็นำข้อมูลเหล่านั้นมาประมวลผลทันที ก็นะถึงแม้ว่าจะทะลุมิติแล้วตัวเธอก็คือตัวเธอจะไม่ให้คิดคำนวณเลย มันจะเป็นไปได้อย่างไร ดังนั้นหลังจากหลายวันผ่านได้เธอจึงได้ข้อสรุปสำหรับค่ายแห่งนี้มาดังนี้

‘1: การจัดการน้ำ’ เจ้าอ้วนบอกว่าเห็นทหารเดินไปตักน้ำจากบ่อเดียวที่อยู่ท้ายค่ายและมันอยู่ต่ำกว่าเนินที่ใช้เป็น 'ส้วมหลุม' ‘ข้อสรุปพวกเขากำลังดื่มน้ำปนเปื้อนเชื้อโรคนี่คือสาเหตุที่ทหารท้องร่วงตายมากกว่าโดนฟัน’

‘2: การจัดการผู้ป่วย’ เจ้าอ้วนบอกว่าเห็นทหารที่บาดแผลเล็กน้อยถูกโยนเข้าไปในกระโจมพยาบาลและไม่ได้ออกมาอีก พวกเขาใช้ผ้าพันแผลผืนเดิม เช็ดบาดแผลให้คนหลายคน ‘ข้อสรุป: สุขอนามัยพื้นฐาน = 0 พวกมันกำลังแพร่เชื้อใส่กันเองช่างอนาจนัก แบบนี้ไม่ต้องปกป้องดินแดนให้พี่น้องหรอก ดูแลตัวเองยังทำไม่ได้ ใครกันนะที่เป็นคนสั่งสอนพวกเขาแบบนั้น’

‘3: การจัดการเสบียง’ อ้วนน้อยบอกว่าเห็นทหารโรงครัวเอาข้าวสารที่เริ่มชื้นเททับลงไปบนข้าวสารเก่า ‘ข้อสรุป: First-In, First-Out (FIFO) คืออะไร พวกเขาไม่รู้จัก! พวกเขากำลังเร่งให้ข้าวเน่าเสียเร็วขึ้น!’

หลิวซือซือทุบกำปั้นลงบนพื้นนี่มันไม่ใช่กองทัพนี่มันคือการฆ่าตัวตายหมู่! แม่ทัพฉีเจิ้นแม่ทัพที่ดูฉลาดคนนั้นกำลังนั่งบัญชาการอยู่บนกองขยะที่รอวันระเบิด!

"นี่มันน่าสมเพชจริงๆ แบบนี้หากข้าศึกมาพวกเขาตายเรียบแน่ เฮ้อสงสารก็แต่ครอบครัวลูกเมียที่รออยู่ที่บ้าน" เธอกระซิบ

"พี่จ๋า พี่จ๋าบ่นอะไร?" เจ้าหนูลอยมาถาม

"คืนนี้เอาอะไรดี? หนูว่าหนูเห็นทางเข้าห้องเก็บเกลือแล้วนะ!"

หลิวซินซินชะงักเกลือ ใช่ เกลือ แม่ทัพฉีเจิ้นกำลังใช้เธอเป็นเหยื่อล่อเขารอให้หนอนบ่อนไส้มาติดต่อเธอ แต่มันผ่านมาสามวันแล้วไม่มีใครมาทำไม? เพราะเหยื่อที่ถูกตราหน้าว่าตัวซวยมันอันตรายเกินกว่าที่ใครจะเข้าใกล้! แผนของฉีเจิ้นมันล้มเหลว! เขาขังเธอไว้และลืมเธอเขาประเมินความกลัวโชคลางของทหาร ต่ำเกินไปและเขาประเมินความอดทนของเธอ ต่ำเกินไปเช่นกัน

‘ตกลงในเมื่อท่านไม่เรียกฉัน’ มีนาลุกขึ้นยืน ‘ฉันจะไปหาท่านเอง’

เธอจะไม่รอนางจะบังคับให้เกมขยับ

"เจ้าหนู"

"จ๋า พี่จ๋า?"

"ภารกิจคืนนี้ เปลี่ยนแผน"

"โอ้! เอาไก่ใช่ไหม!" เป้าหมายเรื่องไก่ยังเป็นที่ต้องการของเขาอยู่

"ไม่ใช่" แววตาของหลิวซินซินคมกริบราวกับมีดผ่าตัด "คืนนี้ เราจะไป'ช็อปปิ้ง'ที่ห้องทำงานของฉีเจิ้น" เจ้าหนูตาโต

"ห้องเจ้าหน้าน้ำแข็งนั่นน่ะเหรอ!?"

"ใช่ ฉันต้องการบัญชี...บัญชีเสบียงของค่ายนี้"เธอแสยะยิ้ม "ในเมื่อเขาไม่ยอมรับว่าฉันมีสมองฉันก็จะแสดงให้เขาเห็นว่าวิธีของฉันสามารถช่วยชีวิตกองทัพเน่าๆ ของเขาได้อย่างไร"

"แต่ แต่พี่จ๋ามันอันตรายนะ!" เจ้าหนูกุมารทองผู้พิชิตน่องไก่ที่แท้ทรูบัดนี้ทำหน้าเหมือนซาลาเปาโดนน้ำร้อนลวก "เจ้าหน้าน้ำแข็งนั่นมันมี 'กลิ่น' กลิ่นเหมือนพวกปู่ครู มันเก่งนะ!"

"ฉันรู้"

หลิวซินซินหรือมีนาในโหมดปฏิบัติการยืนประจันหน้ากับประตูคอกม้าที่ผุพัง แม้ว่าเธอจะมองทะลุมันไปไกลถึงกระโจมบัญชาการ แววตาของเธอ คมกริบราวกับมีดผ่าตัด

"นั่นคือเหตุผล ที่ฉันต้องไปพบหนอนบ่อนไส้ตัวจริง คืนนี้"

เจ้าหนูตาโต

"พบหนอน? คืนนี้? แต่พี่จ๋าพี่จ๋าจะออกจากที่นี่ได้ยังไง?" มันชี้ไปที่สลักไม้ด้านนอก

"ประตูล็อกนะ!"

มีนาแสยะยิ้มรอยยิ้มของวิศวกรที่มองเห็นปัญหาเป็นแค่สมการที่รอการแก้ไข

"สำหรับเองนั่นคือสลักไม้ สำหรับฉัน นั่นคือจุดอ่อนของระบบ"

ค่ายอุดรเงียบสงัด มีเพียงเสียงลมหนาวที่พัดผ่านธงทัพขาดๆ ทหารยามเวรดึก ที่ถูกบังคับให้มาเฝ้าหน้าคอกม้า บัดนี้นั่งกอดเข่าหลับใน ห่างออกไปไกลถึงยี่สิบก้าว (ระยะปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นทุกคืน) ภายในคอกม้า มีนายืนอยู่หน้าประตู มือของเธอกำเศษเหล็กที่เธอแอบดึงออกมาจากรางม้าเก่าๆ

"เจ้าหนู" เธอกระซิบ

"จ๋า!"

"ปฏิบัติการ 'ช็อปปิ้ง' คืนนี้มีสองเป้าหมายหนึ่งบัญชีเสบียงที่กระโจมฉีเจิ้นสอง"

เธอเหลือบมองเจ้าอ้วนที่ทำตาแป๋ว ราวกับว่ากำลังรอคอยคำสั่งที่สำคัญที่สุด มันทำสีหน้าลุ้นจนเธออ่อนใจ แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ

"ได้!! สอง ไก่ย่างที่โรงครัว"

"เยส! พี่จ๋าใจดีที่สุดในโลก!"

อ้วนน้อยแทบจะตีลังกาด้วยความดีใจ พุ่งกลมเด้งดึ้งไปมาเมื่อเขาพยายามจะเต้น

"เงียบ!" มีนาปราม

"กฎเหมือนเดิมล่องหนห้ามเสียงดังห้ามกินคนและกฎข้อใหม่ที่สำคัญที่สุด" เธอจ้องไอ้หนูเขม็ง

"แล้วก็!! ห้ามกินไก่จนหมดเข้าใจไหม?"

"รับทราบ!" เจ้าหนูทำท่าตะเบ๊ะ ก่อนจะพุ่งทะลุผนังออกไปอย่างรวดเร็วปานสายฟ้ามุ่งหน้าสู่โรงครัว ส่วนมีนาเธอหันกลับมาที่ประตู ‘โอเคสลักไม้ธรรมดากลอนขัดแนวนอนใช้หลักการคานงัด’ เธอสอดเศษเหล็กเข้าไปในรอยแตกของประตู ค่อยๆ เลื่อนมันร่างกายนี้ยังอ่อนแอแต่สมองสมองของเธอคืออาวุธที่ร้ายกาจที่สุด

“แกรก!!”

เสียงสลักไม้ถูกดันดังขึ้นเบาๆ เธอแข็งทื่อ ทหารยามขยับตัวแล้วก็กรนต่อไปมีนาถอนหายใจ ‘ระบบรักษาความปลอดภัยติดลบ’ เธอเปิดประตูแง้มออกอากาศเย็นยะเยือกปะทะใบหน้าที่มอมแมมนี่คืออิสรภาพก้าวแรก

****สองพี่น้องออกปฎิบัติการแล้ว ***

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel