ตอนที่3
"สายแล้วๆ ไม่ทันแน่ๆ" หญิงสาววิ่งลงมาจากชั้นสองแล้วรีบใส่รองเท้าผ้าใบอย่างเร่งรีบเพราะเธอกำลังจะไปเรียนสาย
"เจน มากินข้าวก่อนสิ"
"ไม่ทันแล้วค่ะพี่จันทร์ ไปก่อนนะคะ" เจนจิราโบกมือร่ำลาพี่สาวก่อนจะวิ่งออกจากบ้านไปโดยไม่ได้หันกลับมองหญิงสาววิ่งออกมาจนพ้นรั้วบ้านแล้วรู้สึกสังหรณ์ใจชอบกล แต่ก็พยายามไม่คิดอะไรมากเพราะถ้ามัวชักช้าเธอจะไม่ทันรถประจำทางแล้ว
"เมื่อคืนคงมัวแต่ตื่นเต้นกับห้องใหม่จนนอนไม่หลับเลยสินะ" จารุจันทร์เห็นน้องสาววิ่งออกไปก็ได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆ
ครืด~ เสียงโทรศัพท์ดังขัดจังหวะความคิด เจ้าของเครื่องรีบหยิงขึ้นมากดรับเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของคนที่กำลังคิดถึง
"คุณชาวิน" รอยยิ้มสวยเผยขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงจากปลายสาย แต่แล้วจู่ๆ รอยยิ้มก็ค่อยๆ หุบลงอย่างช้าๆ
[เราต้องหนีกันแล้วจันทร์ มีคนรู้เรื่องเงินที่เรายักยอกแล้ว]
"อะไรนะคะ ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะคะ"
[อย่าเพิ่งถามอะไรมากเลย เอาเป็นว่าคุณหนีไปกับผมเถอะนะ]
"แล้วน้องสาวฉันล่ะคะ" เสียงหวานเอ่ยถามถึงน้องสาวที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย
[เราหนีไปตั้งหลักกันก่อน ผมเชื่อว่าเจนเอาตัวรอดได้ วันนี้คุณมาผมที่โรงแรมxx ตอนสี่โมงเย็นนะ ผมจะรอ] ปลายสายทิ้งท้ายเอาไว้เพียงเท่านี้ก่อนที่จะวางสายไป ปล่อยให้หญิงสาวยืนอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อสักครู่
ทางด้านเจนจิราหลังจากขึ้นรถประจำทางมาทันเวลาก็รีบวิ่งเข้าห้องเรียนก่อนอาจารย์จะเริ่มเช็กชื่อ โชคดีที่เธอมาทันพอดิบพอดีวิชานี้เธอเลยไม่ขาดเรียน
"ได้ข่าวว่าย้ายบ้านใหม่เหรอ เป็นไงบ้าง" เพื่อนร่วมคณะเอ่ยถามเจนจิราที่เพิ่งมาถึง
"ก็ดี บ้านใหม่สวยเลย"
"งั้นเหรอ น่าอิจฉาจังนะ มีพี่สาวได้แฟนรวยด้วยนี่แบบนี้ก็สบายเลยสิ"
"ไม่ขนาดนั้นหรอก" เจนจิราตอบปัดๆ ไปเพราะรู้ว่าเพื่อนไม่ได้ยินดีกับเธอจริงๆ อย่างที่ปากพูด เพียงแค่ชอบค่อนแคะเธออยู่เรื่อย
"เธอเองก็หาแฟนรวยๆ เหมือนพี่บ้างสิ จะได้สบายอีกคนไง"
"เธอหาก่อนสิหรือยังหาไม่ได้ล่ะ" คำถามของเจนจิราทำให้อีกคนเงียบไป
ที่มหาวิทยาลัยเจนจิราไม่มีเพื่อนสนิทสักคนเดียว เธอมีเพียงเพื่อนร่วมคณะที่คอยว่าประชดประชันแก่งแย่งชิงดีกันอยู่ตลอด เหตุผลที่เธอไม่มีเพื่อนก็เพราะเธอเป็นแค่เด็กกำพร้า ครอบครัวไม่มีฐานะอะไร ไม่มีรถขับต้องนั่งรถประจำทางมาเรียนทุกวัน ไม่มีกระเป๋าแบรนด์เนมสะพายเหมือนคนอื่นๆ
ครืด~ เสียงโทรศัพท์สั่นครืดอยู่บนโต๊ะ เจนจิราเห็นว่าเป็นเบอร์ของพี่สาวจึงรีบลุกไปรับ
"ค่ะพี่จันทร์ มีอะไรหรือเปล่าคะ"
[เจน ตอนนี้อยู่มหา' ลัยใช่ไหม] ปลายสายน้ำเสียงดูตื่นๆ ผิดปกติชอบกล
"ใช่ค่ะ ทำไมเหรอคะ"
[วันนี้เจนไปนอนบ้านเพื่อนก่อนได้ไหม อย่าเพิ่งกลับ]
"ทำไมล่ะคะ ที่บ้านมีอะไร" คนไม่รู้ต้องการรู้คำตอบว่าทำไมพี่สาวถึงได้สั่งห้ามกลับบ้าน
[ไม่มีอะไรหรอก เอาเป็นว่าวันนี้ห้ามกลับบ้านนะไปนอนโรงแรมหรือที่ไหนก็ได้ แล้วพี่จะติดต่อไปทีหลัง ตู๊ด] จารุจันทร์วางสายไปทันที พอโทรกลับไปก็ปิดเครื่องไปเสียแล้ว
เจนจิราทำหน้ามึนงง เธอไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมน้ำเสียงของพี่สาวถึงดูรีบร้อน และที่บอกว่าจะติดต่อมาทีหลังมันหมายความว่าอย่างไร ทำไมเธอถึงรู้สึกสังหรณ์ใจว่าจะไม่ได้เจอพี่สาวอีก
"คิดมากๆ พี่จันทร์อาจจะแค่ให้ช่างมาต่อเติมบ้านแหละมั้ง" เธอพยายามคิดในแง่ดีว่าพี่คงเป็นห่วงไม่อยากให้เธออยู่บ้านคนเดียว ถึงจะคิดบวกแต่กลับไม่ได้โล่งใจขึ้นเลย
ในขณะที่เจนจิรายืนคุยโทรศัพท์อยู่นั้นมีใครบางคนด้านในรถสีดำแอบถ่ายรูปเธอก่อนจะส่งไปให้ใครบางคนที่เป็นผู้ออกคำสั่ง
"ได้รับรูปแล้วใช่ไหมครับบอส" ชายร่างใหญ่สวมแว่นตาดำยกโทรศัพท์โทรหาผู้เป็นนาย
"เธอคือน้องสาวของผู้หญิงคนนั้นครับ ให้ผมจัดการเลยไหมครับ"
[พาตัวมายังไงก็ได้ แต่ขอแบบมีชีวิต] ปลายสายออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่คาดเดาอารมณ์ไม่ได้
"ได้ครับบอส" ชายร่างใหญ่รับคำสั่งเรียบร้อยก่อนจะหันไปพยักหน้ากับคนที่อยู่ข้างๆ
หญิงสาวสังเกตเห็นรถหรูสีดำจอดตรงหน้าอยู่นานไม่ยอมขยับไปไหนสักทีก็ยิ่งใจไม่ดี เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกมองอยู่ตลอดเวลา หรือเป็นเพราะเธอคิดไปเองก็ไม่รู้
"วันนี้ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย" เจนจิราขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ วันนี้เธอรู้สึกไม่ดีมาตั้งแต่เช้าถึงจะพยายามคิดในแง่ดีแค่ไหนก็ตาม
พอตกเย็นถึงเวลาเลิกเรียนนักศึกษาต่างทยอยกันกลับบ้าน เจนจิราก็ยิ่งเครียดหนักกว่าเดิมเพราะเธอไม่มีที่ให้ไปอีกทั้งยังติดต่อพี่สาวไม่ได้เลยตั้งแต่ช่วงสาย เธอไม่มีเพื่อนแถมเงินติดตัวก็มีไม่มาก เสื้อผ้าของใช้จำเป็นก็อยู่ที่บ้านหมด
"ลองกลับไปที่บ้านหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง" เวลานี้พี่สาวของเธออาจจะนั่งรออยู่ที่บ้านก็เป็นได้
เจนจิราก้าวเท้าเดินเข้าหมู่บ้านแล้วหยุดยืนที่หน้าประตูรั้วบ้านของตนเอง มือเล็กล้วงหยิบกุญแจในกระเป๋าเตรียมจะเข้าบ้าน แต่ทว่ายังไม่ทันได้ไขกุญแจเธอก็สัมผัสได้ถึงเงาสีดำใหญ่ที่ด้านหลัง
"สวัสดีครับ" เสียงทักทายของคนแปลกหน้าเอ่ยขึ้น เจนจิราจึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองตามเสียง
"สะ...สวัสดีค่ะ"
"คุณเป็นน้องสาวของคุณจารุจันทร์ใช่ไหมครับ" ถามให้แน่ใจอีกครั้งจะได้ไม่ผิดตัว
"ม...มีอะไรหรือเปล่าคะ"
"เชิญคุณไปกับเราหน่อยครับ มีคนอยากเจอคุณ"
"ใครคะ?"
"ไปถึงแล้วก็รู้เองครับ" คำตอบของคนตรงหน้าดูไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย การแต่งตัวก็คล้ายบอดี้การ์ดของมาเฟียดูน่ากลัวมากกว่าเป็นมิตร
"ฉันว่าฉันไม่รู้จักคุณนะคะ"
"ไม่ต้องรู้จักหรอกครับ เชิญไปกับเราเถอะ" น้ำเสียงกดต่ำทำให้คนตัวเล็กเริ่มหวาดกลัวจนตัวสั่นเทา
"ไปตอนที่ผมยังพูดดีๆ เถอะครับ คุณจะได้ไม่เจ็บตัว" ชายร่างสูงขู่ให้อีกฝ่ายกลัว และดูเหมือนจะได้ผลเพราะตอนนี้หญิงสาวกลัวจนก้าวขาแทบไม่ออก เธอเลยวิ่งหนีไปไหนไม่ได้
"คุณจะไม่ทำอะไรฉันใช่ไหม"
"ครับ ถ้าคุณไม่ขัดขืน"
ชายร่างใหญ่เดินนำเธอไปที่รถสีดำคันที่เธอเห็นก่อนหน้านี้ เจนจิราใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะไม่ใช่เพราะตื่นเต้นที่จะได้นั่งรถหรู แต่เพราะเธอกลัวจนมือไม้สั่นไปหมด เขาจะไม่พาเธอไปฆ่าใช่หรือเปล่า เธอส่งข้อความไปบอกพี่สาวก่อนดีกว่า
"อ๊ะ!" จู่ๆ มือหนาก็ดึงโทรศัพท์ออกไปจากมือเธอโดยที่เจ้าของเครื่องได้แต่นั่งอึ้ง
"ขอยึดโทรศัพท์ไว้ก่อนนะครับ"
"ออกรถได้" เสียงทุ้มเอ่ยสั่งกับคนขับรถก่อนที่รถจะแล่นทะยานออกไป เจนจิราได้แต่นั่งห่อตัวลีบไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงเพราะมีคนตัวโตนั่งประกบอยู่ด้านข้าง เธอจะมีชีวิตรอดกลับไปเจอพี่สาวอีกครั้งหรือไม่
