ตอนที่ 8 [N&Z] ทำความรู้จัก
Zhu Li talk
"หิวข้าวไหม" เขาเอ่ยปากถามฉัน ขณะที่เขากำลังขับรถพาฉันออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ
"กินมาบนเครื่องแล้วค่ะ แต่...ตอนนี้อยากทานขนม"
"อยากทานอะไร ผมจะได้พาไปถูกร้าน"
"อืมมม...ทานไรดีน้า คุณแนะนำซูลี่หน่อยสิคะ" ฉันหันหน้าไปมองเขา พร้อมทั้งเอ่ยปากถามออกไป และสมองก็พลันคิดว่า... ทำไมเขาถึงหล่อ ดูดีไปซะทุกมุมแบบนี้ แค่ใบหน้าด้านข้าง ก็หล่อกร้าวใจ ทำใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะด้วยความตื่นเต้นแล้ว
"ทานไอศครีมไหม"
"ไม่เอาค่ะ"
"พอผมแนะนำ คุณก็ไม่เอา"
"อย่าหงุดหงิดสิคะ เดี๋ยวแก่เร็วน้าาาา" น้ำเสียงออดอ้อนของฉัน ทำคนข้างๆ ต้องเหลือบสายตามามอง
"ตอนนี้ผมแก่กว่าคุณยี่สิบปี ยังไงก็เป็นคนแก่สำหรับคุณอยู่แล้ว"
"น้อยใจหรือคะ โอ๋ๆ...ซูลี่ขอโทษน้า ไม่ได้ตั้งใจว่าคุณแก่นะคะ คุณไม่แก่เลย ตรงกันข้ามยังดูหนุ่มด้วยซ้ำ"
"หึ ปากหวานจริงๆ"
"ก็อยากให้ชิมอยู่นะ" ฉันพึมพัมเบาๆ เพราะไม่อยากให้คนข้างๆ ได้ยิน แต่แล้วเขากลับได้ยินซะงั้น
"ยังเด็กอยู่ อย่าคิดเรื่องพวกนี้"
เท่านั้นแหละ ฉันนั่งเงียบ ไม่พูดอะไรต่อเลย ถึงแม้ฉันยังเด็กแต่ก็มีหัวใจนะ และตอนนี้หัวใจดวงน้อยๆ ก็เต้นแรงมาก เมื่ออยู่ใกล้กับคุณ และเมื่อความเงียบเข้าปกคลุมเกือบห้านาที เขาจึงต้องชวนฉันคุยอีกครั้ง
"เป็นอะไร นั่งเงียบไม่พูด"
"ไม่รู้จะพูดอะไรค่ะ กลัวพูดอะไรไม่ดีออกไป จะดูก้าวร้าวเกินไปอีก"
"ผมไม่ได้ห้าม คุณพูดได้ แต่แค่..."
"แค่ไม่อยากให้พูดอะไรที่โตเกินวัยใช่ไหมคะ" ฉันพูดแทรกเขาทันที
"โอเคๆ ถ้าคุณอยากพูดก็พูดมา ถ้าอันไหนมันมากเกินไป ผมจะคอยเตือน"
"ไม่พูดแล้วค่ะ"
"เฮ้อ ตามใจคุณ...ถึงร้านแล้ว" เขาจอดรถที่หน้าร้านขนม ร้านนี้ขายทั้งน้ำแข็งใสและขนมไทย เมนูมีเยอะแยะหลากหลายมากๆ
"ลงมา"
เขาเดินมาเปิดประตูรถให้ฉัน ฉันจึงก้าวเท้าเดินออกมา และก็พบว่าละแวกนี้มีร้านขายของกินค่อนข้างเยอะ ถ้าให้ฉันเดาจากจำนวนคนของร้านขนมนี้ มันคงอร่อยน่าดู
เอ...แต่ทำไมตอนนี้ฉันรู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้ เหมือนมีสายตาจับจ้องมองมาที่ฉัน ฉันจึงหันไปด้านขวาก็พบว่ามีกลุ่มเด็กวัยรุ่นผู้ชาย อายุน่าจะไล่เลี่ยกับฉัน มองตรงมาที่ฉัน และสายตาที่มองมา คล้ายกำลังชื่นชมอยู่ไม่น้อย ผู้ชายประมาณห้าคนส่งยิ้มหวานละมุนมาให้ฉันพร้อมๆ กัน ฉันจึงส่งยิ้มกลับไปตามมารยาทที่ดีของแขกผู้มาเยือน
"จะยิ้มอีกนานไหม"
อะไรของเขาเนี่ย ฉันหุบยิ้มทันทีที่คนข้างๆ ถามขึ้นมา ตอนนี้สายตาเขาจ้องมองไปที่กลุ่มเด็กวัยรุ่นผู้ชายทั้งห้าคนนั้น และเขายังยื่นมือมากอบกุมมือของฉันไว้แน่น
"เป็นอะไรคะเนี่ย ซูลี่ก็แค่ยิ้มกลับไปตามมารยาท"
เขาไม่ตอบอะไรกลับมา แต่เดินจูงมือฉันตรงเข้าร้านไปเลย ให้ตายเถอะ เขาแซงคิวใช่ไหม
"สารวัตรนักรบนี่"
"เฮ้ยยยย ตัวจริงหล่อมาก"
"ฮีโร่ในเครื่องแบบ มาโปรดถึงที่ ขอถ่ายรูปหน่อยเถอะ"
"อีบ้า ลดมือถือลงเลย เห็นไหมเขามากับแฟน"
เสียงผู้หญิงภายในร้าน พูดซุบซิบกันเป็นภาษาไทย ซึ่งฉันฟังไม่ออกเลย ฉันฟังได้แค่ภาษาอังกฤษกับภาษาจีนเท่านั้น พวกหล่อนพูดอะไรกันอ่ะ และทำไมต้องมองจ้องคุณนักรบแบบนั้น ทำอย่างกับว่าอยากจะกลืนกินเขาทั้งตัว
เท่านั้นแหละ แม้ฉันจะไม่เข้าใจภาษาไทยแต่ฉันพอเดาออกจากสายตาที่พวกหล่อนมองมา ผู้หญิงพวกนั้นคงปลื้มคุณนักรบกันน่าดู ฉันจึงกระชับการจับมือกับเขาให้แน่นขึ้น และเพียงเท่านี้ พวกเธอก็หันหน้าหนีไปทางอื่นและก็เริ่มซุบซิบกันต่อ
"ฉันบอกแกแล้ว ว่าเขามากับแฟน ยังจะเสร่อยกมือถือถ่ายรูปเขาอีก"
"โอ๊ยย ก็แค่อยากเก็บภาพ ไม่ได้จะเอาสักหน่อย"
"แต่แฟนเขาสวยอยู่นะ จะว่าลูกครึ่งก็ไม่ใช่ซะทีเดียว แต่เขาเหมาะสมกันมาก ดังนั้นชื่นชมอยู่ห่างๆ พอ เดี๋ยวแฟนเขาจะมาแหกอกเอา"
…
Nakrop Talk
ผมได้ยินที่กลุ่มเด็กวัยรุ่นผู้หญิงพูดคุยกันทุกประโยค จริงอย่างที่พวกเธอว่า ซูลี่ดูคล้ายจะเป็นลูกครึ่งก็ไม่เชิง...จริงๆ แล้ว เธอเป็นลูกเสี้ยว เพราะซีซวนที่เป็นแม่ของซูลี่เป็นลูกครึ่ง เอเชีย-ยุโรป ทำให้หน้าตาของซูลี่ดูสวยงามอย่างลงตัว อีกทั้งรูปร่างที่สมส่วนโตเกินวัย จึงไม่มีใครรู้เลยว่าซูลี่อายุเพียงแค่สิบห้าปีเท่านั้น
"อ้าว สารวัตร วันนี้รับอะไรดีคะ" เจ้าของร้านถามผมทันทีที่เห็นหน้าผม
"สักครู่นะครับ"
"นี่พวกหนู ป้าขอลัดคิวให้สารวัตรก่อนนะจ๊ะ ฮีโร่ของเราอยากทานขนม" และป้าก็ตะโกนบอกลูกค้าในร้านต่อทันที
"ขายให้สารวัตรก่อนเลยค่ะป้า" เสียงลูกค้าหลายๆ คน ตอบป้ากลับมา ผมจึงส่งยิ้มเพื่อเป็นการขอบคุณทุกคน
"ขอบคุณทุกคนครับ"
"อยากทานอะไร" ผมหันไปถามซูลี่
เธอชี้นิ้วไปที่ของหวานเกือบทั้งหมดในร้าน ไม่ว่าจะเป็น ทองหยอด ฝอยทอง ขนมถ้วย และเปียกปูน
"แฟนหรอคะสารวัตร สวยน่ารักเชียว" ป้าเจ้าของร้านเอ่ยปากแซว ผมทำได้แค่เพียงยิ้มตอบกลับไป แต่ปากของผมก็ไม่พูดปฏิเสธอะไรทั้งนั้น
"ใช่ครับ...สวยมาก" ผมจึงตอบป้ากลับไปเท่านั้น
ขนมทั้งหมดที่ซูลี่ต้องการ ถูกนำใส่ถุงและยื่นส่งมาให้ผม เมื่อผมชำระเงินให้ป้าเรียบร้อย จากนั้นผมกับซูลี่ก็พากันเดินตรงไปขึ้นรถ ผมเปิดประตูให้เธอเข้าไปนั่งและผมก็เดินมาฝั่งคนขับ เพื่อขับรถไปส่งเธอที่บ้านไพลิน ผมใช้เวลาขับรถเพียงสิบห้านาที ก็มาถึงที่หมาย
ตอนนี้เป็นเวลา 21.30 น. เมื่อรถของผมขับเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ของไพลินกับคุณซีห่าว ทั้งสองคนก็ยืนรอรับหลานสาวตรงประตูหน้าบ้านแล้ว ทันทีที่รถจอดสนิท ซูลี่รีบเปิดประตูรถและวิ่งตรงไปหาลุงกับป้า จากนั้นเธอก็โผเข้ากอดทั้งสองคนราวกับว่าตัวเองเป็นเพียงเด็กน้อยตัวเล็กๆ
"ซูลี่คิดถึงคุณลุงกับคุณป้ามากๆ เลยค่ะ"
"ลุงก็คิดถึงซูลี่ครับ"
"ป้าก็คิดถึงหนู ป้าต้องขอโทษนะลูก ที่ไม่ได้ไปรับ ป้ากับลุงมีธุระกะทันหัน"
"ไม่เป็นไรค่ะ คุณนักรบพาซูลี่ไปซื้อขนมเยอะแยะเลย เดี๋ยวเราเข้าไปทานข้างในกันนะคะ"
"จ้ะ ป้าพาน้องชายฝาแฝดของซูลี่มาด้วยนะจ๊ะ"
"นรินทร์กับคิน มาด้วยหรอคะ"
"ใช่จ้ะ น้องๆ ดูทีวีอยู่ในห้องรับแขก ซูลี่เข้าไปหาน้องๆ ก่อนสิจ๊ะ"
"ได้ค่ะ"
ซูลี่หันมามองผมและส่งยิ้มมาให้ก่อนเดินเข้าไปในบ้าน จากนั้นผมจึงเดินไปคุยกับไพลินต่อ
"ขอบใจมากนะนักรบ ที่ไปรับหลานให้เรา"
"ไม่เป็นไร เรายินดี"
"เข้ามาทานขนมด้วยกันก่อนสิ" สามีของไพลินเอ่ยปากชวนผมทานขนม
"ครับ"
และผมก็ตอบรับไปอย่างไม่ลังเล ผู้ใหญ่เปิดโอกาสมา มีหรือที่ผมจะไม่คว้าเอาไว้
ผมเดินตามไพลินและสามีเธอเข้าบ้าน ก็พบซูลี่ นรินทร์ และคิน คุยกันตามประสาพี่น้อง โดยทั้งสามตอบโต้กันไปมาด้วยภาษาจีนรัวๆ และเมื่อเธอหันมาเห็นผม เธอก็เอื้อนเอ่ยบางอย่าง ที่ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาทันที
"คุณป้าคะ ซูลี่อยากเรียนภาษาไทย คุณป้าสอนซูลี่ได้ไหมคะ"
"ได้สิจ้ะ ทำไมหนูถึงอยากเรียนภาษาไทยล่ะจ๊ะ"
"หนูแค่...อยากฟังรู้เรื่อง และก็...อยากสื่อสารกับใครบางคนให้เข้าใจค่ะ"
แค่เพียงคำพูดของเธอไม่กี่ประโยค ทำเอาใจผมสั่นระรัวด้วยความหวั่นไหวไม่น้อยเลยทีเดียว
____________________________________
