บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 9 [N&Z] ชื่นชม

Zhu Li talk

ระหว่างที่ฉัน ลุงซีห่าว ป้าไพลิน นรินทร์ คิน และคุณนักรบ นั่งทานขนมร่วมกันบนโต๊ะอาหาร สายตาของเราทั้งคู่ก็มองสอดประสานแววตากันหลายครั้ง ฉันแอบใจเต้นแรงไปหลายทีเชียวล่ะ ก็เขาช่างเป็นหนุ่มรุ่นใหญ่ที่หน้าตาหล่อเหลาบาดใจเด็กวัยรุ่นแบบฉันเสียเหลือเกิน

เวลาผ่านล่วงเลยไปเกือบครึ่งชั่วโมง เรานั่งกิน นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายขนมทุกอย่างที่ซื้อมาก็หมดลง และก็ถึงเวลาที่คุณนักรบต้องกลับบ้าน ครอบครัวเราก็เดินออกมาส่งเขาที่ด้านนอก

"ขับรถดีดีนะ ไว้ว่างๆ มาบ้านเราอีก" ป้าไพลินเอ่ยลาเพื่อนสนิท

"อืม ไว้เราจะมาบ่อยๆ" คุณนักรบตบปากรับคำป้า แต่สายตากลับแอบมองมาที่ฉันเป็นระยะ

"ขอบคุณนะคะที่ไปรับซูลี่" ฉันกล่าวขอบคุณเขาอีกครั้ง

"ยินดีครับ ลาแล้วนะครับคุณซีห่าว"

แม้ปากจะเอ่ยลาลุงกับป้า แต่กลับส่งรอยยิ้มและสายตาหวานละมุนมาให้ฉัน ก็ละลายไปเลยสิคะ เจอรอยยิ้มแบบนี้ ><

"ครับ" ลุงซีห่าวกล่าวลาเช่นกัน

"เราไปก่อนนะไพลิน"

เมื่อเขาเดินขึ้นรถและขับรถออกไปจนพ้นสายตาฉัน ฉันก็เริ่มถามป้าไพลิน ในสิ่งที่ฉันสงสัยมาตลอด

"คุณป้าคะ ทำไมคนไทยรู้จักคุณนักรบเยอะมาก เหมือนกับว่าเขาเป็นคนดังของประเทศเลยค่ะ"

"ก็ดังน่ะสิจ๊ะ ฮีโร่หน้าหยกในเครื่องแบบ ไม่ใช่มีดีแค่หน้าตา แต่การทำงานไขคดีก็เก่งเกินกว่าใคร"

"ยังไงคะ"

"ป้าเล่าคืนนี้ทั้งคืนก็คงบรรยายสรรพคุณเขาไม่หมดหรอกจ้ะ หนูไปหาอ่านใน google นะ หนูจะได้รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขาจ้ะ"

และแน่นอน...ฉันที่กลายเป็นแฟนคลับเขาไปแล้ว ก็รีบแจ้นขึ้นห้องนอนและหยิบมือถือขึ้นมา search หาข้อมูลเขาทันที

ฉันพิมพ์ชื่อและนามสกุลของเขาลงไป Nakrop Loetphaisansakul

"พันตำรวจตรี นักรบ เลิศไพศาลสกุล สารวัตรหนุ่มหน้าหล่อ ขวัญใจสาวๆ ทั่วบ้านทั่วเมือง ที่ตอนนี้สร้างผลงานโดดเด่นจนฉุดไม่อยู่ ด้วยวัยเพียงสามสิบห้าปี สารวัตรหนุ่มเนื้อหอมคนนี้ เป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งในประเทศและต่างประเทศ เมื่อผลงานล่าสุดของสารวัตรที่ได้เข้าช่วยเหลือตัวประกันนับสิบคนที่ห้างหรูดังย่านใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ซึ่งตัวประกันทั้งหมดมีชีวิตรอดปลอดภัยออกมากันครบ โดยครึ่งหนึ่งของตัวประกันเป็นชาวต่างชาติ และนั่นทำให้ชื่อเสียงของสารวัตรหนุ่มเลื่องลือออกไปไกลยังต่างแดน"

ฉันหยุดอ่านแค่ตรงนี้...เพราะเวลานี้ฉันหยุดอมยิ้มไม่ได้แล้ว เขาช่างหล่อและเท่ห์จริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่ทุกคนต่างหลงรักเขา เพราะเขาคือฮีโร่ของคนไทย

"ก๊อกๆ" เสียงเคาะประตูดังขึ้น

"ป้าเข้าไปนะลูก"

"เข้ามาได้เลยค่ะคุณป้า"

"ยิ้มอะไรจ๊ะหลานสาว" คุณป้าถามฉันทันทีที่เห็นใบหน้ามีความสุขของฉัน

"เอ่อ...พอดีหนูอ่านประวัติของคุณนักรบ เขาเก่งจริงๆ เลยนะคะ"

"ใช่จ้ะ เก่งมาก หนูอยากรู้เรื่องเขาหรอจ๊ะ"

"ใช่ค่ะ"

"กลายเป็นแฟนคลับเขาไปแล้วใช่ไหมจ๊ะ"

"แหะๆ"

"นักรบเป็นเพื่อนสนิทของป้า เราสองคนรู้จักกันตั้งแต่มหาวิทยาลัย เพราะเรียนแพทย์เหมือนกัน และเป็นเด็กสอบเทียบได้เหมือนกัน"

"อะไรนะคะ? เรียนแพทย์ แล้วทำไมคุณนักรบถึงได้มาเป็นตำรวจละคะ"

"นักรบเป็นคนหัวดี เรียกว่าอัจฉริยะเลยก็ว่าได้ เขาเรียนนิติศาสตร์อีกมหาวิทยาลัยควบคู่กันไปด้วย และก็สามารถคว้าเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง มาได้ทั้งสองมหาวิทยาลัย"

ฉันนั่งฟังอย่างตั้งใจ จนสายตาเป็นประกาย ทำให้คุณป้าต้องหยุดเล่าและมองมาที่ฉัน ท่านส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาให้ คุณป้าน่าจะรู้แล้วล่ะว่า หลานสาวของเธอ ถูกเพื่อนสนิทตกเข้าอย่างจัง

"หน้าหลานดูมีความสุขมากๆ เลยนะ ถูกเขาตกหรอลูก"

"คุณป้าอ่ะ...ซูลี่เขินนะคะ เล่าต่อเถอะค่ะ ซูลี่อยากฟัง"

"งั้นป้าเล่าต่อเลยนะ...พ่อของนักรบเป็นนายตำรวจแต่ท่านเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว ท่านอยากให้นักรบเป็นตำรวจ นักรบจึงต้องเป็นตำรวจตามที่พ่อร้องขอ ส่วนแม่ของเขาเป็นหมอจ้ะ"

"คุณนักรบมีพี่น้องไหมคะ"

"อืม...ไม่มีนะ เป็นลูกชายคนเดียว"

"โห...แม่ของคุณนักรบน่าจะหวง ไม่งั้นคงแต่งงานไปนานแล้ว"

"ไม่ได้หวงหรอกจ้ะ แต่นักรบยังไม่เจอใครถูกใจ อีกอย่างเขาเป็นห่วงแม่มากๆ กลัวท่านจะเหงา"

"คุณป้าคะ ซูลี่ขอถามเรื่องหนึ่งได้ไหมคะ"

"ว่ามาสิจ๊ะ"

"คุณนักรบกับม๊าของซูลี่ เคยเป็นคนรักกันหรอคะ"

"ทำไมถามแบบนี้ล่ะลูก"

"คุณป้าจำสร้อยเส้นนี้ได้ไหมคะ" ฉันหยิบสร้อยออกมาจากคอเสื้อด้านใน ซึ่งทันทีที่คุณป้าเห็น ท่านก็ทำตาโตตกใจทันที

"ใครให้หนูมาจ๊ะ"

"ม๊าค่ะ"

"แล้วม๊าของหนู ได้เล่าอะไรให้หนูฟังหรือเปล่าล่ะจ๊ะ"

"เล่าค่ะ แต่เล่าสั้นๆ แค่ว่าคุณนักรบกับม๊า เจอกันเพียงไม่กี่วัน ความสัมพันธ์จึงไม่มีการพัฒนาอะไรค่ะ"

แม้ว่าปากฉันจะพูดไปแบบนั้น แต่สายตาของฉันก็มองอาการของคุณป้าตลอด ซึ่งท่านดูเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

"คุณป้าคะ เล่าให้ซูลี่ฟังหน่อยเถอะค่ะ นะคะ"

"ป้าว่าเรื่องมันก็ผ่านมานานมากๆ แล้ว หนูอย่าไปใส่ใจเลยลูก"

"โธคุณป้า หนูก็แค่อยากรู้เรื่องราวของคนที่หนูชื่นชอบ ก็หนูเป็นแฟนคลับเขานี่คะ ไม่ได้คิดอะไรมากกว่านั้นเลยค่ะ" จริงๆ แล้วฉันโกหก ฉันคิด...และคิดไปไกลแล้วด้วย แต่ความอยากรู้มันมีมากกว่า

"ถ้าป้าเล่าแล้ว หนูก็แค่ฟัง และอย่าคิดมากนะจ๊ะ"

"ค่ะ หนูไม่คิดมากหรอกค่ะ หนูแค่ชื่นชมคุณนักรบในฐานะประชาชนที่เป็นแฟนคลับคนหนึ่งเท่านั้นเองค่ะ"

"จ้ะ งั้นป้าจะเล่าให้ฟัง คือ...นักรบชอบม๊าของหนูมากๆ แต่ป้าไม่รู้ว่าช่วงเวลานั้นม๊าของหนูรู้สึกกับนักรบมากแค่ไหน เพราะเพียงไม่นาน ม๊าและป๊าของหนูก็แต่งงานกัน หัวใจของม๊าหนูก็เป็นของป๊าทันที"

"ก็จริงนะคะ ม๊ารักป๊ามากๆ มากจนไม่สามารถรักใครได้อีกแล้ว"

"จ้ะ ก็นั่นแหละ แต่กับนักรบ...เขายังคงรักม๊าของหนูอยู่ แต่ป้าไม่แน่ใจหรอกนะว่าเขาใช้เวลานานแค่ไหนเพื่อลืมม๊าของหนู"

"ค่ะ" ทำไมประโยคที่ป้าพูดออกมา ถึงทำหัวใจของฉันเจ็บได้ก็ไม่รู้

"และตอนนี้ล่ะคะ คุณนักรบ...เขายัง...เอ่อ...รักม๊าของหนูอยู่ไหม"

"ไม่น่าแล้วล่ะจ้ะ เรื่องมันผ่านมานานแล้ว นักรบน่าจะตัดใจไปได้นานแล้วล่ะจ้ะ"

ทำไมคุณป้าถึงใช้คำว่าน่าจะ...หรือจริงๆ แล้วคุณนักรบอาจจะยังรักม๊า และยังลืมม๊าไม่ได้ สมองฉันคิดเตลิดไปไกล ทำให้บทสนทนาของฉันและคุณป้าหยุดลงชั่วขณะ

"ซูลี่ ซูลี่" เสียงคุณป้าเรียกฉัน ทำให้ฉันหลุดออกจากภวังค์ความคิด

"คะคุณป้า"

"หนูอยากเรียนภาษาไทยใช่ไหมจ๊ะ"

"อยากค่ะอยาก"

"งั้นช่วงหนึ่งเดือนนี้ ป้าจะสอนหนูเองจ้ะ"

"ดีค่ะ ขอบคุณนะคะคุณป้า"

บทสนทนาของฉันและคุณป้าจบลงแค่นั้น และท่านก็ออกจากห้องไป เพื่อให้ฉันได้ใช้เวลาส่วนตัว ฉันจึงจัดเก็บเสื้อผ้าใส่ตู้และเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง ทันใดนั้นเสียงข้อความมือถือก็ดังขึ้น

"ติ๊งงง"

ฉันหยิบมือถือขึ้นมาดู และก็พบว่ามีคนทักไลน์มาคุย เพราะหน้าจอแจ้งเตือนแอพไลน์เด้งขึ้นมา ฉันจึงกดเข้าไปและสิ่งที่เห็นบนหน้าจอมือถือก็ทำให้หัวใจฉันเต้นระรัวด้วยความดีใจทันที

[ขอโทษที่ทักมาหากลางดึกครับ และขอโทษที่แอดไลน์คุณโดยไม่ได้ขออนุญาตก่อน ผมขอไลน์มาจากป้าของคุณ ผมแค่อยากไลน์มาบอกว่า...ฝันดีนะครับ] รูปภาพโปรไฟล์ขึ้นเป็นหน้าของเขา คุณนักรบสุดหล่อ...พ่อคุณพ่อทูนหัวของซูลี่นี่เอง

_____________________________________

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel