บทที่3 เจ้าหนี้หัวคว...(1/2)
"ไง ไอดื้อ เมื่อวานมึงทำไรกูไว้แล้วชิ่งหนีนะ" ทิวากรหรือโอมเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเจ้าดื้อเอ่ยทักเจ้าเพื่อนตัวเล็กที่นั่งฟุบหลับอยู่กับโต๊ะยาวใต้ตึกคณะอยู่ วันนี้พวกเขาไม่มีเรียน โชคดีที่อาจารย์วิชุดายกเลิกคลาส ไม่งั้นไอคนมาสายแถมเป็นนักเรียนทุนอย่างไอดื้อโดนอาจาร์ยบ่นจนหูชาแน่ๆ
ร่างบางผงกหัวขึ้นมองเพื่อนชายตัวโต หน้าดุเล็กน้อยไม่พูดอะไรก่อนจะฟุบหน้าลงไปยังกระเป๋าตัวเองต่อ
โอมวางแก้วโกโก้ปั่นที่เพื่อนรักไหว้วานให้ไปซื้อมาไว้ข้างๆเจ้าตัวที่ยังคงเอาหน้าฝังไว้ในกระเป๋าหนีความผิดเรื่องเมื่อคืนที่ถีบเขาจนสลบไป ตื่นมาอีกทีตอนหกโมงเช้าเลย ก็งงอยู่ว่าตัวเองมานอนอะไรที่หน้าประตูห้อง นั่งคิดไปได้สักพักก็อ่อขึ้นมาทันที ไอเพื่อนตัวเล็กแต่ตีนหนักทำเขาไว้แล้วหนีกลับไปนอนบ้านสบายใจเฉิบนี่เอง
"มึงจะคุยกับกูมั้ยเนี่ย" โอมแกล้งเขย่าตัวเพื่อนตัวน้อยแรงๆ ร่างบางโยกคลอนไปตามแรงเขย่า เจ้าดื้อส่งเสียงจิ๊ออกมาเบาๆนึกรำคาน
"โอ้ยไอเหี้ยโอม มึงจะเขย่าอะไรหนักหนาว่ะ" ร่างบางผงกหัวขึ้นอีกครั้งก่อนจะส่งฝามือไปตบกบาลคนตัวสูงเน้นๆไปที
พลั๊วะ!
"โอ้ยไอเหี้ย เมื่อวานก็ถีบกู วันนี้ตบหัวกูอีก เกรงใจในความตัวใหญ่กว่ามึงของกูด้วย" ร่างสูงลูบหัวตัวเองปอยๆ พลันกร่นด่าไอเพื่อนตัวเล็กที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวอย่างไม่จริงจังอะไร
ร่างบางไม่ได้สำนึกผิดสักนิด มือบางคว้าเอาโกโก้ปั่นของโปรดมายกดื่มกินหน้าตาเฉย ไม่พอยังส่งสายตากวนอวัยวะเบื้องล่างไปให้ไอเกลอเพื่อนรักได้โมโหเพิ่มอีก
"กวนตีนไอดื้อ ไอสัส"
"..."
"ที่คอมึงรอยอะไรอ่ะ เดี๋ยวนะ..."
ขณะที่ปากอวบอิ่มกำลังตั้งอกตั้งใจดูดดื่มโกโก้ปั่นแสนหวานของโปรดอยู่นั้น สายตาอันเฉี่ยวคมของโอมก็ดันมาเห็นรอยแดงบนคนร่างบางพอดี ร่างสูงคว้าเข้าที่คอเสื้อเพื่อนก่อนจะแหวกดูรอยดูดที่มันมีมากกว่าหนึ่ง
"หนึ่ง...สอง..สาม... ตรงนี้ก็มีสี่...อ่ะตรงนี้ด้วยห้า...หก อ่ะไอเหี้ย เยอะแยะไปหมดเลย เมื่อวานมึงโดนใครทำอะไรมาบอกกูมาเดี๋ยวนี้นะ! กูจะไปจัดการมัน ไอพวกเจ้าหนี้พนันเหี้ยๆนั่นหรือเปล่า!" โอมเอ่ยถามคนตัวเล็กด้วยอารมณ์เดือดจัด เข้าใจว่ารอยที่คอเพื่อนเป็นฝีมือคนแน่นอน แต่ใครมันบังอาจทำกับเพื่อนตัวน้อยเขาอย่างนี้มันต้องโดน
"เดี๋ยวๆใจเย็นไอโอม มันเป็นรอยดูดก็จริง แต่ไม่ใช่ฝีมือพวกเจ้าหนี้หรอก"ร่างบางชูมือขึ้นสองข้างเป็นการปรามเพื่อนรักให้ใจเย็นๆแล้วนั่งลงก่อน
"แล้วแม่งมันเป็นใคร! มันขืนใจมึงใช่มั้ย! บอกมาเดี๋ยวกูจะไปกระทืบแม่ง!" โอมยังคงโมโหอยู่ ความรู้สึกเหมือนพ่อมารู้ว่าลูกโดนทำร้ายแต่ไม่ยอมบอกพ่ออย่างไรอย่างนั้น ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา ไอดื้อจะมีแฟนเขาไม่เคยขัดศรัทธา ถึงจริงๆมันไม่เคยมีก็เถอะ แต่เวลามีใครมาจีบเขาก็แสกนเองหมด ไอพวกผู้ชายที่มาจีบลูก เอ้ย เพื่อนเขาหน่ะ มีแต่พวกเหี้ยๆทั้งนั้น แล้วนี่อะไร เขาไม่น่าปล่อยให้มันกลับบ้านไปเลย ดูสิ ใครทำมันก็ไม่รู้ แล้วเขาก็ไม่ได้ช่วยมัน เขาโคตรเสียใจเลย
"มึงใจเย็นๆ มึงฟังกูก่อน คือว่าเรื่องมันเป็นอย่างงี้นะ...." เจ้าดื้อที่เห็นสีหน้าอยากจะร้องไห้ของเพื่อนก็อดสงสารไม่ได้
ไอความรู้สึกเหมือนพ่อผิดหวังในตัวลูกนี่มันอะไรกัน
ร่างบางค่อยๆลูบหลังเพื่อนตัวโตเพื่อปลอบประโลม ก่อนจะเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้ฟัง ตั้งแต่ออกประตูไปจนเจอตาลุงที่ท่าทางเมามายเปิดประตูไม่ได้คนหนึ่ง ตลอดจนเสียท่าให้เขาเพราะตัวเองก็เมาเหมือนกันจนเขาขอรับผิดชอบ
เล่าจบเพื่อนตัวโตก็ช็อคตาค้าง ปากพะงาบๆเป็นปลาทองทันที ก่อนจะปรับสีหน้าเป็นเศร้าสร้อยอีกครั้ง มือหนาอดที่จะลูบหัวเพื่อนตัวเล็กของเขาไม่ได้
"มึงโอเคมั้ยดื้อ โอเคหรือเปล่า...กูขอโทษนะที่ปล่อยมึงไปเจอเรื่องแบบนี้"
โอมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเจือความรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก ความรู้สึกผิดที่เหมือนว่าเขาปกป้องลูกสาวสุดที่รักจากไอพวกหมาป่าเลวไม่ได้เลย ดวงตาเศร้าสร้อยแสดงออกอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้เหมือนว่าร่างบางจะเห็นหูของไอเพื่อนรักลู่ตกลงแนบกับหน้าเสียอย่างนั้นแหละ
"กูโอเคมึง ตอนแรกก็เครียดนิดๆแหละ ไม่ได้ถูกคนที่รักมาเปิดซิงค์ แต่พอเขายื่นเงินมากูก็เลิกเครียดเลย มึงก็อย่าโทษตัวเอง ไม่ใช่ความผิดมึงสักหน่อย กูเองต่างหากที่ดื้อสมชื่อจนได้ผัวหนึ่งคืนมาแบบงงๆ "
เจ้าดื้อพูดเชิงติดตลกให้เพื่อนตัวเองสบายใจ ปากเล็กยกขึ้นยิ้มจนตาสองข้างหยีเป็นรูปสระอิ แสดงให้เพื่อนรักที่ขี้ห่วงเขาเห็นว่าไม่เป็นไรจริงๆ
"มึงนี่นะ หัดซีเรียสบ้าง" โอมรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังคิดมากอยู่ดี เพราะไม่รู้ว่าไอคนที่มีอะไรกับไอดื้อคืนนั้นเป็นใคร แต่ที่คิดไว้ก็น่าจะเป็นคนไม่ธรรมดา เพราะเท่าที่เพื่อนตัวน้อยเล่าให้ฟังว่าอยู่คอนโดห้องตรงข้ามเขาก็คงเป็นคนที่รวยมากๆระดับหนึ่งแหละ เพราะคอนโดนี่ก็มีแต่คนรวยๆไม่เช่าอยู่ชั่วคราวก็ซื้ออยู่ถาวรแบบเขาทั้งนั้น
"ซีเรียสมากแล้วหน้าแก่แบบมึงกูก็ไม่เอา"
"โอโหไอเพื่อนเหี้ยนินะ ปากมึงนี่แจ๋วจังว่ะ" ร่างสูงบ่นอย่างไม่จริงจังนัก
"ฮ่าๆๆ เออ...มึงดูนี่" เจ้าดื้อเปิดกระเป๋านักเรียนใบใหญ่ให้เพื่อนรักดู ข้างในมีแบงค์ธนบัตรสีเทาลายใบอยู่จำนวนหนึ่ง มันเป็นเงินห้าแสนจากเช็คที่ทศกัณฐ์ให้เขาไว้เมื่อเช้า เขาไปขึ้นเงินมาไว้เพราะรู้ว่าวันนี้เจ้าหนี้พนันคงจะมาทวงเงินที่มหาลัยที่เขาแน่นอน
ซึ่งมันก็เป็นอย่างนี้ทุกวันจนอาจารย์และคนในมหาลัยชินชาไปเสียแล้ว แรกๆก็มีคนนินทาว่าร้ายเขาว่าเป็นผีพนัน แต่ก็โอมช่วยประกาศแก้ข่าวให้ว่าแท้จริงแล้ว เพื่อนรักของเขานั้นน่าสงสารนัก มีพ่อแม่ติดพนันเล่นเสียจนติดหนี้เป็นแสนแต่กลับทิ้งหนี้ให้ลูกชายตัวเองไว้แล้วตัวเองสองคนก็หอบเงินก้อนหนึ่งไปต่างประเทศซะงั้น ตอนนั้นเขาจำได้ดีเลยว่าไอดื้อเพื่อนตัวน้อยของเขาโดนเจ้าหนี้ดักรุมกระทืบปางตาย มันร้องไห้แทบขาดใจเมื่อรู้ว่าคนที่รักทิ้งมันไป เขาเคยยื่นมือไปหวังจะช่วยจ่ายหนี้ให้มันก็ไม่เอา ทั้งๆที่เขาก็จ่ายให้มันได้สบายด้วยฐานะที่ค่อนข้างรวย มันกลับบอกว่าเกรงใจ ยิ่งเป็นเพื่อนกันยิ่งไม่ควรยืมเงิน เขาเลยทำได้แค่ฝากฝังมันให้ทำงานในผับของพี่ที่รู้จักแค่นั้น แต่ก็เหมือนเงินจะไม่พอ ไอเจ้าดื้อมักจะไปรับจ๊อบพิเศษอยู่เสมอ
"มึงจะเอาไปจ่ายให้ไอพวกนั้นใช่มั้ย ดีๆมันจะได้เลิกตามทวงมึงสักที เหลืออีกสี่แสนกว่าพอดีเลยนี่"
"อื้อ" ร่างบางตอบรับด้วยรอยยิ้ม พยักหน้างึกๆอย่างดีใจ โอมที่เห็นการกระทำของเพื่อนก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้ เขาเองก็ดีใจที่เพื่อนรักจะได้สบายสักที ไม่ต้องร่อนทำงานหนักหาเงินมาจ่ายหนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อ
"พูดถึงก็มาเลยไอเหี้ย!" โอมกัดฟันพูดอย่างคนเดือดจัด เสมองไปยังชายฉกรรจ์สองคนที่กำลังเดินมาทางพวกเขา พวกมันคือเจ้าหนี้ที่ตามมาเก็บเงินเพื่อนตัวน้อยของเขาทุกวัน
"ไงจ้ะน้องดื้อ วันนี้มีให้พวกพี่สักกี่บาทกันเชียว"
"ถ้าวันนี้มีไม่พอก็เอาตัวหนูมาขัดดอกกับพี่ก่อนก็ได้นะจ้ะ ฮ่าๆๆๆ" ชายฉกรรจ์คนแรกเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงยียวนก่อนที่คนที่สองจะพูดสมทบตามมาติดๆ สายตาที่มองมายังร่างบางมีความหื่นกระหายอย่างไม่ปิดบัง พวกมันหัวเราะร่วนอย่างชอบใจ
"โหไอเหี้ย!!" โอมที่เห็นก็ทนไม่ไหว ตะโกนสบถด่าออกมาเสียงดังจนคนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างหันมามองกันหมด แต่ทว่าคนพวกนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรต่อต่างก็เดินหนีออกไปเพราะไม่ใช่เรื่องของตนเอง
"ใจเย็นไอโอม อ่ะนี่เงินพวกมึง" ร่างบางหันไปห้ามเพื่อนตัวโต สองมือล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายก่อนจะหยิบเงินออกมาจำนวนห้าแสนส่งให้ชายฉกรรจ์ตรงหน้าไป
"หืม โว้วๆ น้องดื้อมีเงินเป็นปึกเลยวุ้ย"ชายฉกรรจ์รับเงินที่ดื้อส่งมา นิ้วหยาบแตะปากสีดำคล้ำตัวเองก่อนจะป้ายน้ำลายลงนิ้วแล้วบรรจงนับจำนวนธนบัตรในมืออยู่ครู่หนึ่ง
"ที่นี้พวกมึงก็ไม่ต้องมายุ่งกับกูอีก"
"ไม่ได้หรอกจ้ะน้องดื้อ พี่ต้องยุ่งกับหนูอีกนานเลย" เมื่อนับเงินครบแล้วมันก็หันมาตอบร่างบางด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาทเช่นเคย
"ทำไม" เจ้าดื้อถามออกไปด้วยความสงสัย ก็เขาจ่ายเงินไปครบแล้วนี้ เกินครบเสียด้วยซ้ำ
"นี่มันแค่ห้าแสนเอง เหลืออีกห้าแสนนะจ้ะน้องดื้อของพี่ ฮ่าๆๆ" เสียงหัวเราะร่าสะใจของมันดังขึ้น พวกมันมองร่างบางด้วยสายตาที่มองคนโง่คนหนึ่ง โดนพ่อแม่ทิ้งว่าน่าสงสารแล้ว โดนนายพวกมันโกงจำนวนยอดหนี้ยิ่งน่าสมเพศกว่าอีก
"เหี้ยไรว่ะ ไหนพวกมึงบอกว่าหนี้ห้าแสนไง" ร่างบางกร่นด่าด้วยความเดือดดาล ทว่าไอสองตัวก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลยสักนิด กลับโชว์กระดาษแผ่นหนึ่งที่มีลายเซ็นของพ่อแม่ร่างบางให้ดูแทน
เมื่อเห็นรายละเอียดในกระดาษใบนั้นร่างบางก็นิ่งค้างไป สองมือกำหมัดแน่น เล็บจิกเนื้อตัวเองจนเลือดออก
"หนี้ห้าแสน ดอกห้าแสนนะจ้ะน้องดื้อ เอาล่ะๆ เห็นแก่ว่าวันนี้หนูจ่ายพี่เยอะ งั้นพี่จะให้เวลาหนึ่งอาทิตย์เพื่อหาเงินที่เหลือมาจ่ายพี่นะจ้ะ"
