ตอนที่ 3 สามีภรรยา
ตลอดระยะเวลาที่อยู่อิตาลีบรรยากาศระหว่างถิงถิงและคริสเตียนล้วนอบอวลไปด้วยความสุขและความรักทุกวินาที นับจากเดตสุดโรแมนติกในวันนั้น ระดับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เพิ่มขึ้นทวีคูณ
ช่วงแรกเขาอาสาไปรับไปส่ง เทียวไปมาหาสู่กันแบบคนรักทั่วไป ยังไม่ได้มีความคิดที่จะชิงสุกก่อนห่ามแต่อย่างใด ทว่าพอนานวันความรักที่สุกงอมระหว่างชายหญิงที่อยู่ด้วยกันท่ามกลางบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ทั้งเขาและเธอต่างก็ยากจะห้ามใจ
“คืนนี้ผมขอไปดื่มไวน์ที่ห้องคุณได้ไหมถิงถิง” คริสเตียนเอ่ยถามด้วยดวงตาวาววับพร้อมทั้งกุมมือเรียวด้วยความเสน่หาจนหญิงสาวไม่อาจจะปฏิเสธได้
“ก็ได้ค่ะ ดื่มแค่ไวน์นะคะ”
“แล้วถ้าผมอยากดื่มอย่างอื่นด้วยล่ะครับ ถิงถิงจะไม่อนุญาตเหรอ” ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนหลุบมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างรอคอยคำตอบ
“มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณทำตัวยังไงมากกว่าค่ะ”
“แล้วผมต้องทำตัวยังไงงั้นเหรอ”
“เป็นเด็กดีของถิงไงคะ” ถิงถิงตอบกลับก่อนจะระบายรอยยิ้มหวาน ดวงตากลมที่ปลายทางเฉียงขึ้นช้อนมองคนรักอย่างออดอ้อน
คริสเตียนรีบพยักหน้าตอบรับทันที นาทีนี้สั่งให้เห่าเป็นหมากลางถนนใจกลางเมืองแห่งนี้เขาก็ยอมอยู่ในโอวาทของเธอ
“ได้เลยครับที่รัก ผมยอมเป็นเด็กดีของคุณ” เขาตอบรับด้วยน้ำเสียงทุ้มลุ่มลึก จากที่แค่กอบกุมมือเล็กด้วยความทะนุถนอมก็แปรเปลี่ยนมาโอบกอดร่างบางไว้เต็มอ้อมแขน
ถิงถิงถึงกับหน้าแดงซ่าน หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอตื่นเต้นไปกับความใกล้ชิดที่กะทันหัน ความสัมพันธ์ในคืนนี้ของเขาและเธอพัฒนากันไปอีกขั้นแล้ว
“คุณจะยอมถิงทุกอย่างจริง ๆ เหรอคะ” ถิงถิงถามย้ำ ส่วนฝ่ามือที่ปราศจากการควบคุมนั้นก็ลูบไล้ไปตามแผงอกกำยำจนเจ้าของร่างสูงต้องกัดฟันข่มกลั้นความรู้สึกที่กำลังถูกปลุกปั่น
“ยอมหมดเลยครับ ผมยอมที่รักทุกอย่าง”
“แน่ใจนะคะ”
“ที่สุดครับเบบี๋”
“งั้นไปดื่มไวน์กันเถอะค่ะ” พูดจบปุ๊บถิงถิงก็ขืนตัวออกจากอ้อมแขนอบอุ่นปั๊บ เธอช้อนดวงตาสีเข้มขึ้นมองเขาอย่างออดอ้อนอีกครั้ง ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินนำไปยังโรงแรม
ส่วนคริสเตียนก็รีบย่ำเท้าเดินตามแผ่นหลังเล็กไปโดยไว เขารีบซอยเท้าถี่ ๆ เพื่อให้ได้เดินเสมอตีคู่กับเธอ ก่อนจะฉกฝ่ามือนุ่มนิ่มขึ้นมากอบกุมอีกครั้งพร้อมทั้งจูงมือเธอเดินไปพร้อม ๆ กัน
บรรยากาศของเมืองเวนิสยามค่ำคืนช่างเงียบสงบและสวยงามท่ามกลางตึกรามมากมายที่ทำให้คนชอบศิลปะอย่างถิงถิงตกหลุมรักทุกครั้งที่ได้มอง รวมถึงตกหลุมรักพ่อหนุ่มลูกครึ่งอิตาลีข้างกายคนนี้ด้วย
ตั้งแต่ถนนสายหลักจนมาถึงโรงแรมของถิงถิงใช้เวลาเดินเพียงสิบนาที ไม่นานทั้งเขาและเธอก็ได้ก้าวเท้าเข้ามาในห้องกว้างขวางที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ถ้าเช่าทั้งเดือนรวม ๆ แล้วก็หกหลักกลาง ๆ และที่สำคัญนี่คือโรงแรมในเครือของคริสเตียนอีกด้วย
“ขอจุดเทียนหอมนะคะ ถิงเป็นคนติดเทียนหอมค่ะ มันดูโรแมนติกดี” ถิงถิงว่าพลางถือแก้วเทียนหอมแบรนด์ดังขึ้นมาจุดไฟ
เทียนหอมสีหวานเริ่มส่องแสงสว่างไสวมาพร้อมกับกลิ่นหอมอ่อน ๆ ชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย เธอเลือกตั้งมันไว้ที่ขอบหน้าต่างของห้องพัก ก่อนจะเดินนวยนาดโชว์สัดส่วนที่ยั่วใจเข้าไปเปิดตู้แช่ไวน์ในห้องครัว ปล่อยให้แขกที่ตั้งใจรับเชิญมานั่งรอบริเวณห้องรับแขก
คริสเตียนกลืนน้ำลายด้วยความตื่นเต้นและทำตัวไม่ถูก แม้แต่จะนั่งไขว้ขาเขายังสับสนว่าจะเอาขาข้างไหนไว้ด้านบนดี กระทั่งเสียงก๊อกแก๊กของแก้วไวน์ที่ถิงถิงถือดังเข้ามาใกล้ คริสเตียนถึงได้กลับมานั่งหลังตรงด้วยท่าทีสงบนิ่งอีกครั้ง
“ปีสองพัน ถิงว่ารสชาติมันน่าจะถูกใจคุณนะคะ”
“ปีสองพันผมว่ารสชาติกำลังดีเลยแหละ คะ ครับ” ช่วงท้ายน้ำเสียงของเขากลืนหายเข้าไปในลำคอ เมื่อเห็นหญิงสาวที่กำลังเดินเข้ามาหาช่างยั่วเย้าความเป็นชายของเขาเสียเหลือเกิน เธอไม่ได้อยู่ในชุดเสื้อไหมพรมแขนยาวคอเต่ากับกางเกงรัดรูปสีดำอีกต่อไปแล้ว ไม่รู้ว่าเธอถอดเสื้อทิ้งจนเหลือแค่เสื้อชั้นในกับกางเกงขายาวรัดรูปตั้งแต่เมื่อไหร่
“ถิงถิง...โถ่ ที่รัก ผมกำลังจะบ้าตายเพราะคุณนะ”
“ทำไมล่ะคะ คุณจะรีบบ้าไปไหน” ถิงถิงถามกลับทั้งรอยยิ้มและน้ำเสียงที่กลั้วหัวเราะ
“ผมไม่ใช่คนที่ความอดทนสูงขนาดนั้นนะ” คริสเตียนได้แต่นั่งผ่อนลมหายใจแล้วใช้ฝ่ามือลูบหน้าลูบตาตัวเองเพื่อดึงสติ
“ถิงก็ไม่ได้บอกให้คุณอดทนสักหน่อยนี่คะ” เธอพูดพลางก้าวเข้าไปหาร่างสูงที่นั่งบนโซฟาจนมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขาในที่สุด
“คุณเงยหน้าดูถิงสิคะ ถิงสวยไหม”
“สวยสิครับ สวยจนผมแทบจะอดใจไม่ไหวแล้ว” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงแหบกระเส่า ดวงตาสีอ่อนเปล่งประกายวิบวับด้วยความต้องการที่กำลังพุ่งทะยาน แค่เห็นเธอใกล้ ๆ ร่างกายของเขาก็ร้อนเป็นไฟแล้ว ร้อนเสียจนอยากจะระบายความอัดอั้นออกมาให้ถิงถิงได้รับรู้
“ถ้างั้น…จะอดใจทำไมล่ะคะ” พูดจบถิงถิงก็ยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มหนึ่งครั้งแล้วเหยียดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนมุมปากกระจับ ก่อนจะยื่นไวน์แก้วนั้นให้คริสเตียนได้ลิ้มรสบ้าง ส่วนตัวเองก็จัดการปลดเปลื้องเสื้อชั้นในที่สวมใส่อยู่ออก
พรึ่บ!
ไม่ต้องรอให้คริสเตียนได้ตั้งตัว เมื่อถอดเสร็จปุ๊บเธอก็ทิ้งตัวนั่งคร่อมตักแกร่งปั๊บ ทำเอาอีกฝ่ายแทบจะสำลักไวน์ออกจากปาก
“ถิงถิง คุณคิดดีแล้วนะ” คริสเตียนถามโดยพยายามบังคับสายตาไม่ให้จ้องร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่าตรงหน้า ที่ผ่านมาเขาโดนสาวรุกมาก็เยอะ แต่แค่เริ่มรุกแล้วทำเขาให้หัวใจเขาแทบหยุดเต้นได้ก็เห็นจะมีแต่ถิงถิงเท่านั้น
“มาถึงขนาดนี้ใครเขาจะเปลี่ยนใจกันคะ แล้วคุณล่ะ อยากจะ...”
“อึก!” คริสเตียนกลืนน้ำลายลงคอดังอึกกับสายตาเชิญชวนของหญิงสาว
“อยากชิมถิงไหมคะ”
“ที่สุดครับ”
“งั้นเรามาเริ่มกันเถอะค่ะ” เธอไม่ปล่อยให้เวลาเสียเปล่าต่อไปอีก ด้วยความที่เรียนอยู่ยุโรปมาหลายปีเธอจึงไม่ใช่สาวใสซื่อ ผู้ชายที่นี่ชอบผู้หญิงที่มีประสบการณ์แล้วทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องแกล้งเหนียมอาย ไม่ต้องทำเป็นไม่ประสีประสา แล้วก็ไม่ต้องรอให้เขาขึ้นนำก่อน ในเมื่อเธอสามารถทำให้อีกฝ่ายหลงเสน่ห์ในทุกการเคลื่อนไหวของร่างกายเธอได้อยู่แล้ว
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เท่าที่ถิงถิงและคริสเตียนจำได้ตอนนี้คงมีแค่สัมผัสอันเร่าร้อนระหว่างเขาและเธอเท่านั้น ต่างฝ่ายต่างผลัดกันรุกและรับอย่างไม่มีใครยอมใคร เสียงครางผะแผ่วคละเคล้าไปกับเสียงเนื้อที่กระทบเข้าหากันครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้จบ กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เสร็จสมเป็นรอบที่ห้าแล้ว
“อ๊า!”
“อา...”
เมื่อถึงปลายทางสวรรค์ทั้งเขาและเธอต่างก็หมดแรงจนทรุดตัวลงนอนกอดกันในที่สุด
“ผมรักคุณนะถิงถิง”
“ถิงก็รักคุณค่ะ”
ก่อนจะเข้าสู่ห้วงภวังค์คริสเตียนก็หมายมั่นในใจไว้ว่าเร็ว ๆ นี้สถานะโสดของเขาจะต้องถูกสละทิ้งไป และพ่วงท้ายด้วยภรรยาคนสวยที่ชื่อถิงถิง
เมื่อคิดและวางแผนแล้วคริสเตียนก็ไม่ได้ปล่อยระยะเวลาให้เนิ่นนานเกินควร หลังจากคืนเร่าร้อนที่อบอวลไปด้วยความรักที่ร้อนผ่าวของเขาและถิงถิงผ่านพ้นไปเพียงหนึ่งเดือนเขาก็ริเริ่มแผนการขึ้นทันที ด้วยการชวนเธอไปล่องเรือชมบรรยากาศตามแม่น้ำที่ไหลผ่านตัวเมือง
ถิงถิงตอบรับอย่างง่ายดาย เธอยังคงแต่งตัวได้สวยเหมือนวันแรกที่ได้เจอคริสเตียนไม่มีผิด วันนี้เธออยู่ในชุดเสื้อยืดแขนยาวคอกลมกับกางเกงยีนพอดีตัว พ่วงท้ายด้วยกล้องฟิล์มที่ห้อยไว้บนลำคอเพื่อเก็บภาพบรรยากาศที่แสนสวยงาม
“ที่นี่สวยไหมครับ ถิงถิงชอบไหม”
“ชอบสิคะ ชอบมากเลย” ถิงถิงตอบขณะที่หันไปมองบรรยากาศรอบกาย โดยไม่ได้สนใจผู้ชายที่นั่งข้างกายสักนิดว่าตอนนี้คริสเตียนกำลังขยับตัวทำอะไรอยู่
“ถิงถิงครับ” เขาเรียกเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“คะ?” หญิงสาวหันไปมองด้วยความแปลกใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นตกใจเมื่อเขายื่นแหวนเพชรน้ำดีออกมาตรงหน้าเธอ
“แต่งงานกับผมนะครับ”
“คริสเตียน...” ถิงถิงเรียกชื่ออีกฝ่ายออกมาอย่างแผ่วเบา พลันดวงตาทั้งสองข้างก็เอ่อไปด้วยหยาดน้ำ ก่อนที่จะพยักหน้าตอบรับคำขอแต่งงานของอีกฝ่ายไปในที่สุด
“ค่ะ แต่งค่ะ ถิงจะแต่งงานกับคุณ”
“ครับ เราจะแต่งงานกัน” คริสเตียนไม่พูดพร่ำทำเพลง ทันทีที่แฟนสาวตอบรับเขาก็รีบสวมแหวนเพชรราคาหลายสิบล้านลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของเธอทันที ท่ามกลางเสียงโห่แซวแสดงความยินดีของเรือรอบข้างที่จู่ ๆ ก็กลายเป็นพยานรักระหว่างเขาและเธอเสียอย่างนั้น ก่อนที่ทริปล่องเรือในวันนี้จะจบลงด้วยริมฝีปากนุ่มนิ่มบดคลึงเข้าหาเขาด้วยความรักใคร่สุดหัวใจ
นี่ความรักที่ถิงถิงเฝ้ามองหาและรอคอยมาตลอด ทั้งโรแมนติกและอบอวลไปด้วยความอ่อนโยน เขาช่างรู้ใจเธอไปหมดทุกอย่าง
เมื่อเกิดการขอแต่งงาน พิธีแต่งงานก็ย่อมเกิดขึ้นตามมา ทั้งถิงถิงและคริสเตียนตกลงปลงใจว่าจะให้คำปฏิญาณตนภายในโบสถ์แห่งหนึ่งของเมืองนี้อย่างเงียบ ๆ โดยปราศจากญาติพี่น้องของใครทั้งสิ้น ทั้งเธอและเขาอยากจัดงานแบบรวดเร็วและเรียบง่ายที่สุด
“คุณคริสเตียน คุณจะรับถิงถิงเป็นภรรยาหรือไม่ และจะเชิดชูดูแลเธอดั่งชีวิตของตัวเองได้หรือเปล่า” บาทหลวงผู้ทำพิธีหันไปถามเจ้าบ่าว
“ครับ ผมรับครับ” คริสเตียนเอ่ยคำมั่นสัญญาทันที ชีวิตเขาคงไม่มีวันไหนจะสุขใจเท่าวันนี้อีกแล้ว วันที่เขาได้เป็นเจ้าบ่าวในชุดทักซีโดยืนเคียงข้างถิงถิงที่อยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวสะอาดตาปักด้วยลูกไม้ชนิดพิเศษของเมืองอิตาลี เธอช่างสวยจนเขาไม่อยากละสายตาไปไหน
“คุณถิงถิง คุณยินดีที่จะรับคริสเตียนเป็นสามีหรือไม่ และคุณจะดูแลเชิดชูเขาในนามสามีไปตราบสิ้นลมหายใจ”
“ค่ะ ฉันรับค่ะ”
“ทั้งสองเป็นสามีภรรยากันตามความต้องการของพระเจ้าแล้ว ได้โปรดจุมพิตกันเพื่อแสดงความรักในครั้งนี้ด้วยเถิด”
“ได้เลยครับ” ต่อให้บาทหลวงไม่เอ่ยออกมาเขาก็ตั้งใจจะจูบดื่มด่ำให้กับช่วงเวลาที่แสนพิเศษนี้อยู่แล้ว ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของทั้งเขาและเธอ
