บท
ตั้งค่า

บทที่ 7

“เลิกเถียงกันเถอะครับ พี่ง่วง” เอ่ยจบปุณณ์ก็เดินอุ้มดรินทร์มาที่เตียงแล้ววางเธอลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็เดินไปทิ้งตัวนอนลงบนโซฟา ทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เมื่อครู่ปุณณ์สะดุ้งตื่นถึงได้รู้ว่าเขาเผลอหลับอยู่บนเตียง ส่วน ดรินทร์นั้นขดตัวนอนบนโซฟา ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นแล้วเดินมาหาหวังดีจะอุ้มเธอให้ไปนอนบนเตียงแทน จะได้ไม่ต้องนอนขดตัวอยู่แบบนั้น แต่สงสัยจะนั่งมองเธอเพลินไปหน่อย เพราะยังไม่ทันจะได้อุ้มดรินทร์ก็รู้สึกตัว

พอเธอตื่นก็เริ่มมีเหตุผลเป็นของตัวเองชนิดไม่ยอมจบง่ายๆ เขาจึงรีบอุ้มเธอไปวางบนเตียง ก่อนจะรีบตัดบทกลับมาทิ้งตัวนอนบนโซฟา

ส่วนคนที่ถูกอุ้มมานอนบนเตียงก็นอนด้วยท่าทางตัวแข็งทื่อ แววตาดูหวาดระแวงอย่างเห็นได้ชัด เพราะกลัวตัวเองจะเผลอหลับแล้วถูกปุณณ์เข้ามาใกล้อีก แต่สุดท้ายดรินทร์ก็ทนต่อความง่วงไม่ไหว หลับไปในที่สุด

“ไหนบอกไม่ดื้อ” ปุณณ์เอ่ยกับตัวเอง ขณะที่กำลังนอนมองดรินทร์อยู่บนโซฟา จากนั้นก็ปล่อยให้เวลาผ่านไปและเขาก็หลับตามเธอไปอีกครั้ง

“มองป้าแบบนั้นทำไมกุ๊กไก่” ปรียาเอ่ยถามขึ้น เพราะเช้านี้เพียงดาวเอาแต่จ้องมองคล้ายจะถามอะไร

“ก็ไม่คิดว่าเมื่อคืนคุณป้าจะเออออตามกุ๊กไก่เรื่องป่วยนี่ค่ะ” เพียงดาวเอ่ยตอบ อันที่จริงเธออยากถามให้หายสงสัยตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าปรียาคิดจะทำแบบนี้จริงๆ ใช่ไหม แต่พอกลับมาถึงบ้านปรียาก็ขอตัวไปพักผ่อน

ส่วนเธอก็ตัดสินใจนอนค้างที่บ้านปรียาเสียเลย ขืนฝืนตัวเองขับรถกลับบ้านก็กลัวจะหลับในเข้า เพราะเมื่อคืนกว่าจะกลับมาถึงบ้านปรียาก็ดึกตื่นแถมก็ยังง่วงและเพลีย

“ป้ามีตัวเลือกอื่นหรือไง ในเมื่ออะไรๆ มันดลให้หนูลินมาเป็นเจ้าสาวแทนแบบนี้แล้ว ป้าก็อยากให้พวกเขาได้ใช้เวลาด้วยกันดู เผื่อว่าสองคนนั้นจะเกิดมาคู่กัน”

“ถ้างั้นคุณป้าก็ต้องโกหกพี่ปุณณ์ด้วยนะสิคะ”

“อืม”

“ถ้าพี่ปุณณ์รู้มีหวังช็อคแน่ๆ” เป็นเธอเธอก็คงช็อค ที่จู่ๆ ต้องมารู้ว่าแม่ตัวเองป่วยด้วยโรคหัวใจแบบนี้

“ป้าก็แค่อยากยื้อเวลาให้ปุณณ์กับหนูลินได้อยู่ด้วยกันก็แค่นั้น เพราะป้าเชื่อว่าหนูลินคงไม่ยอมอยู่ในสถานะมัดมือชกแบบนี้ไปนานนักหรอก”

“ก็จริงค่ะ” เพียงดาวเอ่ยเห็นด้วย

“แต่ถ้าหนูลินมีใจให้ปุณณ์อยู่บ้าง อันนี้ก็น่าคิด”

“เมื่อก่อนนะมีค่ะ ลินเคยบอกว่าชอบพี่ปุณณ์ แต่มันก็ผ่านมาหลายปีแล้วนะคะ เพราะตอนนี้กุ๊กไก่ถามลินเขาแล้ว ซึ่งลินก็ตอบหนักแน่นว่าไม่ได้คิดอะไรกับพี่ปุณณ์อีก” สีหน้าของเพียงดาวดูจะผิดหวัง รวมไปถึงปรียาเองก็ด้วย

“คนเราบทจะรักกันก็รักกันได้ ป้าถึงอยากสร้างโอกาสให้ปุณณ์กับหนูลินได้ใกล้ชิดกัน”

“นานแค่ไหนคะคุณป้า”

“กุ๊กไก่คิดว่าเวลาสักสามเดือน เราพอจะยังรั้งหนูลินไว้ได้ไหม”

“น่าจะได้นะคะ” เพียงดาวเองก็ไม่มั่นใจ แต่ระยะเวลาแค่นี้อาจพอที่จะรั้งตัวดรินทร์ไว้ได้

“หลังจากนี้ถ้าสองคนนั้นเกิดมีใจให้กันขึ้นมา พวกเขาก็คงสานต่อกันเอง เราก็แค่ทำหน้าที่แม่สื่อ” นี่คือสิ่งที่ปรียาคาดหวัง

“ค่ะ” น้ำเสียงของเพียงดาวเอ่ยรับ ไม่คิดไม่ฝันจริงๆ ว่าเรื่องราวมันจะเลยเถิดมาถึงขนาดนี้

“แล้วนี่คุณป้าจะจัดการยังไงกับครอบครัวคุณดาวคะ”

“ป้าสั่งให้ทนายจัดการต่อแล้ว ในเมื่อพวกนั้นไม่ให้เกียรติป้า ป้าก็คงช่วยอะไรไม่ได้” คำสั่งของปรียาที่แจ้งทางทนายส่วนตัวไปเมื่อเช้าคือให้จัดการขั้นเด็ดขาด ไม่มีคำว่าไกล่เกลี่ยอีกต่อไป ในเมื่อฝ่ายนั้นเลือกที่จะไม่ไว้หน้าเธอ เธอก็ไม่เอาไว้เช่นกัน

ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าก็พูดจากันเข้าใจดี แต่กลับมาฉีกหน้ากันในงานแต่งงานอย่างไม่เหลือชิ้นดีแบบนี้ มีหรือที่เธอนั้นจะยอมจบง่ายๆ รู้จักคนอย่างปรียาน้อยไป บทจะดีก็ดีแต่ถ้าใครร้ายมาเธอก็ไม่เอาไว้แน่นอน

เพียงดาวอยู่กินอาหารเช้ากับปรียา อีกใจคืออยากอยู่รอพบดรินทร์ด้วย กระทั่งเที่ยงนิดๆ เธอก็ได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาจอด พอชะเง้อออกไปมองจึงรู้ว่าเป็นรถของปุณณ์ ซึ่งเวลานี้มาพร้อมดรินทร์

“ลิน”

“กุ๊กไก่ อยากเจออยู่พอดี” ดรินทร์เดินตรงไปหาเพียงดาวพร้อมกับคว้ามือของเธอมากุมไว้ เพียงดาวนั้นอยากแซวเพื่อนเหลือเกินว่าเข้าหอมาเป็นยังไงบ้าง แต่ดูจากสถานการณ์แล้วเดาได้ไม่ยาก บ่าวสาวป้ายแดงน่าจะต่างคนต่างนอนมากกว่า

“คุณแม่พี่ละกุ๊กไก่” เสียงทุ้มของปุณณ์เอ่ยถามถึงผู้เป็นแม่ขึ้น เพราะน่าจะเห็นท่านเดินออกมารับที่หน้าบ้านด้วย

“อยู่ที่ห้องนั่งเล่นค่ะ” เพียงดาวเอ่ยบอก แต่จู่ๆ เสียงเพล้งคล้ายกับมีแก้วตกแตกก็ดังขึ้น โดยทิศทางหลักๆ มาจากห้องนั่งเล่น

เพล้ง!

“เสียงอะไรคะพี่ปุณณ์” เพียงดาวเอ่ยถามหน้าตาตื่น

“ดังมาจากห้องนั่งเล่น หรือว่า...” ปุณณ์เริ่มใจคอไม่ดี

“คุณป้าเหรอคะ” ดรินทร์อุทานออกมาด้วยความตกใจอีกคน

“คุณแม่” เอ่ยจบปุณณ์ก็วิ่งอย่างเร็วเพื่อตรงไปยังห้องนั่งเล่น และเมื่อมาถึงก็เห็นผู้เป็นแม่นอนฟุบหน้าอยู่กับพื้น โยรอบตัวนั้นมีเศษแก้วและน้ำชากระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ

ดรินทร์และเพียงดาวที่รีบวิ่งตามหลังมาเห็นภาพเข้าก็ถึงกับช็อค ก่อนที่เพียงดาวจะเข้าไปช่วยปุณณ์พยุงปรียาอีกแรง ในขณะที่ดรินทร์เองก็นั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ ชายหนุ่ม คอยเก็บเศษแก้วที่แตกให้ออกห่าง

“คุณแม่ครับ...คุณแม่” ปุณณ์เอ่ยเรียกผู้เป็นแม่ ชายหนุ่มยอมรับว่ากำลังตกใจ เพราะปรียาไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน

“คุณป้าคะ คุณป้าได้ยินกุ๊กไก่ไหมคะ” เพียงดาวก็อีกคนที่ตกใจ เพราะก่อนจะออกไปรับปุณณ์กับดรินทร์ ปรียายังคุยกับเธอเป็นปกติอยู่เลย

“ปะ...ปุณณ์” ปรียาเอ่ยเรียกชื่อลูกชายเสียงแผ่ว ก่อนที่ปุณณ์จะพยุงผู้เป็นแม่ให้ขึ้นมานอนบนโซฟา โดยขณะนั้นปรียาก็กุมมือปุณณ์ไว้แล้วบีบเบาๆ พร้อมสบตาไปด้วย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel