ตอนที่ 3 ห่วงใย
เช้าวันรุ่งขึ้น
แพรพรรณเดินเข้ามาในบ้านหน้าตาขึงขัง หลังจากเมื่อเช้านิชาผื่นแดงขึ้นเต็มตัว แถมมีไข้ต้องพาไปส่งโรงพยาบาล
“เมื่อคืนนี้มันเกิดอะไรขึ้น!” แพรพรรณเสียงแข็ง ป้าเจียกกับพรก้มหน้างุดไม่กล้าตอบ ดลธีกำลังเดินลงบันไดถือสูทจะออกไปทำงาน
“ผมเมาจะตกน้ำ นิชาจะช่วยเลยตกน้ำไปด้วย” ดลธีสีหน้าเรียบนิ่งไม่ทุกข์ร้อนอะไร
“แล้วนิชาดื่มแอลกอฮอล์ได้ยังไง” แพรพรรณกระแทกเสียงจ้องหน้าสามีอย่างคาดคั้น
“เมียคุณกำลังโต เขาอาจอยากรู้อยากลองเองก็ได้”
“ตลกล่ะ นิชาแพ้แอลกอฮอล์ไม่มีทางดื่มเองแน่ ถ้าไม่มีคนบังคับ” แพรพรรณกอดอกมองเคืองเธอมั่นใจว่ามีคนแกล้งนิชาและจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเขา ดลธีชะงักเล็กน้อยเมื่อรู้ว่านิชาแพ้แอลกอฮอล์ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
“ใครจะบังคับคนของคุณได้” หน้าหล่อแสยะยิ้มมองจ้องหน้าท้าทายภรรยา
“ฉันดูกล้องวงจรปิดเองก็ได้”
“วงจรปิดริมสระน้ำเสียค่ะ” ป้าเจียกพูดแทรกขึ้น
“ฮ๊ะ! บังเอิญเสียหรือใครจงใจทำให้เสีย” หน้าสวยหันขวับขมวดคิ้วไม่พอใจ
“คุณเลิกสงสัยผมเถอะ แค่คุยผมยังไม่อยากคุยด้วยเลยจะไปบังคับนิชาได้ไง เอาเวลาที่ระแวงผมไปเฝ้าเมียสุดที่รักของคุณดีกว่าไหม”
“อย่าให้ฉันรู้ว่าใครบังคับนิชา ฉันเอาเรื่องแน่!” แพรพรรณจ้องสามีตาเขม็ง เธอมั่นใจว่าเขาเป็นคนบังคับนิชาเพื่อแกล้งคนรักของเธอ ดลธียักไหล่ไม่แยแสจ้องตากลับไม่มีใครยอมใคร
ภายในห้องกว้างโรงพยาบาล
หลังจากได้รับยาแก้แพ้ นิชาหลับสนิทไปหลายชั่วโมง รอยบวมแดงบนผิวกายและหน้าสวยจางลงแต่ยังหลงเหลือร่องรอยแดงอ่อน ๆ ไว้ นิชารู้สึกตัวลืมตาขึ้นกวาดมองซ้ายขวาไม่เห็นใคร ลำคอแห้งเผือดกระหายน้ำกลืนน้ำลายลงคอลำบาก
“มีใครอยู่ไหมคะ ขอน้ำหน่อย” เสียงแหบพร่าเอ่ยขอความช่วยเหลือหวังว่าจะมีพยาบาลอยู่ใกล้ ๆ สักพักเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ นิชาได้ยินเสียงเทน้ำ ตาสวยปรือคล้ายจะหลับต่อแล้วรู้สึกว่ามีมือช้อนต้นคอเธอขึ้นส่งหลอดให้เธอดูดน้ำ ปากบางแห้งกังเผยองับหลอดค่อย ๆ ดูดน้ำกลืนลงคอ อึก อึก.... พอทำให้หญิงสาวสดชื่นขึ้นมาบ้าง สายตาหวานเหลือบมองจะขอบคุณ แต่เสื้อผ้าของคนที่เธอคิดว่าเป็นพยาบาลกลับกลายเป็นชุดของผู้ชาย เธอมองขึ้นไปเรื่อย ๆ ถึงใบหน้าหล่อเหลาของคุณผู้ชาย หญิงสาวผงะออกหน้าเสีย
“ดีขึ้นหรือยัง” ดลธีเสียงนุ่มลึก แววตาห่วงใยเขาพิจารณาหน้าสวยซีดเซียว มีรอยแดงบวมเห่อกระจายบนผิวหน้า
“ยังมึนยานิดหน่อยค่ะ” นิชาตอบเสียงแหบแห้งสีหน้าอ่อนเพลีย
“ฉันอยากขอโทษที่กรอกไวน์ให้ดื่ม ฉันไม่รู้ว่าเธอแพ้”
“คุณอุตส่าห์มาที่นี่เพื่อพูดเรื่องนี้ เพราะไม่อยากให้คุณแพรรู้เรื่องใช่ไหมคะ” เธอถามตรง ๆ ถึงเจตนาของเขา อาจแค่ไม่อยากให้เธอบอกสาเหตุการแพ้กับแพรพรรณ เขาคงไม่ได้รู้สึกผิดอะไร
“ฉันอยากให้แพรรู้จะได้ปรี๊ดแตก แต่ที่มา...เพราะอยากขอโทษเธอจริง ๆ” สายตาคมแน่วแน่ นิชามองเขาด้วยใจสั่นไหวใกล้เขาทีไรรู้สึกเขินอายมีความสุขแปลก ๆ ทุกที ดวงตาสวยหลุบลงมองต่ำไม่กล้าสบตาเขา
“หนูดีขึ้นแล้ว ช่างมันเถอะค่ะ”
“ขอบใจนะ” เขายิ้มอ่อนโยน ลูบผมเธอแผ่วเบา นิชาเหลือบมองเขาด้วยความรู้สึกสับสนบอกไม่ถูกและเป็นอีกครั้งที่ทั้งสองสบตากันเหมือนตกอยู่ภวังค์.............. เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเขาสะดุ้งกระแอมเบา ๆ แก้เขิน ก่อนกดรับโทรศัพท์
“คุณแพรมาแล้วครับ” จรณผู้ช่วยของดลธีโทรมาเมื่อเห็นแพรพรรณมาถึงโรงพยาบาล
“โอเค” ดลธีตอบรับแล้ววางสาย หันไปหานิชาที่ก้มหน้างุด
“ฉันกลับก่อนนะ ขอโทษอีกครั้ง” เขาเอ่ยขอโทษอีกครั้งก่อนจะเดินออกไป นิชามองตามเขาเศร้า ๆ ได้แค่นี้สินะใกล้ชิดเขาได้มากสุดแค่นี้เท่านั้นหลังจากนี้คงไม่มีโอกาสได้ใกล้เขาอีกแล้ว
ไม่นานนักแพรพรรณก็มาถึงห้องคนไข้วิ่งเข้ามากโอบกอดนิชาด้วยความห่วงใย
“ฉันแฮงค์นอนพักที่บ้าน เลยมาไม่ทันตอนนิชาตื่นเลย” แพรพรรณรีบบอกไม่อยากให้นิชางอน
“ไม่เป็นไรค่ะ” นิชายิ้มเล็กน้อยเพลีย ๆ
“ดีขึ้นแล้วเนอะ งั้นตอบมาว่าใครบังคับให้ดื่มแอลกอออล์”
“ไม่มีใครบังคับหรอกค่ะ หนูเห็นช็อกโกแลตในตู้เย็นเลยหยิบมาทานแต่ไม่รู้ว่ามันมีส่วนผสมของเหล้า”
“จริงเหรอ นิชากินโดยที่ไม่ดูส่วนผสมได้ยังไง ปกตินิชาระวังเรื่องกินจะตาย” แพรพรรณขมวดคิ้วมองอย่างสงสัยไม่อยากเชื่อ
“นั่นสิคะ พลาดได้ไง” สายตาหวานหลุกหลิกพูดเสียงอ่อน
“เอาล่ะ ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว ฉันเป็นห่วงเธอมากเลยนะ” แพรพรรณสวมกอดร่างบางลูบหลังเธอแผ่วเบาเพื่อปลอบโยน นิชาสีหน้ากังวลที่ต้องโกหกคนที่ดีกับเธอ
