บท
ตั้งค่า

2 ชีวิตใหม่[1]

สำหรับกับการใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์หรูของเมลิซาในสถานะบุตรบุญธรรมของริคาร์โด้นี่ก็ผ่านมาห้าปีแล้ว เด็กสาววัยสิบเก้าปีกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องนั่งเล่นซึ่งเป็นโถงกว้าง ดวงตากลมโตมองบันไดทางเชื่อมขึ้นไปยังชั้นสองเพื่อรอเวลาให้ผู้มีพระคุณคนที่สองของชีวิตเธอลงมารับประทานอาหารเย็น

“เอ๊ะ! ทำไมคุณริคถึงยังไม่ลงมาสักทีนะ~”เมื่อไร้เงาของพ่อบุญธรรมเธอก็วางหนังสือเกี่ยวกับการหายสาปสูญของมนุษย์ที่เป็นปริศนาลงบนโต๊ะกระจกทันที ก่อนจะเดินตรงขึ้นไปยังห้องนอนอันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเจ้าพ่อมาเฟีย

ก๊อก! ก๊อก!!

“ใครน่ะ? จาโรเหรอ?”เสียงเข้มเปล่งถามก่อนจะเรียกชื่อลูกน้องคนสนิทของตน

“มะ…เมลิซเองค่ะคุณริค~”เมลิซาที่ยืนอยู่หน้าห้องถึงกับตอบด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น ถึงแม้นว่าเธอจะอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับเขามาแล้วถึงห้าปีก็เถอะ หรือหากนับเป็นวันก็หนึ่งพันแปดร้อยกว่าวัน ทว่าเด็กสาวก็ไม่เคยไปไหนไกลเขตความคุ้มกัน

“มีอะไรหรือเปล่า?”

“เมลิซเห็นว่าได้เวลารับประทานอาหารแล้ว ตะ...แต่คุณริคยังไม่ลงไปน่ะค่ะ”

“เธอทานได้เลยไม่ต้องรอฉัน”ริคาร์โด้บอกปัด เขากำลังนอนพักฟื้นหลังออกจากห้องทดลองเคมีชีวภาพที่สามารถนำไปเป็นส่วนประกอบในการทำอาวุธชีวภาพและสามารถทำลายสิ่งมีชีวิตได้เพียงเสี้ยววินาที

“คุณริคไม่สบายเหรอคะ? ทานยาหรือยัง? คุณหมอเข้ามาดูอาการหรือยังคะ?”ยิงคำถามใส่รัวจนริคาร์โด้ไม่มีโอกาสได้ตอบ มาเฟียหนุ่มได้แต่ถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย ปกติเมลิซาจะเป็นคนพูดน้อย ส่วนมากจะเก็บตัวอ่านหนังสือมากกว่า พอโดนเด็กสาวจี้จุกจิกจึงทำให้เขาไม่ชินเอาเสียเลย

“อย่ามาจี้จุกจิกได้ไหม เสียงเธอมันน่ารำคาญ!”

“ทำไมต้องดุเมลิซด้วยคะ? ความเป็นห่วงของเมลิซทำให้คุณริครำคาญขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”ตัดพ้ออย่างน้อยเนื้อต่ำใจ

“เงียบสักทีฉันจะได้พักผ่อน!!”น้ำเสียงอันเชี่ยวกรากบ่งบอกถึงอารมณ์มาเฟียหนุ่มในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี ให้ตายเถอะ! ทำไมวันนี้เมลิซาถึงได้เซ้าซี้เขาจนน่าหงุดหงิดชะมัด

“…”

“ขออนุญาตเข้าไปนะคะ”

“ไม่ตะ...”

แกร๊ก~ แอด~

ไม่ทันได้เอ่ยประโยคห้ามปรามเสียงลูกบิดประตูห้องนอนก็ทำงาน ริคาร์โด้ปรายตามองเด็กสาวที่เขาตราหน้าเธอเอาไว้ว่าคือลูกสาวของคนทรยศ ทว่าเมื่อเห็นเมลิซาเดินเข้ามาใกล้หัวใจดวงแกร่งกลับเต้นรัวอย่างไม่ทราบสาเหตุ

“ลืมกฎที่ฉันเคยห้ามแล้วหรือยังไงกัน!?”

“เมลิซเป็นห่วงคุณริคนี่คะ หากคุณริคจะลงโทษที่เมลิซเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของคุณริค...ก็แล้วแต่คุณริคจะกรุณาเถอะค่ะ”คนตัวเล็กฝ่าฝืนกฎข้อห้ามที่เขาเคยตั้งไว้ว่าพื้นที่ส่วนตัวของเขาเธอห้ามเข้ามายุ่มย่ามหรือวุ่นวายเป็นอันขาด มิเช่นนั้นเธอจะถูกลงโทษโดยการเข้าไปอยู่ในห้องมืดจนกว่าเขาจะอนุญาตให้ออกมาได้

“กล้ายอกย้อนฉันแล้วเหรอ”

“คุณริคแพ้สารเคมีในห้องแล็บอีกแล้วเหรอคะ?”เสียงหวานเอ่ยถามแผ่วเบา ทั้งที่มองใบหน้าของเขาที่มีผื่นแดงขึ้นเล็กน้อยก็รับรู้ได้ทันทีว่านี่คือปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายเมื่อได้รับสารเคมีบางอย่าง ซึ่งไม่แปลกเท่าไรหากริคาร์โด้จะมีอาการเหล่านี้บ่อยครั้ง เนื่องจากเขาต้องเข้าห้องแล็บเพื่อดูการทดลองเคมีชีวภาพที่เขาส่งออกอย่างผิดกฎหมาย

“ก็รู้อยู่แล้วนี่ แต่เธอยังมาตั้งคำถามกับฉัน”

“เมลิซเหลือคุณริคคนเดียวนี่น่า เมลิซก็ต้องเป็นกลัวว่าคุณริคจะเป็นอะไรร้ายแรงไปมากกว่านี้”คราวนี้เมลิซาถือวิสาสะนั่งลงตรงขอบเตียงกว้างของเขา ก่อนจะมองเขาตาใสแป๋วอย่างออดอ้อน ไม่ต่างจากบุตรสาวเป็นห่วงบิดาถึงแม้นว่าเขาจะไม่ได้เลี้ยงเธอตั้งแต่เด็กก็เถอะ

“...”เจ้าพ่อมาเฟียเบือนหน้าหนีไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ ทั้งที่ความเป็นจริงเขาควรตำหนิหรือดุเจ้าหล่อนที่ทำให้เขารู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง ความใสซื่อของเมลิซาช่างแตกต่างกับคำสบประมาทของราฟาเอลและราจีฟที่บอกว่าเธอคือเด็กอันตราย

เมลิซาคือบุตรบุญธรรมของมาร์โคไอ้สวะที่มันทรยศพวกเขา และเป็นหนอนบ่อนไส้ให้ศัตรูโจมตีการดำเนินธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ซึ่งทำให้เสียมูลค่าไปไม่ใช่น้อยๆ เลยทีเดียว ริคาร์โด้พยายามค้นหาคนที่อยู่เบื้องหลังมันเพื่อลอบสังหาร แต่เสียดายนักที่มันกลับปลิดลมหายใจตัวเองเมื่อทนกับความทรมานที่ได้รับจากเขาให้ตายจากโลกนี้ไปเสียก่อน

“คุณริคขา~ อย่าทิ้งเมลิซให้เดียวดายเหมือนที่พ่อเคยทำกับเมลิซนะคะ”

“ถ้าเธอเป็นเด็กดีฉันจะไม่ทิ้งเธอเมลิซ”จากคราแรกจะเลี้ยงเธอเพื่อเป็นเหยื่อล่อให้ศัตรูเปิดเผยตัวตนออกมาและกำจัดทิ้ง ทว่าตอนนี้ก็ห้าปีแล้วที่เขาดูแลเมลิซา ริคาร์โด้ยังคงแน่วแน่กับการตามหาคนที่พยายามโค่นล้มอิทธิพลความได้เปรียบด้านธุรกิจสีเทาที่เขาและพ้องเพื่อนอีกสองคนสะสมกันมานานหลายปี

“เมลิซจะเป็นเด็กดีของคุณริคแบบนี้ตลอดไปค่ะ~”คนตัวโตกว่าขยับตัวลุกขึ้นบนที่นอน ก่อนที่เมลิซาจะใช้จังหวะนั้นซุกใบหน้าลงตรงอกแกร่งอย่างออดอ้อนราวกับลูกแมวตัวน้อยที่ต้องการความรักจากเจ้าของก็ไม่ปาน

“ลงไปทานอาหารเถอะนะ ฉันอยากจะพักผ่อนอีกสักหน่อยน่ะ”

“คุณริคไม่ลงไปร่วมโต๊ะด้วยเหรอคะ?”

“ไม่ล่ะ ฉันเพิ่งจะกินยาแก้แพ้ไป รู้สึกง่วงนอนจนไม่อยากทำอะไรเลย”ไม่ว่าเปล่าริคาร์โด้ยังหาวหวอดด้วยความงัวเงีย ฤทธิ์ยาที่ได้จากแพทย์ประจำตัวที่เคยให้ไว้เมื่อเดือนก่อนกำลังทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและร่างกายก็ตอบสนองได้เป็นอย่างดี

“งั้นคุณริคพักผ่อนเถอะนะคะ เมลิซไม่กวนคุณริคแล้วค่ะ ฝันดีนะคะ~”ริคาร์โด้ไม่ได้ตอบโต้วาจาใดๆ ออกไป ก่อนที่เมลิซาจะมุ้ยหน้าเมื่อได้คำตอบคือความเงียบของเขา คนตัวเล็กขยับกายลุกจากเตียงกว้าง สายตาทอดมองไปยังมาเฟียหนุ่มอีกครั้งและก้าวเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel