แกล้ง
“เหมาะมากเลยค่ะ เหมาะทั้งสองคนเลยค่ะ เข้ากั้นเข้ากันสมกับเป็นคู่รักกันจริงๆ เลยนะคะ”
พี่แมวพูดขึ้นด้วยความปราบปลื้มเมื่อภาพตรงหน้านั้นเป็นที่น่าพอใจเสียเหลือเกินแต่มีหรือที่จอมทัพจะยอมให้เป็นอย่างนั้นง่ายๆ
“แต่ผมว่าชุดนี้มันดูมิดชิดเกินไปหน่อยนะครับ..อืม อืม…”
ว่าที่เจ้าบ่าวที่ไม่ได้อยากจะแต่งงานยืนกอดอกแล้วยกมือขึ้นมาลูบคางตัวเองอย่างคนใช้ความคิด มองไปที่ว่าที่เจ้าสาวของตัวเองแล้วพูดออกมาราวกับไม่ค่อยถูกใจในชุดนี้ของเธอเท่าไหร่นักแต่มีหรือที่คนอย่างอรฤดีจะไม่รู้เท่าทัน
“นั่นสิคะพี่แมวอรว่าชุดเจ้าบ่าวดูไม่ค่อยเข้าชุดกับอรเลยค่ะมีสีที่ซอฟๆ ลงกว่านี้อีกไหมคะ”
อรฤดีหันไปพูดเสียงหวานใบหน้าจิ้มลิ้มกับพี่แมวแต่นั่นกลับทำให้ชายหนุ่มหลุดยิ้มออกมาในทันทีเมื่อรู้ว่าเธอรู้ทันแผนการของเขาแถมยังเอาคืนในทันทีอีกต่างหากเห็นทีว่างานนี้คงจะไม่ง่ายเสียแล้ว
“ได้สิคะได้เลย..รอสักครู่นะคะพี่แมวจะรีบเอาชุดใหม่มาให้ลองค่ะ”
เพียงแค่พี่แมวเดินลับสายตาไปว่าที่เจ้าบ่าวที่ยืนกอดอกจ้องมองว่าที่เจ้าสาวของตัวเองอยู่ก็กำลังเตรียมคิดแผนต่อไปซึ่งว่าที่เจ้าสาวของเขาก็กอดอกหักมาจ้องมองสอดประสานสายตากับตนเองด้วยแววตาที่ฉายชัดว่าเธอเองก็มีแผนอยู่เหมือนกัน
[ หึหึ ได้เลยไม่ว่าเธอมีแผนอะไรเขาจะทำให้เธอยอมแพ้และเอ่ยปากขออย่ากับเขาให้เร็วที่สุด ]
“มาแล้วค่ะชุดใหม่ที่พี่แมวขอนำเสนอชุดนี้นะคะเป็น/Collection ใหม่ส่งตรงมาจากปารีสเลยค่ะรับรองต้องถูกใจแน่นอนเลยค่ะพี่แมวรับประกัน”
และเช่นเดิมทั้งสองยิ้มให้กันและรับชุดจากพี่แมวไปโดยที่ว่าที่เจ้าบ่าวก็เดินไปส่งเจ้าสาวที่ห้องลองชุดต้อยๆ เหมือนเดิมทำเอาพี่แมวยิ้มไม่หุบได้แต่คิดว่าถ้าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรู้ว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวเอาใจใส่ให้ความร่วมมือกันดีขนาดนี้จะต้องมีความสุขมากแน่ๆ
“กรี้ดดดดด มันจึ้งมากกกก ดูดีที่สุดสวยที่สุดหล่อที่สุดไปเลยค่ะ”
พี่แมวถึงกับเก็บอาการไม่อยู่เมื่อเห็นว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวเดินควงแขนกันออกมามันช่างเป็นภาพที่เพอร์เฟคสมบูรณ์แบบเจ้าบ่าวที่หล่อและหุ่นดีกับเจ้าสาวที่สวยและเพอร์เฟคขนาดนี้ต่อให้หยิบชุดเข้าครัวมาก็คงจะดูดีไม่ต่างจากเดิมนั่นแหละพี่แมวได้แต่โอบกอดตัวเองด้วยความเป็นสุขใจ
“แต่ผมว่าชุดนี้ยังไม่ค่อยถูกใจผมเท่าไหร่เลยนะครับ”
“ใช่ค่ะ อรก็รู้สึกว่าชุดนี้มัน อืมมม…”
คำพูดของทั้งสองทำเอาพี่แมวถึงกับหน้าเหวอไปชั่วครู่ทั้งสวยทั้งดูดีขนาดนี้แต่ยังไม่ถูกใจ..เอาเถอะแต่ไม่เป็นไรพี่แมวซะอย่างจัดให้ได้อยู่แล้ว
เมื่อคิดได้อย่างนั้นพี่แมวก็เดินหายกลับเข้าไปเพื่อหยิบชุดใหม่มาให้ทั้งสองได้ลองอีกแต่แล้วไม่ว่าจะลองผ่านไปกี่ชุดต่อกี่ชุดทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็ยังดูไม่พอใจในชุดของกันแหละกันเหมือนเดิมทำเอาพี่แมวถึงกับทิ้งตัวลงนอนแผ่บนโซฟาด้วยความเหนื่อย ก็แต่ละชุดทั้งหนักและต้องเดินไปเดินมาอยู่หลายรอบจนหมดพลังแล้ว..
“น้องจอมชาาา น้องอรขาา ไม่มีชุดไหนในร้านพี่แมวอีกแล้วค่ะไม่ถูกใจสักชุดเลยเหรอคะพี่แมวโดนคุณพ่อคุณแม่ของน้องจอมและน้องอ่อนเอาตายแน่เลยค่ะสงสารพี่แมวเถอะนะคะ”
พี่แมวพูดด้วยความเหนื่อยล้าพร้อมกับยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มเมื่อเห็นอย่างนั้นทั้งสองคนก็ต่างเหล่ตามองกันเล็กน้อย
“ตกลงค่ะอรมีชุดที่ชอบในใจตั้งแต่แรกแล้วค่ะพี่แมว”
อรฤดีกอดอกแล้วหันไปพูดใส่หน้าชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ดีจังเลยค่ะน้องอรบอกพี่แมวมาได้เลยค่ะ”
“ชุดแรกค่ะ! / ชุดแรกครับ!”
ยังไม่ทันที่พี่แมวจะได้พูดต่อทั้งสองคนก็พูดออกมาพร้อมๆ กันในทันทีก่อนจะหันมองหน้ากันด้วยแววตาเอาเรื่องซึ่งนั่นทำให้พี่แมวแทบหงายท้องนอนแผ่หลาเมื่อรู้ว่าที่ผ่านมาตั้งแต่แรกทั้งสองคนเพียงแสดงให้ตนเองดูเท่านั้นแถมยังแกล้งกันไปมาอีกต่างหาก…
“โอ๊ยพี่แมวจะเป็นลม ! “
.
.
.
ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าคุณวางแผนจะทำอะไร”
อรฤดีเป็นฝ่ายเปิดประเด็นขึ้นมาก่อนขณะที่กำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ความคิดของทั้งสองคนแน่นอนแต่เป็นคำสั่งของพ่อและแม่ทั้งสองฝ่ายที่บอกว่าเมื่อลองชุดเสร็จแล้วให้ทานข้าวก่อนกลับบ้านและใช่…ทุกอย่างได้ถูกจองและจัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
“หึ ถ้ารู้แล้วก็ดีงั้นคุณก็ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมพิธีแต่งงานกับผมซะสิ”
เมื่อคนตรงหน้าพาเข้าประเด็นสำคัญจอมทัพเองก็ไม่รีรอที่จะเอ่ยพูดความต้องการของตัวเองออกมาอย่างชัดเจนเหมือนกัน
“ฉันก็ไม่ได้อยากแต่งกับคุณนักหรอกแต่ฉันมีความจำเป็นบางอย่างที่ปฏิเสธคุณแม่ไม่ได้ ถ้าคุณไม่อยากแต่งกับฉันขนาดนั้นทำไมคุณไม่เป็นฝ่ายถอนตัวออกจากการแต่งงานนี้ซะเองล่ะ”
ชัดเจนแล้วว่าทั้งสองคนคิดตรงกันในเรื่องการแต่งงานแต่ดูเหมือนแต่ละคนก็จะมีเหตุผลของตัวเองที่ไม่อาจจะปฏิเสธได้เช่นกัน
“ถ้าผมทำได้ผมทำไปแล้วคุณไม่รู้หรอกว่าผมลองทำอะไรไปบ้างแล้วคุณล่ะได้ลองบ้างหรือยัง”
จอมทัพจ้องมองคนตรงหน้าเขม๋งแต่ก็รู้สึกดีขึ้นที่เธอเองก็ไม่ได้อยากจะแต่งงานกับเขาเหมือนกันเห็นทีว่าแบบนี้คงจะคุยกันได้ง่ายหน่อย
“ถ้าอย่างนั้นผมว่าเรามาร่วมมือกันดีกว่าอย่างน้อยๆ ก็ยังดีกว่าที่เราทั้งคู่แต่งไปแล้วก็ทำอะไรไม่ได้แบบนี้แถมทุกอย่างยังตกอยู่ในสายตาของพวกท่านอีก”
พูดจบแล้วจอมทัพก็กรอกตาไปทั้งสองข้างซ้ายขวาเป็นสัญญาณให้อรฤดีรู้ตัวว่าพนักงานในร้านกำลังกูมองเขาและเธออยู่แน่นอนว่าต้องเป็นคำสั่งของพอและแม่ของใครคนใดคนหนึ่งอย่างแน่นอน
“ฉันขอพูดยืนยันไว้ตรงนี้อีกครั้งเลยว่าฉันไม่ได้อยากแต่งงานกับคุณ”
“ผมก็เหมือนกัน”
ทั้งสองคนต่างพูดจาหนักแน่นทั้งที่ใบหน้ายิ้มแย้มเพื่อไม่ให้ผิดสังเกตแล้วเข้าหูถึงผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย
“ผมว่าเราควรร่วมมือกัน ถ้าเราหยุดงานแต่งไม่ได้งั้นผมว่าเราก็เล่นตามน้ำไปก่อนแล้วค่อยหย่ากันทีหลังคุณคิดว่ายังไง”
อรฤดีไม่ได้ตอบตกลงในทันทีเธอใช้ความคิดทบทวนอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตกลงเห็นด้วยกับข้อเสนอของคนตรงหน้า
“แต่ฉันมีหลายอย่างที่อยากจะตกลงกับคุณก่อน “
“ผมก็เหมือนกันถ้างั้นตกลงตามนี้แล้วเดี๋ยวส่วนที่เหลือเราค่อยมาคุยกันอีกที”
“ได้ค่ะตกลง”
“อาหารมาเสิร์ฟแล้วครับ”
เสียงพนักงานดังขึ้นพอดีกับที่ทั้งสองตกลงกันได้ทุกอย่างราบรื่นเป็นไปได้ด้วยดีแต่ก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าเขาไว้ใจเธอได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือเธอจะไว้ใจเขาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เสียเมื่อไหร่
