บทที่2
“ใจเย็นก่อนสิ ถ้าคุณไม่พอใจข้อเสนอของผมเรามาตกลงกันแบบเดิมก็ได้”
“ฉันไม่ตกลงอะไรทั้งนั้นค่ะเชิญคุณออกไปแล้ว” เธอดึงดันที่จะไล่ให้ผมไปไม่ได้
ผมเลยเข้าไปจูงมือเธอในเคาน์เตอร์ แล้วพามานั่งที่โต๊ะโซฟาใกล้ ๆ กับประตู เผื่อมีลูกค้าเข้ามาเธอจะได้มองเห็น จากนั้นผมก็เอาเอกสารทั้งหมดออกมาวางเรียงไว้บนโต๊ะ
“คุณจะไม่เซ็นก็ได้แต่ผมอยากให้คุณดูทั้งหมดนี้ก่อน แล้วค่อยตัดสินใจอีกที”
แพรวไพลินมองผมอย่างชั่งใจว่าจะอ่านดีหรือไม่ แต่สุดท้ายแล้วเธอก็หยิบเอกสารขึ้นมาอ่าน ในระหว่างที่เธอกำลังพิจารณากระดาษแต่ละแผ่น ผมก็ลอบมองหน้าเธอไปด้วย แพรวไพลินเป็นผู้หญิงที่สวยมาก ความสวยของเธอล่อลวงให้ผู้ชายลุ่มหลงได้ไม่ยาก ดูจากหน้าตาแล้วอายุไม่น่าจะเกินยิ่สิบสองเจ้าสัวชอบเด็กเอ๊าะ ๆ อยู่แล้วเจอเธอใช้เสน่ห์มารยาเข้าหน่อยถึงกับทำพินัยกรรมยกมรดกให้เชียว ไอ้เงินสามสิบล้านเนี่ยสำหรับผมมันไม่ได้มากมายอะไรนักหรอก แต่ผมอยากรู้ว่าเธอเป็นเมียน้อยของท่านจริง ๆ รึเปล่า
“เอกสารทั้งหมดที่เป็นของจริงหนิ”
“ผมก็ไม่เคยบอกว่าเป็นของปลอม มีแต่คุณนั่นแหละที่ทึกทักเอาเอง” เธอมองค้อนใส่ผมก่อนจะก้มลงอ่านเอกสารอีกเล็กน้อย
“ฉันยอมเซ็นต์ก็ได้ แต่ฉันมีเงื่อนไขนิดหน่อย”
“ว่ามาเลยครับ” ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะลวดลายอะไรอีก
“คุณต้องสืบให้ฉัน” ผมอยากหัวเราะออกมาดัง ๆ แต่ทำได้เพียงแค่ขำในใจ
“คุณอยากรู้อะไรล่ะ?”
“ฉันอยากรู้ว่าทำไมเจ้าสัวถึงยกมรดกให้ฉัน” ผมอดไม่ได้ที่จะขำออกมาในเมื่อเธอก็รู้ดีอยู่แล้วว่าทำไม แต่ยังต้องการให้ผมสืบอีก เงินสามสิบล้านคงไม่เพียงพอสินะเธอคงต้องการจะประกาศตัวให้โลกรู้ว่าเธอเป็น ‘เมียน้อย’ เจ้าสัวตัวจริงเสียงจริง
“ตกลงครับผมจะช่วยคุณ” ผมรับปากแบบต้องคิดเยอะเพราะจุดประสงค์ของผม คือการมาสืบหาตัวตนของผู้หญิงพี่ชื่อแพรวไพลิน ผมต้องการหลักฐานมัดตัวยัยผู้หญิงร้อยเล่ห์คนนี้!!
“คุณจะคิดค่าจ้างฉันมั้ย?”
“คุณอยากให้ผมคิดเหรอ ผมไม่ต้องการเงินหรอกนะแต่ผมต้องการ……” ผมจงใจมองร่างกายของเธออย่างจาบจ้วงไม่คิดจะปิดบัง
แม้เธอจะตัวเล็กแต่หน้าอกหน้าใจไม่ได้เล็กตามตัวเลย ทรวดทรงองค์เอวไม่ว่าจะมองตรงไหนก็น่าจับน่าขย้ำไปซะหมด มองแล้วเลือดในกายผมสูบฉีดในทันควัน
“คุณกำลังลวนลามฉันทางสายตานะ คุณกริชตฤณ!!”
“หรืออยากให้ลวนลามด้วยการกระทำ? ผมยินดีนะ”
“คุณกริชตฤณ!!!” เธอแผดเสียงใส่ผมอย่างไม่พอใจ
“เรียกผมกริชเฉย ๆ ก็ได้ไม่ต้องเต็มยศขนาดนั้นเหรอ แล้วผมก็ยังพูดไม่จบ สิ่งที่ผมต้องการคือ…อาหารและที่พัก”
“หะ คุณว่ายังไงนะ?!”
“ก็อย่างที่คุณได้ยินนั่นแหละ” ผมต้องการที่จะใกล้ชิดผู้หญิงคนนี้ให้มากที่สุดเพื่อจับตาดูทุกฝีก้าวของการกระทำ ผมรู้มาว่าชั้นบนเป็นที่พักของเธอและมันก็มีเนื้อที่กว้างมากซะด้วย
“คุณทำงานไม่มีเงินเดือนเหรอไง ถึงต้องมาอาศัยน้ำอาศัยข้าวคนอื่น”
“เอาเป็นว่าคุณตกลง” ผมตัดบทด้วยการหยิบคอมพิวเตอร์พกพาขึ้นกางบนโต๊ะ
“ฉันยังไม่ได้ตอบอะไรเลยนะ!” คนตัวเล็กพยายามจะทักท้วงแต่ผมทำเป็นไม่สนใจ เพราะถึงเธอไม่อนุญาตผมก็สามารถหาวิธีเอาชนะได้อยู่ดี ผู้หญิงดื้อ ๆ ชอบต่อปากต่อคำแบบนี้ มีจุดอ่อนอยู่ไม่กี่อย่างหรอกเชื่อผมสิ
“ถ้าคุณอยากให้ผมสืบหาความจริง คุณก็ต้องกรอกข้อมูลพวกนี้ด้วย” ผมละมือจากแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดแล้วโยนเอกสารให้เธอกรอก
“นี่คุณฟังที่ฉันพูดบ้างรึเปล่า?!”
“ขึ้นอยู่กับว่าสิ่งที่คุณพูดน่าฟังรึเปล่า”
“คุณกริช!” เธอถลึงตาใส่ผมอย่างกินเลือดกินเนื้อเมื่อโดนกวนโมโหใส่ ผมแทบอดขำไม่ไหวเมื่อเห็นท่าทีที่เดือดดาลของเธอ เหมือนอะไรดีล่ะ….อืมมม ลูกแมวตัวน้อยที่ร้องแง๊ว ๆ เวลาไม่พอใจ
“ถ้าคุณรับข้อเสนอของผม ผมช่วยคุณได้นะเรื่องร้าน”
“คุณจะช่วยยังไง บอกตรง ๆ ว่าฉันไม่ไว้ใจค่ะ” เพราะเธอเป็นแบบนี้แหละผมถึงรู้สึกสนุกที่ได้ต่อปากต่อคำด้วย แพรวไพลินไม่ยอมอ่อนข้อให้ใครง่าย ๆ นั่นยิ่งกระตุ้นให้ผมอยากจะเอาชนะ
“ผมสามารถเพิ่มลูกค้าให้ได้ มากเท่าไหร่ก็ได้ที่คุณต้องการแลกกับการที่ให้ผมอยู่ที่นี่ คุณคิดว่าไง…ผมว่ามันเป็นข้อเสนอที่ดีทีเดียว” ผมใช้จุดอ่อนของเธอมาเป็นข้อต่อรองและมั่นใจว่าเธอจะต้องตอบตกลง
ผมได้เห็นแววตาของเธอเมื่อตอนที่โดนผมพูดดูถูกร้าน รู้เลยว่าเธอภูมิใจกับสิ่งที่สร้างมาแค่ไหน แพรวไพลินเป็นผู้หญิงที่หยิ่งทะนงในตนเอง คนแบบเธอไม่น่าเลือกที่จะเป็นเมียน้อยใครเลย แต่อย่างว่าเจ้าสัวมานพเป็นนักธุรกิจที่ต่อรองเก่ง บางทีท่านอาจจะมีข้อเสนอที่เธอไม่สามารถปฏิเสธได้
ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูใสถูกเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นบาง เห็นแล้วผมอยากจะเข้าไปชิมลิ้มลองรสชาติของผู้หญิงปากเก่งคนนี้จริง ๆ ว่าจะเด็ดเหมือนคำพูดเธอรึเปล่า
“ก็ได้ เท่ากับว่าคุณต้องช่วยฉันสืบแล้วก็ช่วยหาคนเข้าร้านด้วย”
“ไม่มีปัญหา” ผมยกยิ้มอย่างพอใจที่เธอตอบรับข้อเสนอ
เธอหยิบข้อมูลที่ต้องกรอกมาดูอีกครั้ง ใบหน้าสวยหวานดูยุ่งเหยิงอีกครั้งเพราะคิ้วที่ขมวดเข้าหากันเป็นปม เธอเปิดหน้ากระดาษดูทุกหน้าก่อนจะหันมาทำตาขวางใส่ผม
“นี่มันคำถามอะไรเนี่ย”
“ยิ่งรู้ข้อมูลมากเท่าไหร่ งานก็เดินไวมากเท่านั้น”
เธอกรอกตาขึ้นลงก่อนจะตอบ “เหอะ! ฉันจะกรอกเฉพาะที่เห็นสมควรเท่านั้น โอเคนะคะ”
“เอางั้นก็ได้ แต่เชื่อเถอะผมสามารถล้วงข้อมูลที่คุณไม่ตอบได้ทุกข้อ”
