แรกเจอ
หลายวันต่อมา
“อย่าช้าสิลูกนัดกันเอาไว้ 9:00 น. จะถึงเวลาที่พี่เขาจะมารับแล้วนะ”
“ไม่เห็นต้องมาเลยค่ะแม่ อรไปเองได้หรือไม่ต้องลองก็ได้นะคะยังไงคุณแม่ก็จัดการให้หมดอยู่แล้ว”
อรฤดีทำหน้างอง้ำเมื่อรู้ว่าวันนี้จะต้องไปลองชุดหมั้นชายหนุ่มสองต่อสองช่างเป็นอะไรที่ปุบปับรวดเร็วเหลือเกิน ทุกคนต่างบอกว่าเขาเป็นคนดี ทั้งสองคนเหมาะสมคู่ควรกันแต่เธอกลับไม่เคยเจอหน้าและไม่เคยได้ศึกษานิสัยใจคอของเขาเลย
อรฤดีหันมองไปที่แม่ผู้ให้กำเนิดของตัวเองแล้วก็ต้องกลืนคำพูดที่คิดเอาไว้ลงคอไปเพราะตอนนี้แม่ของเธอนั้นกำลังยิ้มอย่างมีความสุข..ใบหน้าของผู้หญิงที่เต็มไปด้วยโรคภัยรุมเร้านั้นตอนนี้กลับมีแววตาที่เป็นประกายใบหน้าอิ่มเอมด้วยความภูมิใจทำให้เธอไม่กล้าที่จะปฏิเสธการแต่งงานในครั้งนี้เพราะนั่นอาจมีผลต่อความรู้สึกของแม่เธออย่างที่คาดไม่ถึงก็ได้
“หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกันนะลูกมีอะไรไม่พอใจหรือผิดใจกันก็ค่อยๆ พูดปรับความเข้าใจ ลูกคือเหตุผลเดียวที่แม่ยังอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ความสุขของลูกก็คือความสุขของแม่นะ”
สิริวดีลูบหัวของลูกสาวเธอเบาๆ ก่อนจะพูดออกมาด้วยความรักเต็มเปี่ยมในหัวใจจนเอ่อล้นออกมาทางแววตาถึงแม้ลูกสาวของเธอจะรู้ว่าเธอป่วยด้วยโรคประจำตัวกระเสาะกระแสะอยู่แล้ว แต่นอกจากหมอและคนเป็นสามีก็ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอเหลือเวลาชีวิตอีกแค่เพียงไม่กี่อึดใจเธอจึงอยากเห็นลูกสาวที่เธอรักที่สุดเป็นฝั่งเป็นฝาก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไป
“อรจะพยายามค่ะ”
“คุณจอมมาถึงแล้วค่ะคุณอรคุณวดี”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นสิริวดีก็จัดแต่งทรงผมให้ลูกสาวของเธออีกนิดหน่อยก่อนจะพากันเดินลงมาจากชั้นบนโดยที่จอมทัพเองก็นั่งคุยกับคเชนทร์อยู่ข้างล่างเขาปราศจากความตื่นเต้นที่จะได้เจอกับว่าที่เจ้าสาวของเขาเป็นครั้งแรกอย่างชัดเจน..ทำไมน่ะเหรอก็เพราะเขาไม่ได้มีความสนใจใคร่รู้ว่าเธอจะเป็นยังไงเพราะยังไงเขาก็จะไม่รู้สึกอะไรกับเธออย่างแน่นอนการแต่งงานในครั้งนี้เป็นเพียงการแต่งงานเพื่อความสบายใจและเพื่อทำคำสัญญาของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายให้เป็นจริงเพียงเท่านั้น…แต่…
“รอนานไหมลูกวันนี้ป้าฝากน้องด้วยนะ”
จอมทัพหันไปตามเสียงของสิริวดีที่เอ่ยพูดกับตนก่อนจะเสสายตาไปมองคนที่เดินตามหลังเจ้าของเสียงอย่างไม่รู้ตัวความคิดต่างๆ ที่หนักแน่นอยู่ในหัวของเขาหยุดชะงักลงพร้อมกับใบหน้าหล่อเหลาที่ไม่รู้ตัวเองเลยว่าตอนนี้กำลังจ้องมองว่าที่เจ้าสาวของเขาอยู่ด้วยสายตาตะลึงงัน.. ก่อนจะรีบสลัดภาพตรงหน้าออกแล้วรีบเอ่ยตอบกลับไปพร้อมกับทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยที่เจ้าตัวไม่ได้รู้เลยว่าอาการแปลกๆ ของเขานั้นตกอยู่ภายใต้สายตาของคนแก่มากประสบการณ์ทั้งสองอยู่ตลอดเวลา
“อะ เอ่อ ครับคุณป้า”
“สวัสดีค่ะ “
อรฤดียกมือขึ้นพร้อมกับกล่าวสวัสดีว่าที่สามีของเธอตามมารยาทถึงแม้ในใจจะไม่อยากทำมากแค่ไหนก็ตาม จอมทัพเองก็พยักน่ารับก่อนจะหันกลับมายกมือไหว้พร้อมกับกล่าวลาผู้ใหญ่ที่เคารพทั้งสองคน
“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“ไปดีมาดีนะลูกมีอะไรก็ค่อยๆ พูดค่อยๆ จากันนะ”
คนเป็นแม่เอ่ยพูดรั้งท้ายเพราะรู้ดีว่าลูกสาวของตัวเองนั้นฤทธิ์เยอะขนาดไหน
“คุณว่าเป็นไงบ้างคะ”
“ก็ผู้ร้ายปากแข็งทั้งสองคนนั่นแหละคุณก็เห็นไม่ใช่เหรอว่าลูกเขยเราตะลึงตาค้างแค่ไหนตอนที่ได้เห็นลูกสาวของเราครั้งแรกน่ะ”
คนเป็นสามีตอบภรรยาแสนสวยของตัวเองด้วยความภูมิใจถึงเขาจะรู้ว่าเด็กสองคนไม่ได้มีความรักความผูกพันกันมาแต่มองแค่ปราดเดียวก็พอจะดูสายตาออกแล้ว สองสามีภรรยาหันมายิ้มให้กันด้วยความสุขใจก่อนจะยืนโอบกอดกันมองรถของทั้งสองคนที่แล่นออกไปจนลับสายตา
ระหว่างทาง
…ภายในรถไม่แม้แต่จะมีใครคุยกับใครมีเพียงความเงียบงันไปตลอดทางคำพูดและความสุภาพเมื่อครู่เป็นเพียงสิ่งจอมปลอมที่แสดงให้ผู้ใหญ่เห็นเพียงเท่านั้น..
จอมทัพเหล่สายตามามองคนข้างๆ เสี้ยววินาทียามที่ต้องเลี้ยวรถเข้าร้านเพื่อไม่ให้เป็นการเสียฟอร์มไม่คุยก็ไม่ต้องคุยสิเขาก็ไม่ได้อยากทำความรู้จักกับเธอสักหน่อย
เมื่อมาถึงพี่แมวเจ้าของร้านที่ถูกทั้งสองครอบครัวกำชับมาอย่างดีว่าให้คอยจับตาดูคู่รักข้าวใหม่ปลามันและให้รายงานเป็นระยะๆ ก็รีบวิ่งมาต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพร้อมให้บริการเต็มที่
“สวัสดีค่ะน้องจอมทัพน้องอรฤดีพี่แมวนะคะยินดีต้อนรับว่าที่บ่าวสาวทั้งสองคนค่ะรับรองว่าวันนี้พี่แมวจะเสกให้ทั้งสองคนเป็นคู่บ่าวสาวที่สวยที่สุดของปีนี้เลยค่ะ”
ยังไม่ทันที่ทั้งสองคนจะได้พูดตอบโต้อะไรพี่แมวก็รีบจูงมือทั้งสองเข้าไปในร้านทันที
‘อันนี้เป็นชุดที่ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝั่งดูไว้นะคะเดี๋ยวเข้าไปลองชุดนี้ให้พี่แมวดูก่อน..”
เมื่อได้ยินคำว่าผู้ใหญ่ทั้งสองฝั่งทั้งอรฤดีและจอมทัพก็รู้ทันทีว่าเหตุการณ์ในวันนี้จะต้องถูกรายงานให้ถึงหูแน่ๆ จากที่บึ้งตึงเฉยเมยไม่พูดไม่จาก็รีบให้ความร่วมมือกับพี่แมวเป็นอย่างดีไม่งั้นถ้าเรื่องถึงหูกลับบ้านไปหูชาแน่ๆ
“มาครับเดี๋ยวผมช่วย / ขอบคุณค่ะ”
จอมทัพยื่นมือไปรับชุดจากพี่แมวแล้วส่งให้ว่าที่ภรรยาด้วยรอยยิ้มแบบผิดหูผิดตาจากเมื่อครู่ลิบลับแถมยังเดินส่งเธอจนถึงหน้าห้องแต่งตัวอย่างอ่อนโยนอรฤดีเองก็ส่งยิ้มหวานให้เขาก่อนจะเดินเข้าห้องเปลี่ยนชุดไปทำให้พี่แมวที่เห็นถึงกับยิ้มเขินออกมาโดยไม่รู้ตัวช่างเป็นภาพที่น่ารักเสียจริงๆ ปลื้มใจเป็นที่สุด
เป็นจอมทัพที่ออกมาจากห้องแต่งตัวก่อนเขาสำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็ยืนรอว่าที่ภรรยาของเขาอยู่ที่หน้าห้องเมื่อสังเกตเห็นว่าพี่แมวเองก็กำลังยืนรอเขาทั้งสองอยู่จะทำที่เป็นไม่สนใจก็ไม่ได้ มันช่างฝืนความรู้สึกเสียจริงๆ แต่ก็ต้องแสดงต่อไป
“ว๊ายพ่อแก้วแม่แก้วสวยมากเลยค่ะน้องอร..เหมาะกับชุดมากดูสิคะว่าที่เจ้าบ่าวของเราถึงกับตะลึงเลยค่ะ”
ไม่ผิดจากที่พี่แมวพูดไปเลยสักนิดเพียงแค่อรฤดีก้าวเท้าออกมาจากห้องลองเสื้อผ้าในชุดสีขาวประดับไข่มุกดูเรียบหรูอย่างลงตัวส่งให้ใบหน้าสวยหวานของหญิงสาวยิ่งดึงดูดสายตามากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก จริงไม่จริงก็ดูได้จากคนตัวสูงที่ยืนนิ่งงันจ้องมองว่าที่เจ้าสาวของตัวเองอย่างไม่รู้ตัวอีกครั้งก่อนจะได้สติกลับมาเมื่อเสียงของพี่แมวดังขึ้น
ก็ไม่ได้ต่างกันมากนักหรอกเพราะจอมทัพในชุดสูทพอดีตัวที่ถูกตัดเย็บมาอย่างดีนั้นทำเอาอรฤดีถึงกับเสียอาการไปไม่น้อยแต่ก็ต้องเนียนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยเฉพาะหัวใจดวงน้อยๆของเธอที่มันเผลอเต้นรัวจนรู้สึกได้อยู่ในอกนั้น
