ตอนที่4
เจนจิรานั่งตัวสั่นมาตลอดการเดินทางกว่าหลายชั่วโมง สายตาของเธอพร่ามัวจนมองไม่ออกว่าสถานที่ที่พวกเขาจะไปคือที่ไหน ลำคอระหงลอบกลืนน้ำลายหลายครั้งเป็นการย้ำเตือนว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่
"หิวน้ำหรือเปล่าครับ" ชายตัวโตสังเกตเห็นคนข้างๆ กลืนน้ำลายลงคอจึงเอ่ยปากถาม
"ปะ...เปล่าค่ะ" เธอไม่กล้าตอบไปตามตรง เพราะกลัวว่าเขาจะยื่นน้ำมาให้และเธอไม่รู้ว่าในน้ำนั้นมียาอะไรผสมอยู่หรือเปล่า
"คุณกลัวผมใส่ยาในน้ำเหรอครับ" ชายหนุ่มแอบหัวเราะเบาๆ กับความคิดมากของคนที่เจ้านายต้องการตัว
"ปะ...เปล่าค่ะ ฉันแค่ไม่หิว" เจนจิราตอบเสียงดังฟังชัด เธอห้ามทำตัวประหม่าให้เขาเห็นเด็ดขาดไม่งั้นอีกฝ่ายจะคิดว่าเธอกลัว แต่ถึงให้ข่มใจเพียงไรขาก็ยังสั่นจนเก็บอาการไม่อยู่
รถยนต์คันหรูเลี้ยวเข้าบ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ลับสายตาผู้คน รอบข้างห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า ถนนที่รถแล่นผ่านก็มืดสนิทจนแทบมองไม่เห็นทาง แต่ทว่าบ้านที่อยู่ตรงหน้ากลับทำให้เธอตาโตค้างได้อย่างไม่น่าเชื่อ
"ถึงแล้วครับ"
"อุ๊ย!" เจนจิราหลุดจากภวังค์ความคิดจนเผลอสะดุ้งตัวโยนตอนที่ได้ยินเสียงของชายอีกคนที่นั่งเงียบอยู่นาน
ขาเรียวค่อยๆ ก้าวลงจากรถอย่างสั่นเทา สองแขนโอบกอดกระเป๋าผ้าใบเก่าของตนเองไว้แน่นราวกับเป็นเกราะป้องกัน เธอเดินตามหลังชายตัวโตห่างๆ โดยมีชายอีกคนประกบด้านหลังของเธออยู่
"นั่งรอบอสสักครู่ครับ" มือหนากดไหล่ร่างเล็กให้นั่งลงบนโซฟากลางบ้าน เจนจิราที่มัวแต่มองซ้ายมองขวาสติหลุดไปแล้วในตอนนี้ หูดับอื้อไม่ได้ยินเสียงใครทั้งนั้น
รอไม่นานก็มีแม่บ้านวัยกลางคนเดินมาพร้อมกับแก้วน้ำหนึ่งใบ ก่อนจะวางลงตรงหน้าเธอแล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตร แต่เธอก็ไม่กล้าหยิบน้ำขึ้นมาดื่มเพราะยังคงหวาดระแวงอยู่ แม้จะหิวน้ำจนคอแห้งเธอก็จะอดทน
"มาแล้วใช่ไหม"
"ครับบอส รอที่ห้องนั่งเล่นครับ" เสียงไม่คุ้นหูของใครบางคนดังแล่นเข้าโสตประสาท เจนจิราหันมองตามเสียงก็เห็นเป็นเงาใหญ่ตะคุ่มๆ ที่กำแพง ใจดวงน้อยยิ่งเต้นโครมครามราวกับจะหลุดออกมา
หญิงสาวนั่งหลังตรงฟังฝีเท้าหนักๆ ที่เริ่มใกล้เธอเข้ามาเรื่อยๆ กลิ่นน้ำหอมราคาแพงฟุ้งเข้าจมูกจนพอเดาได้ว่าเขาคงเป็นคนมีอายุที่ดูแลตัวเองพอสมควร
"ไง สาวน้อย" คำทักทายแรกเอ่ยขึ้น แต่อีกฝ่ายยังนั่งนิ่งตัวแข็งทื่อ
"...."
"นี่! ฉันทักเธอนะ!" คนโดนเมินเริ่มมีน้ำโห ไม่เคยมีใครเมินเขามาก่อนโดยเฉพาะสาวๆ ที่พอเห็นเขาก็พร้อมพลีกายขึ้นเตียง แต่เจ้าหล่อนตรงหน้ามัวแต่นั่งตาแป๋วมันน่าหงุดหงิดนัก
เจนจิราสะดุ้งตัวโยนด้วยความตกใจ เธอเผลอสบตากับเขาแล้วตะลึงในความหล่อเหลาของคนตรงหน้าจนเหม่อลอยไม่ทันได้ฟังคำทักทายของเขา
"ขอโทษค่ะ" คนตัวเล็กรีบยกมือไหว้ก้มหน้าขอโทษรัวๆ
"เงยหน้าขึ้นสิ" เสียงเข้มออกคำสั่งแต่อีกคนยังคงก้มหน้าก้มตา
"บอกให้เงยหน้าขึ้นมา อย่าให้ฉันต้องพูดอีกรอบ"
ใบหน้าสวยค่อยๆ เงยขึ้นช้าๆ อย่างประหม่า คนขี้กลัวอย่างเธอจะไปกล้าต่อกรกับเขาได้อย่างไร แค่เผลอสบตาก็กลัวจะโดนฆ่าแล้ว ในใจภาวนาขอให้ตนเองมีชีวิตรอดออกไปจากที่แห่งนี้ด้วยเถิด
"สวยดีนี่" คนเจ้าชู้พอได้เห็นหน้าตาจิ้มลิ้มตรงหน้าก็อดที่จะชมไม่ได้ เห็นทีการชดใช้ครั้งนี้คงสนุกกว่าที่คิดไว้แน่
"คุณพูดว่าอะไรนะคะ"
"ไม่ต้องรู้หรอกน่า!" ชายหนุ่มทำเป็นฮึดฮัดโมโหใส่ให้อีกคนกลัว และก็ได้ผลเพราะดูท่าคนตรงหน้าเขาจะขี้ตกใจเสียเหลือเกิน
"ละ...แล้วพาฉันมาที่นี่ทำไมคะ"
"นี่เธอยังไม่รู้อีกหรือไงว่ามาที่นี่เพราะอะไร"
"คะ?" เจนจิราไม่เข้าใจสถานการณ์ ไม่รู้ว่าเธอทำอะไรผิดหรือเขาต้องการอะไรกันแน่
"พี่สาวเธออยู่ที่ไหน"
"คุณเป็นอะไรกับพี่จันทร์คะ"
"เธอไม่จำเป็นต้องรู้ แค่บอกมาว่าพี่เธออยู่ที่ไหน" กันต์ธีร์เน้นเสียงต่ำจนน่ากลัวและถามย้ำอีกครั้ง ถ้าเจอพี่สาวเธอก็ต้องเจอไอ้น้องเขยแมงดาด้วยเหมือนกัน
"ฉันไม่รู้ค่ะ"
"แน่ใจ?"
"ค่ะ ฉันไม่รู้ หรือต่อให้ฉันรู้ฉันก็ไม่มีวันบอกคุณหรอก!" เป็นครั้งแรกที่เจนจิราใจกล้าเสียงดังกับเขา เธอไม่รู้ว่าเขามีจุดประสงค์อะไรกับพี่สาวเธอ แต่เธอไม่มีวันทำร้ายพี่สาวตนเองแน่นอน
"ใจกล้าดีนี่ งั้นก็คงรู้สินะว่าพี่สาวเธอทำอะไรไว้บ้าง" ว่าจบก็โยนกระดาษปึกหนึ่งลงบนตักเธอ
"นี่อะไรคะ?" เจนจิราไล่อ่านเอกสารมากมายที่ระบุว่าพี่สาวของเธอเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดยักยอกเงินของบริษัทออกมา อีกทั้งยังมีหมายศาลอีกหลายฉบับที่เธอไม่เคยรู้เลย
"หน้าตาเธอดูไม่ใช่คนโง่ ฉันคงไม่ต้องอธิบาย"
"ฉันว่าต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันแน่ค่ะ พี่จันทร์ไม่มีทางทำอะไรแบบนี้หรอก" เจนจิรายังมั่นใจในตัวพี่สาวของตนเอง
"งั้นเหรอ ถ้างั้นบอกมาสิว่าบ้านที่เธออยู่ใครเป็นคนซื้อ" คำถามของคนตรงหน้าทำเอาเจนจิราลอบกลืนน้ำลาย
บ้านหลังใหม่ราคาหลายสิบล้านที่พี่สาวบอกว่าคนรักซื้อให้แล้วค่อยทยอยผ่อนทีละนิด แต่แท้จริงแล้วเงินที่ซื้อกลับเป็นเงินที่แอบยักยอกบริษัทออกมา ทำไมพี่เธอถึงทำแบบนี้กัน
"คุณลองไปถามคุณชาวินหรือยังคะ เขาเป็นหัวหน้าของพี่สาวฉัน เขาต้องรู้เรื่องนี้แน่ๆ"
"หึ! ไอ้น้องเขยแมงดานั่นน่ะเหรอ มันหนีไปกับพี่เธอแล้วไง"
"น้องเขย?"
"ใช่ เธอคงยังไม่รู้สินะว่าพี่สาวเธอแอบเป็นชู้กับสามีคนอื่นด้วย" กันต์ธีร์เฉลยทุกอย่างให้เธอได้รู้ เจนจิรานิ่งอึ้งอย่างไปต่อไม่ถูก เธอไม่เคยรู้เรื่องเหล่านี้ของจารุจันทร์เลย
"อึ้งเลยสิ แล้วเธอไปเป็นชู้ใครเขาหรือเปล่า"
"คุณพูดบ้าอะไร คุณชาวินเขาคบกับพี่จันทร์อยู่นะ"
"ฮ่าๆ น้องเขยฉันมันก็เป็นแมงดาหลอกผู้หญิงไปเรื่อยนั่นแหละ พี่เธอก็คงรู้ตัวว่าเป็นชู้ถึงได้รวมหัวกับมันแอบยักยอกเงินแล้วหนีไปไง!" กันต์ธีร์หัวเราะร่าเสียงดังอย่างรู้สึกสะใจที่ได้เห็นสีหน้าของเธอเริ่มซีดเซียว
"เท่าไหร่?"
"อะไร"
"เงินที่พี่ฉันยักยอกไปทั้งหมด ฉันจะทำงานใช้คืนให้เอง"
"ไม่มากนักหรอกแค่ยี่สิบล้าน"
"ห๊ะ! ยี่สิบล้าน!" หญิงสาวรีบก้มมองเอกสารในมือใหม่อีกครั้งให้แน่ใจ
"เธอจะทำงานชดใช้ยังไงดีล่ะ เงินตั้งยี่สิบล้านเลยนะ" มือหนาจับคางมนให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากับตน แววตามุ่งมั่นของเธอช่างปลุกเร้าอารมณ์เขาเสียจริง
"ฉันขอทยอยผ่อนคืนได้ไหมคะ"
"ได้สิ ฉันให้เวลาสามวัน"
"จะบ้าหรือไงคุณ เงินตั้งยี่สิบล้านเวลาสามวันฉันจะไปหามาจากไหน"
"ที่จริงก็มีวิธีนะเธอสนใจไหมล่ะ" กันต์ธีร์ใช้สายตาโลมเลียมองเรือนร่างภายใต้ชุดนักศึกษาที่คาดการณ์แล้วว่าน่าจะพอดีมือไม่น้อย
"ไอ้โรคจิต!" เจนจิราปัดมือเขาออกแล้วนั่งห่อตัวแน่น
"ลองคิดดูนะคนสวย ฉันมันเป็นคนเบื่อง่าย ของเดิมๆ ใช้แค่ไม่กี่ครั้งก็เบื่อแล้ว" ตอนนี้เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขาอีกต่อไป เขาแค่อยากเอาชนะคนตรงหน้าที่ดูท่าจะดื้อรั้นพอสมควร
"ฉัน..."
"ฉันลืมบอกไปว่าที่เธอต้องชดใช้ไม่ใช่แค่เงินยี่สิบล้านนะสาวน้อย ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่พี่สาวเธอกับไอ้น้องเขยแมงดาของฉันแอบใช้เงินของบริษัทไปอีก รวมๆ แล้วก็อีกประมาณสี่ล้าน ทั้งหมดยี่สิบสี่ล้าน"
เจนจิรานั่งอึ้งตะลึงหนักกว่าเดิม ลำพังแค่ยี่สิบล้านก็ไม่รู้จะหาจากไหนแล้วนี่ยังมีเพิ่มมาอีกสี่ล้าน แต่ถ้าเธอไม่ชดใช้พี่สาวของเธอก็ต้องเดือดร้อน
"เธอไม่ต้องชดใช้คืนก็ได้นะ แต่ถ้าฉันตามหาพี่สาวเธอเจอก็อาจจะตัดอวัยวะไปในขายตลาดมืด น่าจะได้คุ้มอยู่"
"อย่านะ! คุณบ้าไปแล้วเหรอคุณจะฆ่าคนได้ยังไง"
"ฉันก็ต้องเอาคืนในสิ่งที่พี่เธอทำเอาไว้สิ"
"ฉันขอเวลาตัดสินใจก่อน" เสียงหวานเอ่ยขึ้นมาอย่างเบาหวิว เธอขอเวลาทำใจอีกสักหน่อย
"ได้ แต่ช่วงเวลาที่ตัดสินใจเธอก็ต้องทำงานชดใช้ ฉันไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่าหรอกนะ"
"งาน? งานอะไรคะ" ไม่ใช่ว่าเขาจะจับเธอไปขายในซ่องหรือ แบบนี้ยอมให้ตัดอวัยวะเธอไปขายเสียดีกว่า
"เดี๋ยวก็รู้" กันต์ธีร์พยักหน้าส่งซิกให้ลูกน้องที่ยืนอยู่ด้านหลังก่อนชายร่างใหญ่จะเข้ามาประชิดตัวเธอ
"ขออนุญาตนะครับ"
"อ๊ะ!" เธอได้ยินเสียงพูดของชายอีกคน ก่อนจะมีสัมผัสเย็นๆ แตะเข้าที่จมูก ไม่นานภาพตรงหน้าก็ค่อยๆ เลือนลางและดับสนิทไปในที่สุด
