สูญเสียเท่าเทียมกันหรือยัง
เพี้ยะ! มือใหญ่ฟาดลงไปแรงๆเพื่อเรียกสติ ใบหน้าซีดเซียวขึ้นรอยแดงเป็นรูปผ่ามือ เจ็บจนต้องเงียบ แต่ความรู้สึกอยากจะตายยังไม่หายไปสักที
“ในขณะที่คนอื่นเขาดิ้นรนมีชีวิตอยู่ เธอกลับเอาชีวิตมาทิ้งง่ายๆแบบนี้เหรอ”
เขาไม่กล้าคลายอ้อมกอดจากคนตัวเล็กที่ทรุดตัวลงกับพื้นเลยต้องนั่งลงไปกับเธอด้วย แล้วกอดเธอไว้แน่นหลังจากใช้ผ่ามือตบลงไปแรงๆ เพื่อเรียกสติ เขากลัวเธอจะหายไปต่อหน้าต่อตา เขาไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย กลัวว่าถ้าปล่อยเธอไป เธอจะต้องวิ่งหนีลงแม่น้ำกว้างใหญ่นี่แน่ๆ
“คุณไม่เป็นฉันคุณไม่รู้หรอก คุณมีพร้อมทุกอย่าง คุณไม่เคยสูญเสีย คุณจะมาเข้าใจอะไร” ใบหน้าซีดเซียวเงยขึ้นมาพูดทั้งน้ำตา เธอสูญเสียมาทั้งชีวิตแล้ว แต่เขาละ เขาเคยเสียอะไรบ้างยังมาทำเป็นพูดดี
“ฉันก็เคยสูญเสีย พ่อแม่ฉันตายตั้งแต่ฉันยังเด็ก สูญเสียคนรักไปต่อหน้าต่อตา แบบนี้เราเท่าเทียมกันรึยัง”
รอยยิ้มอ่อนโยนส่งไปให้เธอ หวังให้มันช่วยปลอบประโลมหัวใจเธอได้บ้าง จ้องมองใบหน้าซีดเซียว ที่ขึ้นรอยแดงจากผ่ามือเขาอย่างสำรวจและจดจำ ทั้งยังแอบรู้สึกผิดนิดๆ ที่ฟาดมือลงไปบนใบหน้าสวยนี้ซะแรงจนขึ้นรอยมือ
“คุณไม่มีพ่อแม่เหรอคะ” น้ำเสียงหวานถามอย่างสงสัย เขาที่เธอรู้จัก ไม่มีครอบครัวเหมือนกันเหรอ
“อืม ทีนี้เลิกคิดสั้นได้รึยัง”
ศิวะถามคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เมื่อเธอพยักหน้าเขาจึงปล่อยมือเล็กๆของเธอออก มองชุดสีดำบนตัวเธอ ก่อนจะสรุปเองในใจ เธอคงสูญเสียใครสักคนไปจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อละมั้ง แต่จะตายง่ายๆแบบนี้ไม่ได้ไง
“ขอบคุณค่ะ” หนึ่งนภายกมือไหว้ขอบคุณ เขาช่วยเธอไว้อีกแล้ว ครั้งแรกที่เจอกันเขาก็ช่วยเธอจากการถูกจี้ รอยยิ้มตอนนั้นอ่อนโยนเหมือนตอนนี้ จนหัวใจว่างเปล่าของเธอรู้สึกอบอุ่นขึ้นมานิดๆ
“ถ้าฉันคว้าไม่ทัน ฉันคงช็อคตายไปอีกคน อย่าทำแบบนี้อีกรู้ไหม ต่อให้มันยากแค่ไหน ก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อ เข้าใจไหม! นี่นามบัตร ถ้าลำบากก็ติดต่อมา” ศิวะมองนาฬิกาเรือนหรู หลังจากที่ยัดนามบัตรของตัวเองใส่มือให้เธอแล้ว ป่านนี้คู่หมั้นเขารอแล้วมั้ง เขาควรไปสักที
“ขอบคุณค่ะ ฉันจะรักษาชีวิตที่คุณช่วยไว้อย่างดี”
หนึ่งนภายกมือไหว้ และได้มือหนามาเป็นรางวัล ศิวะวางมือลงบนบ่าอย่างให้กำลังใจ ลุกขึ้นเดินจากไปเงียบๆ แม้จะดูคุ้นตา แต่เขาคิดว่าไม่น่าจะใช่คนเดียวกัน
ภายในโรงแรมสุดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา ศิวะทอดสายตามองไปยังพื้นที่ว่างเปล่าที่อยู่ท้ายซอย มองไปในจุดที่เขาวิ่งไปคว้าร่างผู้หญิงคนนั้นไว้ ตอนนั้นเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นคนหรือผี เพราะชุดสีดำสนิทกับบรรยากาศที่เริ่มโพล้เพล้ แต่ทิศทางที่เธอเดินไปคือริมแม่น้ำ เพราะเคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นต่อหน้า สองขาจึงก้าวตามเธอไปอย่างรวดเร็ว โชคดีที่เขาคว้าเธอได้ทัน ไม่งั้นประวัติศาสตร์คงซ้ำรอยเขาอีกหนแน่ๆ
“พี่ศิดูอะไรอยู่เหรอ” ร่างแบบบางของนางแบบชื่อดังเดินมาเบียดชิดร่างกายแกร่ง มองตามสายตาคู่คมไป เมื่อไม่เจออะไรน่ามอง ก็ดึงใบหน้าหล่อเหลานั่นกลับมาหาตัวเอง สบตาคู่สวยด้วยดวงตายั่วยวน ใช้มือลูบไล้แผ่นอกเปลือยเปล่าเพื่อเร้าอารมณ์
“ไม่เหนื่อยเหรอครับ”ศิวะหยุดมือที่ลูบไล้หน้าอกตัวเองเบาๆ ดึงมากดริมฝีปากลงช้าๆ ลูบไล้มือไปตามใบหน้าสวยของเธอ
เขาเบื่ออะ! ไม่มีอารมณ์จะทำต่อแล้ว แต่เธอคือคู่หมั้น ถ้าทำท่าทางเหมือนไม่อยาก ก็กลัวว่าเธอจะเสียใจ
“ยังไม่เหนื่อยเลยค่ะ ทุกทีทำหนักกว่านี้อีก”
ปุ้ยฝ้าย นางแบบสาวชาวไทยใบหน้าสวยโดดเด่นกำลังเป็นที่น่าจับตามอง เธอติดใจเซ็กส์ของเขา และเข้ากันได้ดีในทุกๆเรื่อง ทันทีที่เขาขอหมั้นเธอก็ตกลงอย่างไม่ต้องคิด และใช้ชีวิตเป็นคู่หมั้นเขามาได้อาทิตย์แล้ว และเขายังเปรยกับเธออีกว่า เขาจริงจังกับเธอจนคิดไปถึงเรื่องแต่งงาน
“แต่วันนี้พี่เหนื่อยแล้ว”
ศิวะกอดเธอไว้แน่น เพื่อหยุดมือเรียวที่ซุกซนไปตามตัวไว้ เขาไม่มีอารมณ์จริงๆ เพิ่งเจอคนฆ่าตัวตายต่อหน้าต่อตาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ใครมันจะมีอารมณ์มาเงี่ยนวะ
แต่เธอไม่รู้ และเธอก็ไม่ผิด เขาถึงพยายามจะรักษาท่าทีไว้ให้ได้มากที่สุด ไม่อยากผลักเธอออกไป ทั้งๆที่ตอนนี้เขาเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมานิดๆแล้ว
“ก็ได้ค่ะ วันนี้ค้างที่นี่นะคะ พรุ่งนี้เราค่อยต่อ”
ก็เธอยังไม่เสร็จอะ นึกว่าเขาจะดุเดือดอย่างทุกที แต่วันนี้เขากลับทำรอบเดียวจบ แถมยังเสร็จเร็วเหมือนเซ็กส์ที่ติดจรวด เซ็กส์ของเขาวันนี้เธอไม่ถูกใจเลย
“วันนี้ค้างไม่ได้ พรุ่งนี้มีงานแต่เช้า”
โกหกนั่นแหละ! พรุ่งนี้ไม่มีงาน แต่เขาไม่ชอบค้างที่อื่น เขาชอบนอนที่บ้าน และไม่เคยค้างกับใคร เธอเป็นคู่หมั้นที่เขาอยากแต่งงานด้วยก็จริง แต่ตอนนี้ความคิดเขาเปลี่ยนไปนิดๆแล้ว จึงคงสถานะคู่หมั้นไว้ให้เธอดังเดิม ส่วนสถานะเมียตบเมียแต่ง คงไม่ใช่เธออีกแล้วในอนาคต
“อะไรกันคะพี่ศิ”
ร่างของนางแบบสาวผละออกไปด้วยความไม่เข้าใจ วันนี้คนรักของเธอแปลกมากๆ ตั้งแต่เข้ามาในโรงแรมนี้ก็เอาแต่เหม่อลอย หรือเขาเบื่อเธอแล้ว
“อย่างอแงน่า พี่แค่เหนื่อย มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย” ศิวะมองท่าทางของคนตรงหน้านิ่งๆ เอ่ยปลอบโยนพร้อมเหตุผลให้เธอฟัง สีหน้าของเธอจึงดีขึ้นกว่าเมื่อกี้นิดหน่อย
“ฝ้ายนึกว่าฝ้ายพิเศษกว่าผู้หญิงคนอื่น ความจริงแล้วมันคงไม่ใช่สินะคะ”
เธอรู้ดีว่าเขาเป็นคนยังไง เขาขี้เบื่อและสนใจผู้หญิงคนไหนได้ไม่นาน เธอรู้ดีว่าไม่มีวันได้หัวใจว่างเปล่านั่นมาครอง เพราะมันมีเจ้าของแล้ว แต่ที่ทำทุกอย่างเพื่อยื้อเขาไว้ เพราะเขามีทุกอย่างที่เธอต้องการ อำนาจ และเงินทอง เธอกับเขาก็เป็นเหมือนๆกัน ตกลงหมั้นกันเพราะเข้ากันได้และอยากมีครอบครัว ส่วนเรื่องความรู้สึกนะเหรอ เขาไม่มีให้เธอตั้งแต่ทีแรกแล้ว
“ก็พิเศษกว่าคนอื่น แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว” เมื่อเธอรู้ดี เขาก็ไม่มีอะไรปิดบัง เขาขี้เกียจยื้อความสัมพันธ์ที่มันไม่มีทางไปต่อได้
“พี่ใจร้ายมาก แต่ก็ดีค่ะเพราะฝ้ายเองก็ไม่ชอบอะไรแบบนี้ด้วย 10 ล้าน กับการเลิกกัน พี่คงไม่ว่านะคะ เพราะฝ้ายก็เสียหายสุดกับเรื่องนี้”
ใบหน้าสวยที่เขาเคยคิดว่าชอบดูต่างไปจากเดิม แม้จะพยายามคิดว่าเธอเข้าหาเขาเพราะความรู้สึก แต่ตอนนี้มันแน่ชัดแล้ว ว่าเขามีอย่างอื่นที่เธอต้องการ และนั่นคือเงิน ไม่ใช่ความรัก ถึงเธอจะรัก แต่คงรักเขาไม่เท่ากับเงินที่เขามี
“ครับ โชคดีนะ” ศิวะยิ้มให้ เดินไปใส่เสื้อผ้าเงียบๆ จบลงง่ายๆก็ดี เพราะเขาขี้เกียจวุ่นวาย เงินแค่นั้นเขาไม่เสียดายหรอก
“พี่ยังไม่ลืมผู้หญิงคนนั้นแบบนี้ พี่จะแย่เอานะ พี่จะอยู่โดดเดี่ยวทั้งชีวิตแบบนี้ไม่ได้นะคะ”
น้ำเสียงห่วงใยของนางแบบที่เคยเป็นรุ่นน้องในมหาลัย ทำให้ใบหน้าคมของคนที่หันหลังให้เธอ หันกลับไปยิ้มให้ เขาไม่ชอบให้ใครมาแตะต้องหัวใจ แต่ไม่โกรธเธอสักนิด เพราะแววตาที่คลอน้ำตานั่น
“ขอบคุณ” ศิวะเดินมาลูบผมเธอเบาๆ เธอคงพยายามจนถึงที่สุดแล้ว เมื่อรู้ว่าไม่มีทางได้หัวใจเขา เธอจึงถอย สงสารนิดๆ แต่รักไม่ได้ก็คือรักไม่ได้
“ขอกอดได้ไหมคะ”
ร่างบางซุกเข้าหาโดยไม่รอให้เขาอนุญาติ เธอเคยรักเขามาก่อน แต่พยายามจนเหนื่อย ก็ไม่เคยได้รับความสนใจหรือความรักจากเขาเลย เขายังคงเป็นเขา ไม่มีความรู้สึกรักให้ผู้หญิงคนไหนเลย
เมื่อยอมให้เธอกอดจนพอใจ ศิวะก็เดินจากไปเงียบๆ เดินลงไปชั้นล่างโรงแรมหรู ในจุดที่เขาจอดรถไว้สายตายังคงหยุดนิ่งในทิศทางที่ตัวเองเดินไปช่วยผู้หญิงคนนั้น เธอจะยังมีชีวิตอยู่ไหมนะ เขาแอบหวังนิดๆว่าชีวิตที่เขาช่วยไว้วันนี้ จะยังคงมีลมหายใจ
