บทที่2 เงินไม่ใช่งู หนูเอาอยู่แล้ว (2/2)
เมื่อแต่งตัวเสร็จก็เตรียมจะออกจากห้องนี้ไป ทันใดนั้นก็ถูกคนตัวโตอย่างทศกัณฐ์รั้งแขนเอาไว้ สายตาคมที่มองมาเป็นเชิงขอร้องเขาว่าอย่าพึ่งไป
"...." ทว่าอะไรก็ไม่รู้ดลจิตดลใจให้เจ้าดื้อยอมอยู่ต่อ เจ้าดื้อไม่ได้พูดอะไรกลับไปทำเพียงยอมหยุดอยู่อย่างที่คนตัวโตขอร้องไว้ ยอมรอดูว่าร่างหนาจะพูดหรือทำอะไรกับเขา
"ให้ฉันรับผิดชอบเธอ...ได้มั้ย" เสียงทุ้มนุ่มของทศกัณฐ์เอ่ยอย่างจริงจัง ไม่มีแววล้อเล่นเลยสักนิด มือแกร่งกระชับแขนเล็กไว้แน่น เหมือนราวกับกลัวว่าคนตรงหน้าจะหนีเขาไปอย่างไรอย่างนั้น
ย้อนกลับไปเมื่อคืน เขาได้รับเครื่องดื่มจากเพื่อนรักอย่างไอเลย์ ซึ่งเขาคิดว่ามันเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปกติจึงดื่มไปโดยไม่คิดอะไร ใครมันจะไปรู้ว่าไอเพื่อนเวร...
'เออไอทศ กูเห็นมึงไม่ยอมมีเมียสักที'
'ทำไม'
'กูเลยช่วยใส่ยาปลุกเซ็กส์อ่อนๆให้มึง จะได้มีแรงหาเมียกลับไปกกที่คอนโดคืนนี้ไง'
'ไอเพื่อนเหี้ย!'
เขาจึงรีบพาร่างกายที่ยังพอมีสติกลับคอนโดทันที รีบร้อนเสียจนลืมรหัสห้องลืมว่ามีคีย์การ์ดในมือ จนเด็กน้อยนั้นยื่นมือเข้ามาช่วย มันทำให้เขาดึงเด็กน้อยติดร่างแหแห่งความซวยที่เพื่อนเฮ็งซวยสร้างมาด้วยซะได้
เพราะอย่างงี้ไง เขาถึงอยากรับผิดชอบคนตรงหน้า
แต่ไอรับผิดชอบมันก็ส่วนหนึ่ง
สนใจตั้งแต่แรกพบมันก็ส่วนหนึ่ง
"จะรับผิดชอบผมเท่าไหร่ครับ" เจ้าดื้อที่ได้ยินว่าคนตรงหน้าบอกว่าจะรับผิดชอบให้ก็นิ่งคิดไปพักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามกลับไปว่าสามารถรับผิดชอบตัวเขาได้เท่าไหร่ หากมากพอที่จะใช้หนี้ที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้เขาหมดๆไปได้ก็คงดี จะว่าเขาหน้าเงินก็ได้ แต่คุณคนนี้เขาเสนอมาดื้อก็ต้องสนองตอบอยู่แล้ว มันเป็นธรรมดาของมนุษย์ชน
"อยากได้เท่าไหร่เขียนเอาเลย" ร่างหนาผละออกจากเด็กน้อย สองเท้าก้าวไปยังโต๊ะทำงานที่อยู่มุมห้อง ก่อนจะหยิบเช็คขึ้นมา ส่งให้ร่างบางได้เขียนจำนวนตัวเลขที่ต้องการลงไป
ทุกการกระทำของร่างหนา ที่เดินไปตลอดทั้งเดินกลับอยู่ในสายตาร่างบางทั้งหมด มันทำเอาร่างบางเขินอายจนต้องอดเสหน้าหนีเสียไม่ได้ ไม่ได้เขินในความใจสปอร์ตเลยแม้แต่นิด แต่เขินอายในมวลมัดกล้ามอันแน่นเปรี๊ยะนั้นมากกว่า ไหนจะลำเอ็นที่ตั้งโด่เคารพธงชาติยามเช้า กับพวงไข่อมชมพูที่แกว่งไปแกว่งมานั่นอีก
ก็เขายัังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลยน่ะสิ!
"อะแฮ่ม" ร่างหนาที่พึ่งจะรู้สึกตัวว่าตัวเองโป๊จากสายตาเด็กน้อยที่มองมา ก็รู้สึกกระดากอายนิดๆ ก่อนจะรีบหมุนตัว เดินหายเข้าไปแต่งตัวในห้องน้ำทันที
"ผมเขียนไปเท่านี้ คุณจ่ายไหวหรือเปล่า"
ทันทีที่ทศกัณฐ์ก้าวขายาวออกมาจากห้องน้ำ เด็กน้อยก็ยื่นกระดาษที่เขียนตัวเลขจำนวนห้าแสนบาทให้เขาดูทันที สีหน้าร่างบางมีความกังวลออกมาจนเห็นได้ชัด เขากลัวว่ามันจะดูมากไป คนตัวโตอาจมองเขาว่าเป็นผู้ชายหากินง่ายแน่ๆ แต่ถ้าได้เงินก้อนนี้ไปจริงๆ ชีวิตเขาคงสบายขึ้นไม่ต้องมาตรากตำทำงานใช้หนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อนี้ซักที
"ไม่ต้องห่วง ถ้าคุณให้ผมจริง ผมก็เอาแค่นี้ไม่เรียกเพิ่ม แล้วผมก็จะไม่ตอแยกับคุณด้วย"
"...."
"ระ...หรือว่า ถ้ามันมากไป คุณให้ผมแค่แสนเดียวก็ได้" เมื่อเห็นว่าคนตัวโตเอาแต่เงียบไม่ยอมพูดอะไรสักที หัวใจร่างบางก็เหมือนจะเหี่ยวเฉา พรุ่งนี้ก็ครบกำหนดที่ต้องจ่ายหนี้พอดีเสียด้วย ถ้าไม่ได้เงินก้อนนี้จะทำยังไงดี แต่ก็นะ ถ้าเขาจะให้แค่หนึ่งแสนหรือไม่ให้เลยมันก็ย่อมได้อยู่แล้ว เขาไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรด้วยซ้ำ แค่คุณคนนี้เขายื่นโอกาสมาให้มันก็มากพอสำหรับดื้อแล้ว
ร่างบางคิดสะระตะไปเรื่อยคนเดียว หารู้ไม่ตัวเองนั้นเข้าใจผิดอย่างมหันต์
ทศกัณฐ์ที่เห็นเด็กน้อยมีสีหน้าศร้อยเศร้า ดวงตามีน้ำใสเอ่อคลอเต็มเบ้า เขาก็อดที่จะสงสารระคนเอ็นดูไม่ได้ ไอคำพูดที่เหมือนตัดพ้อในๆว่าให้แค่แสนเดียวก็ได้นั่นมันอะไรกัน เขาไม่ได้ตั้งใจให้แค่ห้าแสนด้วยซ้ำ
"เอาน้อยจัง ฉันให้เธอได้เป็นร้อยๆล้านเลยนะ"
พูดจบมือแกร่งก็ยกขึ้นลูบหัวเล็กนั่นเบาๆ ดวงตากลมหลับตาพริ้มตอบรับการกระของคนตัวโตโดยอัตโนมัติ โดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ตัวเองเช่นกัน ว่าแสดงการกระทำเหมือนลูกแมวน้อยออดอ้อนนี้ไปทำไม
คล้ายกับลูกแมวเอาหัวถูฝามือมนุษย์ก็ไม่ปาน
"ผะ...ผมอยากได้แค่ห้าแสนแค่นั้นครับ"
ร่างบางยังคงยืนยันจำนวนเงินที่ต้องการเหมือนเดิม เขาไม่ได้ต้องการเงินร้อยล้านพันล้านอะไรนั่นเลย ถึงแม้นี่มันจะเป็นโอกาสที่ดูเหมือนคนตัวโตจะสนใจเขาอย่างเห็นได้ชัด อารมณ์เหมือนเสี่ยอยากเปย์เด็กก็เถอะ แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะฉกฉวยโอกาสอะไรแบบนั้นหรอก แค่ที่ขอไปห้าแสนมันก็มากพอแล้วจริงๆ
"โอเค ห้าแสนก็ห้าแสน" เมื่อเห็นว่าเด็กน้อยยังคงแน่วแน่กับเงินแค่ห้าแสนเขาจึงขอยอมแพ้(แค่ตอนนี้) เดี๋ยวหาวิธีเปย์แมวน้อยนี้ทีหลังก็ได้
อ่าส์ เห็นเด็กน้อยตรงหน้าแล้วก็อยากซื้อเสื้อผ้าดีๆให้ใส่ พาไปกินอาหารอร่อยๆ หรือไม่ก็พาไปเลือกช้อปเครื่องประดับเพชรพลอยมาใส่เล่นล่ะนะ
สงสัยเขาจะเป็นอย่างที่ไอเหมยเลขาคนสนิทของเขาแช่งเสียแล้ว
'ผมขอให้บอสเจอเด็กที่ถูกใจแล้วก็เปย์เขาจนตัวเองล้มละลายไปเลยครับ สาธุ'
"ขอบคุณมากๆเลยครับ" ดวงตากลมเบิกโพลงด้วยความดีใจ หัวทุยก้มหัวให้ร่างหนาซ้ำแล้วซ้ำเล่า การกระทำแบบนั้นของร่างบางยิ่งทำให้ใจคนแก่อย่างทศกัณฐ์เต้นระรัวแทบผิดจังหวะ มือแกร่งยกขึ้นลูบหัวเล็กนั้นด้วยความเอ็นดู ริมฝีปากหนายกยิ้มหวานส่งไปให้เด็กน้อยตรงหน้า สายตาหวานเชื่อมหยาดเยิ้มเสียจนถ้ามีเอฟเฟคก็คงเห็นเป็นรูปหัวใจในดวงตาคมนั่น ส่วนรอบๆก็คงเป็นสีชมพูฟุ้งเป็นแน่
ร่างบางที่หันไปเห็นรอยยิ้มของคนตัวโตก็เกิดอาการใจสั่นแปลกๆ ใบหน้าขึ้นสีแดงฉ่า แก้มนวลแดงร้อนระอุไปหมด พลันเสหน้ามองไปทางอื่นเพื่อหลีกหนีอาการแปลกประหลาดที่ยากจะเข้าใจของตนเอง
"ฉันขอเบอร์เธอหน่อยสิ" เมื่อนึกขึ้นได้ว่าต้องขอช่องทางการติดต่อเอาไว้ มือหนาจึงหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูของตนส่งไปยังร่างบางเพื่อให้เด็กน้อยกดเบอร์ตัวเองใส่เครื่องเขา
"อ่า ได้ครับ นี่ครับ มีอะไรก็เรียกใช้ผมได้เลย ถือว่าเป็นการขอบคุณที่คุณช่วยผม" มือเรียวรับโทรศัพท์หรูมาแล้วกดเบอร์ตัวเองลงไปพร้อมกับพิมพ์ชื่อ'เจ้าดื้อ'ลงไปด้วย ด้วยความที่อยากตอบแทนบุญคุณร่างหนาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงให้เบอร์ตัวเองไปโดยไม่คิดอะไร
"ชื่อเจ้าดื้อเหรอ น่ารักจัง ฉันชื่อทศกัณฐ์นะเรียกพี่ทศก็ได้" มือหนายังคงเนียนลูบหัวลูบแก้มคนตัวเล็กเล่นอยู่อย่างนั้น โดยที่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้สึกตัวสักนิด เหมือนระบบป้องกันตัวของเจ้าดื้อมันพังไปเสียแล้ว
"ครับ.....เหี้ย!! เหี้ยๆๆๆ" ร่างบางเอ่ยตอบคนตัวโตไป ทว่าสายตาก็พลันไปเห็นนาฬิกาหน้าจอโทรศัพท์เครื่องหรูของร่างหนาก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้เขามีเรียนสำคัญกับอาจารย์วิชุดา จอมดุ!!
แล้วตอนนี้ก็ดันสายมากๆแล้วด้วย คิดได้ดังนั้นก็รีบหยิบกระดาษเช็คยัดใสกระเป๋ากางเกงแล้วรีบวิ่งแจ้นออกไปทันที แต่ก็ไม่ลืมที่จะหันกลับมาไหว้คนตัวโตอย่างมารยาทดีก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องไป
"ผมมีเรียนสำคัญ ไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ!"
ทิ้งให้คนตัวโตยืนมึนงงอยู่คนเดียว
