ตอนที่ 10 [N&Z] ใช้เวลาด้วยกัน
Zhu Li Talk
[ขอโทษที่ทักมาหากลางดึกครับ และขอโทษที่แอดไลน์คุณโดยไม่ได้ขออนุญาตก่อน ผมขอไลน์มาจากป้าของคุณ ผมแค่อยากไลน์มาบอกว่า...ฝันดีนะครับ]
[ค่ะ ฝันดีค่ะ]
...
เช้าวันต่อมา
ฉันตื่นนอนเวลา 9.00 น. หลังจากนั้นก็ทำธุระส่วนตัว และเมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันเดินลงมาชั้นล่างก็พบว่าคุณป้าไพลิน และน้องชายฝาแฝดนั่งกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
"นอนหลับสบายไหมลูก" คุณป้าเอ่ยถามฉันทันทีที่ฉันนั่งลงบนโซฟาข้างๆ ท่าน
"หลับสบายค่ะ" ฉันตอบท่านกลับไปพร้อมรอยยิ้ม
"วันนี้ป้าจะเริ่มสอนภาษาไทยกับหนูเลยนะจ๊ะ"
"ได้ค่ะคุณป้า"
"แต่ก่อนที่เราจะเริ่มเรียนกัน ไปทานข้าวกันก่อนนะ อาหารพร้อมแล้วสำหรับทุกคนจ้ะ"
"เอ่อคุณป้าคะ และคุณลุงซีห่าวไปไหนคะ"
"กลับไปมาเก๊าตั้งแต่เช้าแล้วจ้ะ"
"อ้าว ทำไมคุณลุงกลับไวจังคะ"
"ลุงอยู่นานไม่ได้จ้ะ ต้องกลับไปดูแลธุรกิจ"
"แล้วคุณป้ากับน้องๆ ล่ะคะ ต้องรีบกลับด้วยไหมคะ"
"ไม่จ้ะ ป้ากับน้องๆ จะอยู่กับหนูจนถึงวันที่หนูกลับจีนจ้ะ"
"ดีค่ะ ซูลี่จะได้มีเพื่อน"
"พวกเราปล่อยหนูอยู่คนเดียวไม่ได้หรอกจ้ะ ป๊ากับม๊าของหนูกำชับมาว่า ให้ดูแลหนูอย่างดีที่สุด และห้ามปล่อยหนูคลาดสายตาเด็ดขาด"
"โห...แบบนี้ก็ไม่ต่างจากอยู่ที่จีนสิคะ เหมือนมีคนคอยตามประกบตลอด"
"ป้ารู้จ้ะว่าหนูไม่ชอบ แต่ถ้าหนูอยากไปเที่ยวข้างนอก ไปแค่กับน้องๆ ป้าก็อนุญาตนะ"
"อืม...คุณป้าคะ...ถ้าหนูจะขอให้คุณนักรบพาหนูไปเที่ยวบ้าง คุณป้าจะว่าไหมคะ"
"ไม่ว่าครับ ผมยินดี"
เสียงที่ตอบกลับมา ทำเอาทุกคนในบ้านหันไปมองตามที่มาของเสียง และเจ้าของเสียงก็คือ...คุณนักรบนั่นเอง
"ไม่ทำงานหรือไง ถึงมาบ้านเราได้บ่อยขนาดนี้"
"วันนี้วันเสาร์ เราหยุด" คุณนักรบเดินเข้ามาหาพวกเราและนั่งลงบนโซฟาข้างๆ คุณป้า แต่สายตาที่เขามองมา มองผ่านหน้าคุณป้าและตั้งใจมองตรงมาที่ฉัน
"ไหนๆ ก็มาได้จังหวะอาหารเช้าแล้ว นายก็มากินกับพวกเราเลยละกัน"
"อืม"
...
Nakrop Talk
ขณะที่พวกเรานั่งทานข้าวกันอยู่ ผมก็ตัดสินใจถามบางอย่างออกมา
"ซูลี่ครับ คุณอยากไปที่ไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ"
"อืม...ซูลี่ ไม่ได้หาข้อมูลมาเลยค่ะ ว่าที่กรุงเทพ มีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง"
"จะถามหลานทำไมล่ะ นายก็พาไปเลยสิ" ไพลินเหมือนรู้ใจว่าผมคิดยังไงกับหลานสาว ถึงได้เปิดทางมาให้ขนาดนี้
"งั้นวันนี้...เราขอพาซูลี่ไปไหว้พระที่วัดพระแก้วนะ"
"ก็ไปสิ" ไพลินตอบกลับมาอย่างไม่ลังเล
"ขอบคุณนะคะ ซูลี่ได้ยินมาว่าวัดพระแก้วสวยมากๆ วันนี้จะได้ไปเห็นสักที เออ...นรินทร์กับคิณจะไปกับเจ้ไหม" เธอส่งยิ้มตาหยีมาให้ผม มันทำให้ผมอดเอ็นดูเธอไม่ได้เลย
"ไม่ไปอ่ะ เจ้ไปเถอะ"
"ร้อนอ่ะเจ้ ขออยู่บ้านเล่นเกมส์ดีกว่า"
และนั่นคือคำตอบของหนุ่มน้อยสองคน ดีเลย...ผมจะได้ใช้เวลาส่วนตัวกับซูลี่อย่างเต็มที่
เมื่อเราทั้งหมดทานข้าวเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่ผมจะพาซูลี่ไปเที่ยว
"เราไปก่อนนะ"
"ซูลี่ไปก่อนนะคะคุณป้า"
"จ้า...นายดูแลหลานเราดีดีด้วยนะ" ไพลินกำชับผมอีกครั้ง
"อืม ดูแลอย่างดีแน่นอน"
ผมพาเธอขึ้นรถและมุ่งตรงขับรถออกไปยังวัดพระแก้ว ระหว่างทางที่อยู่ในรถ ซูลี่ชวนผมคุยตลอด ซึ่งผมก็ชอบที่จะคุยกับเธออยู่แล้วเพราะความน่ารักสดใสของเธอ ทำให้ผมหลงใหลเข้าอย่างจัง
"คุณนักรบคะ ซูลี่อยากพูดภาษาไทยได้ ช่วงที่เราอยู่ด้วยกัน ช่วยสอนภาษาไทยซูลี่ด้วยนะคะ"
"ทำไมถึงอยากพูดไทยได้ล่ะครับ"
"เอ่อ...อยากคุยกับคุณป้าและน้องๆ ได้ค่ะ"
"แต่ป้าและน้องๆ ของคุณพูดจีนได้นี่ครับ"
"เออ..."
เธอถึงกับไปต่อไม่เป็น ผมจึงแอบหัวเราะกับท่าทางกระสับกระส่ายของคนโกหก ทำไมผมจะไม่รู้ว่าเธออยากพูดไทยได้เพราะอะไร ถ้าผมไม่หลงตัวเองจนเกินไป...เหตุผลของเธอก็เพราะผมเนี่ยแหละ
"กริ๊งงงง" เสียงมือถือของซูลี่ดังขึ้น
…
Zhu Li Talk
"ฮัลโหลค่ะม๊า"
[หายไปเลยลูกสาว ไม่โทรหาม๊ากับป๊าเลย]
"ขอโทษค่ะ เมื่อคืนเดินทางจนเหนื่อย ถึงบ้านคุณป้าก็หลับเลยค่ะ"
[แล้ววันนี้ป้ากับลุงจะพาหนูไปเที่ยวไหนหรือเปล่าจ๊ะ]
"คุณลุงกลับม๊าเก๊าไปแล้วค่ะ คุณป้าบอกว่าคุณลุงต้องไปดูธุรกิจค่ะ"
[อ้าวหรอ...แล้วป้าพาหนูไปไหนหรือเปล่าจ๊ะ]
"เออ...คุณป้าไม่ได้พาไปไหนหรอกค่ะ แต่..."
[แต่อะไรคะซูลี่?]
"เออ...คุณนักรบกำลังพาหนูไปไหว้พระที่วัดพระแก้วค่ะ"
[อะไรนะ นักรบหรอ หนูอยู่กับเขาสองต่อสองหรอลูก]
"เอ่อ...ค่ะม๊า"
[ถ้าป๊ารู้ เป็นเรื่องเลยนะ ม๊าขอคุยกับเขาหน่อย หนูเปิด speaker phone ก็ได้ลูก]
"ค่ะม๊า...คุณนักรบคะ ม๊าอยากคุยด้วยค่ะ"
"ครับ"
[นักรบ ซีซวนฝากดูแลซูลี่ด้วยนะ] ฉันแปลกใจมากเลยนะ ทำไมม๊าพูดภาษาไทยได้
"อืม คุณไม่ต้องกังวล ผมจะดูแลซูลี่อย่างดี"
[นักรบคะ เอ่อ...ซูลี่ยังเด็ก เอ่อ...]
"อย่ากังวลครับ ผมไม่ทำอะไรให้ซูลี่เสียหายแน่นอนครับ"
[ขอบคุณค่ะ]
[ซูลี่...ม๊าไม่กวนแล้วนะลูก เที่ยวให้สนุกนะจ๊ะ] และม๊าก็พูดภาษาจีนกับฉันต่อ
"ค่ะม๊า บายค่ะ"
[บายจ้ะ]
"ม๊าพูดอะไรกับคุณหรอคะ" ฉันถามเขาทันที
"ม๊าคุณบอกว่า...ให้ผมดูแลคุณดีดีครับ"
"อืม...แค่นั้นหรอคะ"
"ครับ"
"แปลกจัง ซูลี่ไม่รู้มาก่อนเลยว่าม๊าพูดภาษาไทยได้"
"ไม่แปลกหรอกครับ พี่สะใภ้ของม๊าคุณเป็นคนไทย เป็นเรื่องปกติมากที่ม๊าของคุณจะพูดภาษาไทยได้ครับ"
"ค่ะ"
"อีกสิบนาทีจะถึงแล้วนะครับ"
"ค่ะ"
ผ่านไปสิบนาที คุณนักรบขับรถเข้าจอดและเดินลงมาเปิดประตูให้ฉัน ฉันเดินลงไปก็รู้สึกได้เลยว่าอากาศประเทศไทยร้อนมากๆ และการแต่งตัวของฉันก็มิดชิดอีก ทำเอาฉันแทบเป็นฮีทสโตรกได้เลย
"ร้อนไหมครับ"
"นิดหน่อยค่ะ"
"รอตรงนี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมมา"
"ค่ะ"
ฉันยืนรอเขาไม่ไกลจากที่จอดรถ ฉันมองตามหลังเขาไปก็พบว่าเขาเดินกลับไปที่รถและเปิดประตูรถเพื่อหยิบของบางอย่างออกมา
"นี่ครับ ใส่ไว้นะครับ อากาศประเทศไทย อาจทำคุณเป็นลมได้"
"ขอบคุณค่ะ" เขาสวมหมวกให้ฉัน พร้อมส่งรอยยิ้มใจละลายมาให้อีก เจอแบบนี้ไป แม้จะร้อนปานนรกแค่ไหน ซูลี่ก็สู้ตายเลยค่ะ ^^
ฉันมองดูรอบๆ วัด ก็เห็นว่าวัดพระแก้วตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยา และคุณนักรบเล่าให้ฟังอีกว่า...ภายในวัดมีพระแก้วมรกต ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ที่เป็นศูนย์รวมความศรัทธาของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ฉันจึงเข้าไปกราบไหว้และขอพรให้ตัวเองเรียนเก่งๆ และก็...ขอให้สมหวังในความรักกับผู้ชายที่อยู่ข้างๆ ส่วนคุณนักรบ ตอนนี้เขาไหว้ขอพรอะไรนะ...จะขอเหมือนฉันหรือเปล่าก็ไม่รู้
"วันนี้อยากไปไหนอีกหรือเปล่าครับ"
"อยากกินไอศครีมค่ะ"
"โอเคครับ"
เขาพาฉันไปกินไอศครีมในห้างสรรพสินค้า จากนั้นก็พาฉันเดินดูของและซื้อเสื้อผ้าให้ฉันอีกด้วย เขาช่างแสนดี ใจดี ที่สำคัญหล่อมากๆ หล่อกระชากลมหายใจเลย เวลาที่เราเดินไปไหนมาไหนด้วยกัน ต้องมีสาวๆ มองตามเขาตลอดเป็นระยะ และบางคนยังเข้ามาขอถ่ายรูปกับเขาด้วย เขาเป็นคนดังของประเทศจริงๆ
เมื่อถึงเวลาเกือบจะตอนเย็น เขาก็ขับรถพาฉันมาส่งบ้านคุณป้า
"กลับมาแล้วหรอลูก สนุกไหมจ๊ะ"
"สนุกมากเลยค่ะ"
"นักรบ คืนนี้นายไปดื่มอีกหรือเปล่า"
"คงไปแหละ นัดไอ้เฟิร์สกับไอ้เอไว้"
"ฝากความคิดถึง ถึงสองหนุ่มด้วยนะ"
"อืม งั้นเรากลับก่อนนะ...ซูลี่ ผมกลับก่อนนะครับ ถ้าอยากไปไหนอีก ไลน์บอกผมได้ตลอดนะครับ"
"ค่ะ ขอบคุณมากๆ สำหรับวันนี้นะคะ"
"ครับ"
เมื่อเขาเดินขึ้นรถและขับรถออกไปจนพ้นสายตาแล้ว ฉันก็ยิงคำถามใส่คุณป้าทันที
"คุณป้าคะ อย่าหาว่าซูลี่ยุ่งเลยนะคะ ถ้าซูลี่ยังพูดภาษาไทยไม่ได้ คุณป้าช่วยบอกซูลี่หน่อยเถอะค่ะ ว่าคุณนักรบพูดอะไรบ้าง ซูลี่อยากรู้ค่ะ"
"โถ...ซูลี่ลูก หนูคงไม่ใช่แฟนคลับธรรมดาแล้วมั้ง"
"คุณป้าอ่ะ อย่าขำสิคะ ซูลี่ก็แค่อยากรู้ว่าคุณนักรบเขาแอบว่าอะไรซูลี่ให้คุณป้าฟังหรือเปล่า"
"เปล่าจ้า เขาบอกว่าคืนนี้เขาจะออกไปดื่มกับเพื่อนๆ ของเขาจ้ะ"
"ที่ผับหรอคะ"
"จ้ะ ผับของเพื่อนเขา แต่นักรบก็ถือหุ้นในผับนั้นด้วยนะ"
"เฮ้อ...ซูลี่ยังเด็ก คงไม่เหมาะกับสถานที่แบบนั้น เขาคงไม่พาซูลี่ไปแน่เลยค่ะ"
"หนูอยากไปหรอลูก"
อยากไปก็ส่วนหนึ่ง อยากไปอยู่ใกล้ผู้ชายมากกว่า ฉันพลางคิดในใจ สุดท้ายก็ได้แต่พยักหน้าตอบคุณป้าไป
ฉันเดินขึ้นห้องนอน และล้มตัวลงนอนบนเตียง สมองก็พลันคิดไปต่างๆ นาๆ
ในผับคงมีสาวๆ สวยๆ เยอะน่าดู และถ้าสาวๆ พวกนั้นให้ท่าคุณนักรบล่ะ เขายิ่งหล่อๆ อยู่ด้วย โอ๊ย...เขาจะตกเป็นของหญิงอื่นก่อนฉันหรือเปล่า ไม่ได้ละ ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง ฉันตัดสินใจหยิบมือถือและกดเข้าแอพไลน์ เพื่อพิมพ์บางอย่างไปหาเขาทันที
[สวัสดีค่ะคุณนักรบ]
Read เขากดอ่านข้อความฉันไวมาก
[ว่าไงครับ]
[เหงาจัง ?] อ้อนผู้ไปหนึ่งกรุบ
[เป็นอะไรครับ วันนี้ผมพาเที่ยวแล้ว ยังไม่หายเหงาอีกหรอครับ]
[ยังเลยค่ะ ?]
[พรุ่งนี้ ผมไปรับ และไปทานข้าวด้วยกัน ดีไหมครับ]
[........] ฉันส่งแค่จุดๆ ไปให้เท่านั้น และเขาก็เงียบไม่พิมพ์อะไรตอบกลับมาร่วมสองนาที
[คืนนี้ผมนัดเพื่อนๆ ดื่ม ถ้าคุณไม่รังเกียจสถานที่เที่ยวตอนกลางคืน ไปกับผมไหมครับ]
[แต่ซูลี่อายุแค่สิบห้าเองนะคะ เข้าผับได้หรอคะ]
[เข้าได้ครับ ผับของเพื่อนผม]
[งั้นก็....ไปค่ะ ?]
[สองทุ่ม ผมจะเข้าไปรับนะครับ]
[ค่ะ ขอบคุณนะคะที่ให้ซูลี่ไปด้วย]
[ยินดีครับ]
[เจอกันค่ะ]
และเท่านี้แหละ แผนการใกล้ชิดผู้ชายของฉันก็สำเร็จ คืนนี้ฉันจะแต่งตัวให้สวย sexy จนคุณเขาต้องคลั่งตายเลยเชียวล่ะ
_____________________________________
