บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 สะใภ้หวัง

โจวหยวนจะขึ้นเขาไปขุดหน่อไม้ รั่วหลานจึงอยากตามไปดูด้วย ทุกเรื่องที่นี่ล้วนแปลกใหม่สำหรับนางทั้งหมด นางเป็นภรรยาชาวบ้านธรรมดาที่ทำอาชีพนายพรานหาของป่าไปขาย นางยอมรับในตัวตนเขาแล้ว ไหนเลยยังจะทำตัวเป็นคุณหนูในห้องหอได้อีก วันนี้นางอยากหาประสบการณ์ใหม่บ้าง อย่างเช่นการขุดหน่อไม้ที่ชาวบ้านทำกันเป็นประจำ

โจวหยวนที่ใส่เสื้อตัวสั้นกับกางเกงขายาวสีน้ำตาล ใช้ผ้าสีดำรัดเอว สะพายกระบุงเดินนำหน้า คอยหันมองรั่วหลานเป็นระยะ

หญิงสาวใส่ชุดสีเขียวใบบัวที่เขาซื้อให้ เดินขึ้นเขาตามหลังเขาไปติดๆ แม้จะเหนื่อยหอบแต่นางไม่บ่นสักคำ ทำเพียงมองตามแผ่นหลังกว้าง เรือนร่างเขาสูงใหญ่ แผ่นหลังเหยียดตรง รูปร่างของเขากำยำหนุ่มแน่น เนื้อกายของเขา นางเห็นมาหมดแล้ว ล้วนชวนใจสั่น ร่างกายที่งดงามเกินไปของเขาทำให้นางหน้าแดง แม้เขาจะผิดคล้ำแดด แต่โดยรวมแล้วเขากลับดูดีจนน่าใจหาย เขาใช่เกิดในหมู่บ้านกลางป่ากลางดงจริงหรือ นางได้แต่คิด แต่ยังไม่กล้าถามเขามาก รออีกหน่อยก็แล้วกัน

ในระหว่างที่นางใจลอย โจวหยวนหยุดเดิน เงยหน้าขึ้นมองลำไผ่อวบอ้วนก่อนจะมองไปข้างหน้า เขาหยิบมีดในกระบุงตัดไม้ขนาดท่อนแขน เหลาปลายแล้วโยนมีดกลับใส่กระบุง จากนั้นเริ่มขุดหน่อไม้ทันที เขาทำงานรวดเร็ว ขุดดินไม่กี่ครั้งก็ได้หน่อไม้มาสามหน่อ เขาหันมาพยักหน้ากับนางครั้งหนึ่งแล้วเดินขึ้นเขาต่อไป

รั่วหลานให้เขาเหลาไม้ให้นางบ้าง นางลองขุดหน่อไม้ไปสองครั้งก็เหนื่อยหอบ แต่ก็ช่วยเขาทำงานต่อไป แม้ความเร็วจะไม่เท่าเขา แต่ก็ยังได้ช่วย ทั้งสองได้หน่อไม้ใกล้เต็มกระบุงแล้ว เขาจึงพานางไปล้างหน้าล้างมือที่น้ำตกสายเล็กๆ

อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาว โจวหยวนดึงนางมาข้างกาย เขามองขึ้นไปด้านบน บนนั้นเป็นตาน้ำตก มีหินใหญ่และร่มไม้ ชาวบ้านที่ขึ้นเขามาหาของป่ามักแวะที่นั่นบ่อยครั้ง เขาจึงพารั่วหลานเดินลัดเลาะขึ้นไป ก่อนจะพ้นต้นประดู่แดงต้นใหญ่กลับต้องชะงักเท้า

“อา ดี ดีเหลือเกิน อูย หวังซูเหนียง เจ้าเก่งจริงๆ” เสียงบุรุษหนุ่มฉกรรจดังขึ้น น้ำเสียงแหบพร่า ไม่บอกก็รู้ว่ากำลังทำสิ่งใด

โจวหยวนหยุดกึกอยู่ตรงนั้น รั่วหลานกลับตัวแข็งทื่อ

“ข้าดีกว่าโจวหยวนหรือไม่”

“ดีๆ”

“ดีอย่างไร อูย ดีกว่าอย่างไร อ่า เจ้าตอบมาก่อน”

“ดีมาก ท่านดีมาก ท่านไม่เคยปฏิเสธข้าสักครั้ง ส่วนพี่โจวทำกับข้าแค่บางครั้งเท่านั้น เขาทำมากสุดแค่สามครั้ง แต่ท่านดีมาก ท่านทำจนข้าพอใจ พี่เฮ่อ ท่านดีจริงๆ”

ฟังมาถึงตรงนี้รั่วหลานก็ชะงักไป นางทำใจยืนอยู่ที่ตรงนั้นไม่ได้แล้วจึงหันหลังจากไปทันที แต่โจวหยวนกลับคว้าแขนนางไว้ ลากไปหลบหลังหินใหญ่

“เมียรักกินน้ำส้ม[1] หรือ”

[1] กินน้ำส้มหรือน้ำส้มสายชู เป็นการเปรียบเปรยการหึงหวง

“ท่านกับหวังซูเหนียงนั่นเคยทำเรื่องอย่างว่ามาก่อนใช่หรือไม่”

“อือ”

“เช่นนั้น... อือ” นางยังพูดไม่ทันจบก็ถูกโจวหยวนจุมพิตหนักหน่วง ซ้ำเขายังล้วงมือเข้าไปในสาบเสื้อ เคล้นคลึงเต้าอวบอิ่มของนาง

“นางใช้ร่างกายแลกอาหาร คนหนุ่มแรงมากเช่นข้าไหนเลยจะปฏิเสธ” เขากระซิบบอกนางเสียงพร่า

“เช่นนั้นท่านก็ไปทำกับนางเถอะ” จะไม่ให้นางแง่งอนได้อย่างไร คนเขาพูดอยู่ทนโท่เช่นนั้น

“ข้ามีเมียรักที่ถูกใจ ซ้ำยังงดงามไปทั้งตัว จะไปยุ่งกับหวังซูเหนียงอีกทำไมกัน”

สามีรุก ภรรยาแม้จะไม่อยากรับแต่ก็ห้ามเขาไม่ได้ สุดท้ายจึงสุขสมกันอยู่อีกด้านของคู่เร่าร้อนต้นเรื่อง

ผ่านไปพักใหญ่โจวหยวนพารั่วหลานกลับลงมา จนถึงกระท่อมก็พากันไปอาบน้ำที่ลำธาร ขณะกอดนางนั่งอยู่ในน้ำเขาก็พูดขึ้น

“หวังซูเหนียงหลับนอนกับบุรุษในหมู่บ้านหลายคน นางจำเป็นต้องหาเลี้ยงปากท้องสามชีวิต ตัวนางเป็นคนต่างหมู่บ้าน ไม่มีความสามารถใด จำต้องแลกเนื้อหนังเพื่อประทังชีพ”

แบบนี้จะต่างอะไรกับหญิงนางโลม “ที่บ้านนางรู้หรือไม่”

“บ้านเดิมนางอยู่ไกล ที่นี่มีแค่แม่สามีชรากับบุตรชายยังเล็ก” แน่นอน แม่สามีนางรู้ แต่นางฉลาดพอ ไม่อย่างนั้นก็อดตาย

“แต่ถึงกระนั้น แม่สามีไม่ตำหนินางบ้างหรือ”

“ป้าหวังแค่ต้องการอาหาร เครื่องนุ่งห่มและทายาทเท่านั้น”

รั่วหลานไม่พูด สำหรับนางแล้วหนึ่งสามี หนึ่งภรรยาเหมาะสมที่สุด นางไม่เคยยอมรับสามีที่มีภรรยาหลายคนได้เลย ไม่เช่นนั้นนางจะขุ่นเคืองบิดาที่รับภรรยาอีกคนหรือ แต่เรื่องในสกุลเสิ่นเป็นอดีตสำหรับนางไปแล้ว นางจึงไม่อยากคิดถึงมันอีก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel