บท
ตั้งค่า

บทที่ 11 ผีขโมยไก่ย่าง!!

บทที่ 11 ผีขโมยไก่ย่าง!!

ณ โรงครัวเจ้าหนูกุมารทองผู้พิชิตน่องไก่กำลังเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจตาเฒ่าหน้าหนวด พ่อครัวจอมขี้เหนียว!คืนนี้ตาเฒ่าไม่ได้หลับเขานั่งสับเขียงเสียงดังปังๆ อยู่คนเดียว ข้างๆ เขามีไก่ย่างเหลืองอร่ามของเหล่าแม่ทัพนายกองวางอยู่!

"สองน่อง! พี่จ๋าต้องดีใจมากแน่ๆ!" ไอ้หนูน้ำลาย (ทิพย์) ไหล

มันลอยเข้าไปใกล้ ช้าๆ ตาเฒ่าสับเขียง จ้าหนูลอยไปทางซ้าย ตาเฒ่าหันขวับ!

"ใครน่ะ!"

เจ้าหนูแข็งทื่อ! ‘ซวยแล้ว! ตาเฒ่าผู้นี้เห็นเหรอ!’

ตาเฒ่าตะโกนเข้าไปในความมืด

"ถ้าเป็นพวกมาลักไก่ล่ะก็ ข้าสับไส้แตกแน่!" เขาชูมีดอีโต้ขึ้นขู่ ไอ้หนูเหงื่อ (ทิพย์) ตก ‘โหดกว่าพ่อจ๋าอีก!’ มันต้องใช้แผนมันลอยไปที่กองฟืนใช้พลังน้อยนิด เป่าลม ฟู่! ขี้เถ้าฟุ้งกระจาย!

"เฮ้ย! อะไรวะ! แค่กๆๆ!" ตาเฒ่าไอโขลก เอามือปิดหน้า และในจังหวะนั้นเอง!

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ไอ้หนูเคลื่อนไหวเร็วดุจสายฟ้า! มืออวบๆ สองข้าง คว้าไปที่น่องไก่ทั้งสอง!

"แค่กๆ หายใจไม่ออก ไอ้ลมบ้า"

เมื่อขี้เถ้าจางลง ตาเฒ่าลืมตาขึ้น เขียงยังอยู่ มีดยังอยู่ แต่น่องไก่ น่องไก่ทั้งสอง หายไปแล้ว!

"อ๊ากกกกก!!!" เสียงร้องโหยหวนของตาเฒ่าดังลั่นไปทั่วโรงครัว

"ผี! ผีหลอก! ผีค่ายอุดรขโมยไก่ย่างข้า!!!"

เจ้าหนู ที่กำลังแบกน่องไก่สองน่องบินทะลุหลังคาหัวเราะคิกคัก

"สำเร็จ! พี่จ๋าต้องชมหนูแน่!"

ในเวลาเดียวกัน ณกระโจมบัญชาการ ม่านกระโจมถูกเปิดออกอย่างเงียบเชียบร่างผอมบางในชุดมอมแมม ก้าวเข้ามามีนาเหยียบย่ำเข้ามาในถ้ำสิงโตกระโจมเงียบสงัด มีเพียงแสงตะเกียงที่วูบไหวและกลิ่นยาสมุนไพรโต๊ะทำงานว่างเปล่ากองม้วนสารวางเป็นระเบียบแต่เจ้าของห้องไม่อยู่

‘การคำนวณผิดพลาด!’ มีนาใจหายวาบ ‘เขาควรจะอยู่ที่นี่! เขาทำงานหนักไม่ใช่เหรอ!คงจะไม่รีบหนีไปนอนหรอกมัง แล้วหายไปไหนเนี่ย’

เธอรีบตรงไปที่โต๊ะสายตากวาดหา บัญชี! บัญชีเสบียง! มันต้องอยู่แถวนี้!เธอรื้อม้วนไม้ไผ่ ‘ไม่ใช่ นี่มันยุทธศาสตร์การรบ’ ‘ไม่ใช่นี่มันรายงานทหารบาดเจ็บอยู่ไหน!’

"หาอะไรอยู่ 'ตัวอัปมงคล'?"

!!!

เสียงนั้นเย็นเยียบดังมาจากด้านหลังเธอ!มีนาแข็งทื่อ!เธอค่อยๆ หันกลับไปแม่ทัพฉีเจิ้นยืนอยู่ที่นั่นเขาไม่ได้อยู่ในชุดเกราะ แต่อยู่ในอาภรณ์สีดำสำหรับพักผ่อนเขากอดอกพิงเสากระโจมในเงามืด ดวงตาที่ว่างเปล่าคู่นั้นจ้องมองเธอราวกับมองหนูที่ติดกับเขาไม่ได้ออกไปไหนเขา รอ อยู่แล้ว!

"ฉลาด" เขาเอ่ย เดินช้าๆ ออกมาจากเงามืด

"ฉลาดที่รู้ว่าข้าใช้เจ้าเป็นเหยื่อล่อฉลาดที่รู้ว่าแผนข้าล้มเหลว เพราะไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เจ้าและฉลาด" เขาหยุดยืนตรงหน้าเธอ

"ที่ตัดสินใจ เดินเข้ามาหาข้าเอง"

มีนาหัวใจเต้นระรัว ‘บัดซบ! ตกหลุมพราง!เขารู้! เขารู้ว่าฉันจะออกมา!’

"เจ้าหนีออกมาได้ยังไง? สลักประตูนั่นออกจะใหญ่และแน่นหนาขนาดนั้น แม้แต่ม้าที่พวกข้าขังเอาไว้ยังออกไม่ได้เลยนะ" เขาถามเรียบๆ มีนาเหลือบตามองเขาวูบหนึ่ง นี่เจ้าหน้าน้ำแข็งด่าว่านางแข็งแรงกว่าม้ารึนี่..โอยยย เจ็บ!!

"มัน!!เออ ..คือ… คือว่ามันค่อนข้าง ผุ"

เธอบีบเสียงตอบพลางพยักหน้าเพื่อจะยืนยันว่าประตูผุจริง ร่างกายเริ่มสั่น ซึ่งคราวนี้สั่นจริง เพราะกลัวโดนจับ ฉีเจิ้นเลิกคิ้ว

"ผุงั้นรึ" เขามองไปที่มือของเธอ ที่ยังกำเศษเหล็กไว้แน่น

"ข้าว่า มันคงไม่ได้ผุเอง"

จบแล้ว!เธอถูกจับได้คาหนังคาเขา!

"ท่านแม่ทัพ!"จางเหยียนดังขึ้นหน้ากระโจม!

"เกิดเรื่องครับ! พ่อครัวเฒ่าอ้างว่าผีขโมยไก่ครับ!"

ความเงียบความเงียบที่กระอักกระอ่วนที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติจีนมีนาพยายามกลั้นขำสุดชีวิต ฉีเจิ้นขมวดคิ้วนายกองจาง ทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้

"ผี ขโมยไก่?" ฉีเจิ้นทวนคำ น้ำเสียงของเขาเหมือนอยากจะฆ่าคน

"ขอรับ! น่องไก่สองน่องหายไปจากเขียง พ่อครัวเฒ่าสติแตกไปแล้วครับ!"

ฟุ่บ!

ในเสี้ยววินาทีนั้น มีนาเห็นมันบางสิ่งลอยลิ่วผ่านช่องว่างของม่านกระโจมที่เปิดอยู่มันคือเจ้าหนูกุมารทองน้อยของเธอ!ผู้พิชิตน่องไก่ที่แท้ทรูมันลอยเข้ามาแบกน่องไก่สองน่องบนบ่าท่าทางแอ่นอกราวกับแม่ทัพผู้ชนะศึกและมันกำลังจะลอยตรงมาหาเธอ ตรงหน้าฉีเจิ้น!

"พี่จ๋า! สำเร็จ! ดูนี่สิ! สองน่องเลย!" เสียงเจ้าหนูดังลั่น ในหัวของเธอ

‘หยุด! เจ้าผีบ้า! ซ่อนเดี๋ยวนี้! ABORT!! MISSION! ABORT! ยกเลิกภารกิจ!! ยกเลิกภารกิจทันที เจ้าอ้วน! ’

มีนากรีดร้องในจิตแต่ใบหน้ายังคงพยายามรักษาสีหน้า นักโทษผู้สำนึกผิดแม้ว่าตาจะเหลือกเล็กน้อย เจ้าหนูที่กำลังดีใจชะงักกึก! มันเห็นเจ้าหน้าน้ำแข็งมันเห็นพี่จ๋ากำลังยืนตัวแข็งมันเห็นเจ้าหน้าน้ำแข็งกำลังจ้องมาที่มัน!อย่างน้อยมันก็คิดอย่างนั้น เจ้าหนูกุมารทองกุมารเทพผู้พิชิตน่องไก่ บัดนี้กลายเป็นผู้ก่อการร้าย มันแข็งทื่อกลางอากาศ มืออวบๆ ยังค้างในท่าปล่อย

"ชะ ชิบ…" (เสียงในหัวที่สั่นสะท้าน) "พี่จ๋า มัน มันโดนหัวเจ้าหน้าน้ำแข็ง"

และฉีเจิ้น แม่ทัพพยัคฆ์อุดรบุรุษผู้เย็นชาดุจน้ำแข็งพันปีผู้ซึ่งเพิ่งสระผมบัดนี้เขากำลังยืนนิ่ง โดยมีน้ำมันไก่ย่าง สีเหลืองทอง ค่อยๆ ไหลเยิ้มจากเส้นผมสีนิลลงมาอาบแก้ม

ติ๋ง น้ำมันหยดหนึ่งหยดลงบนบ่าของเขาในกระโจม เงียบกริบเงียบจนได้ยินเสียงหัวใจของนายกองจางเต้น ตึก ตึก ตึก

"เจ้า"

เขาเค้นเสียงใบหน้าที่มีเพิ่งเห็นชัดๆ ว่าหล่อเหลาราวหยกสลักผิดที่ผิดทางบิดเบี้ยวด้วยความโมโห

"อธิบายมา"

อธิบาย? มีนาสูดหายใจเข้าลึก ‘ อธิบายอะไร? อธิบายว่าโดรนกุมารทองของฉันทำหลักฐานตกใส่หัวท่านงั้นรึ? ’ สมองของเธอที่ประมวลผลเร็วกว่าเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ บัดนี้กำลังขึ้นจอฟ้าError 404' มีนาสูดหายใจเข้าลึก ‘โอเคสถานการณ์เลวร้ายที่สุดแผน B ล้มเหลว เดินหน้าแผน C: ซึ่งเป็นแผ่นที่สำคัญและสามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์นั้นคือการ…แถ!’

เธอเลิกสั่นเธอยืดตัวตรงเธอมองหน้าฉีเจิ้นมองคราบน้ำมันบนใบหน้าคมคายนั้นแล้วเธอก็ยื่นมือไปหยิบน่องไก่ขึ้นมาหนึ่งน่อง

"!!!" (ฉีเจิ้น / จางเหยียน / ไอ้หนู)

ทั้งสามชีวิตกับอีกหนึ่งวิญญาณตกตะลึงพรึงเพริด!นี่นาง นางนักโทษตัวอัปมงคลไม่เพียงแต่บุกรุก! ไม่เพียงแต่ทำไก่ตกใส่หัวแม่ทัพ! บัดนี้นาง กล้าหยิบหลักฐานการก่ออาชญากรรมนั้นขึ้นมาถือไว้! นายกองจางเหยียนเบิกตากว้างจนแทบถลนเขาคิดว่าเขาตายแล้วนี่คือนรกขุมที่ไก่ย่างหล่นใส่หัวแม่ทัพเป็นแน่แท้

"ท่านแม่ทัพ" มีนาเอ่ย เสียงเรียบ แม้ว่าในใจนางกำลังพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ขำจนกระโจมแตก

"ท่านต้องการคำอธิบาย เรื่องใด?"

ฉีเจิ้นที่ตอนนี้ใบหน้าดำทะมึนยิ่งกว่าก้นหม้อที่โรงครัวเขาไม่พูดเขาเพียงแค่ชี้ นิ้วที่กร้านศึกชี้ไปที่เส้นผมที่มันเยิ้มของตัวเองแล้วชี้มาที่น่องไก่ในมือเธอ

"อ้อ เรื่องไก่" มีนาพยักหน้าทำหน้าตาสุจริตราวกับว่าการมีไก่ย่างหล่นใส่หัวแม่ทัพเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ทุกวันอังคาร เธอยกน่องไก่ขึ้น ดมเล็กน้อย

"อืม กลิ่นหอมดีนะ พ่อครังใช้ได้ทำถึงเครื่องดีจริงๆ" เจ้าหนูที่ซ่อนอยู่หลังม่านพยักหน้าเห็นด้วยอย่างแรง เพราะมันเองก็ดมมาตลอดทางจนตอนนี้กลิ่นไก่ย่างหายลงท้องของมันไปเยอะมากแล้ว

"ข้าคิดว่า นี่คือสิ่งที่ท่านนายกองจางเรียกว่าผีขโมยไก่กระมัง"

เธอหันไปยิ้มให้จางเหยียน พลางพยักหน้าให้เขาราวกับเป็นเพื่อนสนิทของตัวเอง

"ดูเหมือนว่าผีค่ายอุดรจะทำงานได้มีประสิทธิภาพกว่าหน่วยพลาธิการของท่านเสียอีก"

"เจ้า เจ้า!!!" นายกองจางแทบกระอักเลือดนี่มันไม่ใช่แค่การหมิ่นประมาท นี่มันคือการเอาส้นเท้ามาบดขยี้หน้าเขาแล้ว! นี่มันคือการหยามกันซึ่งๆ หน้า! และยังหน้าด้านหันมาพยักหน้าให้เขาอีก

"ท่านแม่ทัพ!" จางเหยียนล้มลงคุกเข่าทันที

"นาง! นางต้องเป็นพวกเดียวกับผีนั่น! นางคือปีศาจเป็นพวกเดียวกับพวกหน้ากากกระดูก! สั่งประหารนางเถอะขอรับ! ล้างซวยให้ค่ายเรา!"

ฉีเจิ้นไม่พูดไอเย็นสังหารแผ่ออกมาจากร่างแต่เขายังคงจ้องมีนา รอคอย

"ท่านแม่ทัพ" มีนาไม่สนใจจางเหยียนที่กำลังตีโพยตีพาย เธอมองตรงไปที่ดวงตาว่างเปล่าของฉีเจิ้น

"ข้าถูกขังถูกตราหน้าว่าอัปมงคลถูกทหารของท่านโยนข้าวต้มคลุกดินให้กินราวกับสุนัข"

เธอเหวี่ยงน่องไก่ในมือ ราวกับทนายที่กำลังนำเสนอหลักฐานชิ้นเอกในศาล

"ข้าหิวและข้าก็เป็นคนดี คนบริสุทธิผู้หนึ่ง และเมื่อคนเราหิวและเป็นคนดีบางครั้ง สวรรค์ก็เมตตา" นางจะเล่าแบบนี้ใครจะทำไม อยากว่านางเป็นตัวอัปมงคลดีนัก

"สวรรค์?" ฉีเจิ้นแค่นเสียงเสียงนั้นเย็นเยียบจนน้ำมันไก่บนหัวแทบจะแข็งตัว

"เทพบนสวรรค์ของเจ้า มาในรูปแบบของไก่ย่างรึ?"

มีนาเหลือบตามองเจ้าอ้วนที่พยายามแอบอยู่หลังม่านแต่ว่าด้วยพุ่งที่ใหญ่ทำให้เธอเห็นพุ่งเจ้าอ้วนล้นออกมา นั้นไงเทพสวรรค์ของฉัน!!ลอยแอบอยู่หลังม่านพุ่งพุ้ยอยู่นั้นไง!!!

"อาจจะใช่" มีนาไม่หลบตา

"เพราะสวรรค์คงรู้ว่าท่านแม่ทัพ ไม่โปรดปรานไก่ย่าง" เธอยังอุตส่าห์แขวะเขาเรื่องที่ไก่ตกใส่หัว!

"แต่ไก่ชิ้นนี้ มันไม่ใช่แค่ไก่"

"แล้วมันคืออะไร?"

"มันคือ หลักฐาน" เสียงของเธอเฉียบขาด! บรรยากาศตลกร้ายหายไปในบัดดล!

เธอพลิกสถานการณ์ทันที!

"ท่านนายกองจางท่านบอกว่าพ่อครัวเฒ่าโวยวาย?"

"ช ใช่!" จางเหยียนสะดุ้งเผลอขานรับนักโทษโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้เขานั้นราวกับถูกสอบสวนโดยทนายก็ไม่ปาน

"เขาโวยวายเพราะไก่สองน่องนี้คืออาหารมื้อเย็นของ'นายกอง' คนใดคนหนึ่งใช่หรือไม่?"

จางเหยียนอ้าปากค้างเหงื่อแตกเขาตอบไม่ได้เพราะเขาก็รู้! ทหารเลวได้กินแค่ข้าวต้ม! มีนาหันกลับไปหาฉีเจิ้น

"ท่านแม่ทัพ ท่านบอกว่าค่ายของท่านกำลังจะตาย ทหารของท่านผอมโซ เดินโซเซ กินข้าวต้มผสมน้ำโคลน"

เธอชูน่องไก่ขึ้นสูงให้น้ำมันหยดสุดท้ายหยดลงบนม้วนสารยุทธศาสตร์ของเขา

"แล้วไก่ย่างหอมกรุ่นปรุ่งเครื่องอย่างดีนี่ มันมาจากไหน!"

"ในขณะที่ทหารแนวหน้ากำลังจะอดตายแต่กลับมีใครบางคนสามารถสั่งให้ในโรงครัวย่างไก่ย่างให้กินอย่างสุขสบายท่านแม่ทัพใหญ่จะตอบคำถามนี้อย่างไร!"

***ท่านเทพสวรรค์ยืนดีๆหน่อย พุ่งออกแล้ว ****

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel