บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 [N&Z] ชีวิตลูกสาวมาเฟีย

Zhu Li talk

ฉันมีชื่อว่า หวัง ซูลี่ เป็นบุตรสาวของ หวัง จางหย่ง ตระกูลมาเฟียแห่งประเทศจีน ครอบครัวเรามีธุรกิจมากมาย ร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของโลก ส่วนม๊าของฉันชื่อ หวัง ซีซวน สกุลเดิมของม๊าคือ หยาง ซีซวน ม๊าเกิดและเติบโตที่มาเก๊า และแน่นอน...ตระกูลของม๊าก็เป็นมาเฟียเช่นกัน ดังนั้นฉันจึงเป็นลูกสาวมาเฟียอย่างสมบูรณ์

ฉันถูกเลี้ยงดูไม่ต่างจากไข่ในหิน ฉันและน้องชาย หวัง ซิงอี เป็นเด็กเรียนในบ้านจนถึงอายุสิบเอ็ดปี จากนั้นก็ได้เข้าเรียนในโรงเรียนมัธยม ซึ่งเป็นโรงเรียนของตระกูลหวังฝั่งคุณปู่ และตระกูลจางสกุลเดิมของคุณย่า ร่วมกันสร้างโรงเรียนมัธยมนี้ขึ้นมา และไม่ใช่แค่โรงเรียนมัธยมนะ คุณปู่คุณย่าสั่งสร้างมหาวิทยาลัยเตรียมรอหลานๆ เข้าเรียนในอนาคตแล้ว เพราะท่านทั้งสองมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยของหลานๆ จึงได้ก่อตั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัยขึ้นมา เพื่อให้เด็กนักเรียนที่เข้าเรียนในโรงเรียนของพวกท่าน ได้รับความปลอดภัยสูงที่สุด

และแน่นอนไม่ว่าฉันจะออกไปไหน ต้องมีบอดี้การ์ดตามประกบติดราวกับเหาฉลาม แรกๆ ฉันไม่เคยเข้าใจหรอกนะ แต่พอโตขึ้น ได้เข้าเรียนมัธยมในโรงเรียนถึงพอเข้าใจ เพราะเพื่อนๆ ผู้ชายในโรงเรียนก็มีชื่นชอบฉันอยู่หลายคน ถึงแม้โรงเรียนของตระกูล จะมีค่าเทอมที่แพงหูฉี่ คนที่เข้ามาเรียนได้...ต้องมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยเท่านั้น ถึงจะมีปัญญาเข้าเรียนที่นี่ หรือไม่ก็เป็นเด็กทุนที่มีสมองระดับหัวกะทิ

แต่ถึงเพื่อนๆ ผู้ชายจะมีฐานะทัดเทียมฉันทุกอย่าง แต่ก็ไม่เคยถูกใจป๊าฉันสักคนหรอก แค่จะคุยกันแบบเพื่อน ป๊ายังไม่อนุญาตเลย ฉันจึงทำได้แค่คุยกับเพื่อนผู้หญิงเพียงเท่านั้น

นิสัยของฉันจัดว่าเป็นเด็กที่ดื้อพอสมควร อะไรที่ถูกตีกรอบไว้ ฉันชอบจะเดินแหกกรอบออกไปเสียทุกที และนั่นทำให้ฉันมีปากเสียงทะเลาะและผิดใจกับป๊าอยู่บ่อยครั้ง จนเมื่อฉันขึ้นมัธยมปีที่สอง ฉันก็ตัดสินใจขอป๊าในสิ่งที่ฉันต้องการเรื่องหนึ่ง

"ป๊าคะ ตอนนี้หนูขึ้น Grade 8 แล้ว ช่วงปิดเทอมหนูขอไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ได้ไหมคะ" ฉันพูดขึ้นมา ขณะที่เราสี่คน ป๊า ม๊า ฉัน และน้องชาย นั่งรับประทานอาหารมื้อเย็นกันอยู่

ทำให้ม๊าถึงกับถอนหายใจออกมาทันที เพราะม๊าคงเดาออกว่า...เร็วๆ นี้ ฉันกับป๊าคงได้เถียงกันอีกแน่นอน

"ซลูี่ลูก ตอนนี้เวลาทานข้าว ไว้ค่อยคุยได้ไหม ม๊าขอเถอะ"

"ไม่ได้ค่ะ หนูจะคุยเลย"

"หึ" และนี่เสียงของน้องชายฉันนะ มันเค้นเสียงอยู่ในลำคอ แต่ฉันหูดีไง คิดหรอว่าฉันไม่ได้ยิน

"เป็นไรซิงอี ข้าวติดคอหรอ?"

"อย่าทะเลาะกัน ป๊าไม่ชอบ ซูลี่...หนูจะไปไหน" ป๊ารีบแทรกบทสนทนาของฉันกับน้องชายทันที

"ถ้าไปต่างประเทศ ป๊าอนุญาตไหมล่ะคะ"

"ไม่ได้!!!"

"โหป๊า...ไม่คิดจะคิดสักนิดก่อนหรอคะ"

"ซูลี่ ไม่ต้องมาคุยเรื่องนี้กับป๊าอีก รอโตกว่านี้ ค่อยมาขอป๊า"

"และต้องโตจนอายุเท่าไหร่ ป๊าถึงจะอนุญาตละคะ"

"ซูลี่...ไม่เอาสิลูก อย่าเถียงป๊าแบบนี้"

"ม๊า...หนูรู้ว่าครอบครัวเราเป็นมาเฟีย แต่หนูเลือกเกิดไม่ได้นี่คะ ทำไมเราถึงไม่ประนีประนอมกันบ้างละคะ หนูตั้งใจเรียน ผลการเรียนตอนอยู่ Grade 8 ก็ติด Top 5 ของโรงเรียน ทำไมป๊ากับม๊าถึงไม่ใจดีกับหนูบ้าง" และเมื่อฉันพูดจบ ฉันก็ลุกขึ้นและเดินหนีขึ้นห้องนอนทันที ใช่...ฉันน้อยใจป๊ากับม๊ามากๆ ทำไมถึงไม่เข้าใจฉันบ้างเลย

ฉันนั่งร้องไห้อยู่บนที่นอนสักพัก ไม่นานนักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ฉันเดาได้เลยว่าเป็นป๊าแน่นอน เพราะทุกครั้งที่ฉันกับป๊าทะเลาะกัน ก็ต้องจบด้วยที่ป๊ามาตามง้อฉันทุกที

"ก๊อกๆ"

"ซูลี่ ป๊าขอเข้าไปนะลูก"

"ค่ะ"

ประตูถูกเปิดออก พร้อมใบหน้าที่เศร้าสร้อยของป๊า ป๊าเดินตรงมาหาฉัน ท่านนั่งลงบนเตียงใกล้ๆ ฉัน และยื่นมือมาลูบหัวฉันอย่างแผ่วเบา

"ป๊า...ขอโทษนะลูก ป๊าแค่เป็นห่วงหนูมาก"

"หนูก็แค่อยากมีชีวิตวัยรุ่นเหมือนเพื่อนๆ บ้าง" ฉันเช็ดน้ำตาและลุกขึ้นนั่ง จากนั้นก็ตอบท่านกลับไป

"ป๊ารู้...เฮ้อ...เอาแบบนี้ได้ไหม ปีหน้าเรามาคุยเรื่องนี้กันอีกที และป๊าสัญญาว่าป๊าจะตามใจหนู จะคุยกันด้วยเหตุผลมากขึ้น"

"ทำไมต้องปีหน้าล่ะคะ"

"ป๊าอยากให้หนูโตกว่านี้ และเราสองคนพ่อลูกไม่ทะเลาะกันแล้วนะ ป๊าไม่อยากเห็นหนูร้องไห้อีก"

"ก็ได้ค่ะป๊า ป๊าสัญญาแล้วนะคะ"

"ครับ ป๊าสัญญา"

"ขอบคุณค่ะ" ฉันเอนหัวไปพิงที่ไหล่ป๊า ท่านจึงยื่นแขนออกมาโอบกอดฉันไว้แนบแน่น

ฉันรู้ว่าท่านรักและเป็นห่วงฉันมาก แต่ฉันก็เป็นแค่หญิงสาววัยรุ่นที่อยากมีชีวิตอิสระบ้างก็เท่านั้น

หนึ่งปีผ่านไป

ณ ปัจจุบัน

บนโต๊ะอาหารมื้อเย็นของครอบครัว ฉันตัดสินใจพูดเรื่องไปเที่ยวกับป๊าอีกครั้ง เพื่อทวงสัญญาที่ป๊าเคยให้ไว้

"ป๊าคะ...ป๊าจำสัญญาที่เคยให้ไว้กับหนูเมื่อปีที่แล้วได้ไหมคะ"

"สัญญาอะไร"

"ก็เรื่องที่หนูเคยขอไปเที่ยวไงคะ"

"ไว้ค่อยคุยนะซูลี่ ป๊ากินข้าวอยู่"

"ป๊าทำแบบนี้อีกแล้วนะคะ" ฉันเริ่มหัวเสียกับท่าทางของป๊า

"ป๊าสัญญากับหนูแล้วนะ ยังไงก็ควรทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับหนูนะคะ" นี่ฉันต้องรู้สึกน้อยใจป๊าอีกกี่รอบเนี่ย ผ่านมาแล้วหนึ่งปี ตามที่ป๊าสัญญาไว้แต่ท่านกำลังจะบ่ายเบี่ยงอีกแล้ว

"ซูลี่ ลูกยังเด็ก จะเดินทางไปเที่ยวตามลำพังได้อย่างไร" ป๊าพยายามหาเหตุผลมาคุยกับฉัน

"หนูอายุสิบห้าปีแล้วนะคะ ม๊า...ฟังที่ป๊าพูดสิคะ ไหนว่าปีนี้จะอนุญาตให้หนูไปเที่ยว จะให้อิสระมากขึ้น แต่พอถึงเวลากลับไม่รักษาสัญญา"

"พี่จางหย่ง ทบทวนอีกครั้งเถอะค่ะ" ม๊าข้อร้องป๊าอีกครั้ง เพราะป๊าสัญญากับฉันแล้ว ก็ควรทำให้ได้ตามที่ป๊าพูด

"ป๊า...ผลการเรียนของหนูติด Top 5 ของโรงเรียน ป๊าช่วยเห็นความพยายามของหนูบ้างเถอะค่ะ"

"เฮ้อ...ลูกอยากไปไหน"

"ประเทศไทยค่ะ"

"เจ้จะไปทำไม ประเทศที่มีการฆาตรกรรมนักท่องเที่ยวติดระดับต้นๆ ของโลก ความปลอดภัยแม่งไม่มีเลย" ซิงอี...น้องชายของฉันพูดแทรกขึ้นมาทันที

"ซิงอี...อย่ายุ่ง!!!"

"ซูลี่ อย่าว่าน้องแบบนี้สิลูก"

"ก็ผมพูดจริง ถ้าเจ้ยังดื้อจะไป ก็ควรติดต่อไปหาลุงซีห่าวกับป้าไพลินให้พาเจ้เที่ยว มันน่าจะปลอดภัยกว่า"

"เออใช่...ม๊าลืมไปเลย ถ้าลูกอยากไป ให้ม๊าติดต่อไปหาลุงกับป้าก่อนได้ไหมจ๊ะ เผื่อท่านไปเที่ยวประเทศไทยพอดี ม๊าจะได้ฝากให้ลุงกับป้าดูแลลูก"

"ถ้าแบบนั้นก็ได้...ป๊ายอมให้ลูกไปเที่ยวประเทศไทย ตกลงไหมซูลี่ พบกับป๊าครึ่งทาง" ป๊าพยายามหว่านล้อมฉัน

"เฮ้อ...แบบนั้นก็ได้ค่ะ" ฉันจำต้องยอม อย่างน้อยก็ยังได้รับอิสระบ้างเพราะชีวิตที่ผ่านมา ป๊ากับม๊าตามติดฉันแทบทุกฝีก้าว

"อีกสองเดือนหนูจะปิดเทอมแล้ว ม๊าบอกป้าไพลินไว้เลยก็ดีนะคะ เพราะเมื่อถึงวันนั้น...หนูจะเดินทางไปไทยทันทีค่ะ"

"จ้ะ ม๊าจัดการเรื่องนี้เอง"

ดี...ไว้เจอกันนะประเทศไทย ฉันพลางคิดในใจอย่างมีความสุขเมื่อทุกอย่างจบดิวได้ด้วยดี

__________________________________

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel