ตอนที่ 6 หัวใจไม่แข็งแรง
ทาวน์โฮมสามชั้น
กมลเนตรเดินถือกระเป๋านักเรียนตามหลังออโต้ที่วิ่งขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าบนห้องชั้นสาม ฟ้าทำหน้าที่ควบคุมดูแลงานทุกอย่างคล้ายผู้จัดการกำลังเช็กสต็อคสินค้าจริงรอบ ๆ เต็มไปด้วยน้อง ๆ พนักงานกำลังช่วยกันแพคสินค้าของเมื่อวานลงกล่องพัสดุ
“เร็ว ๆ หน่อยคุณนายต้องเริ่มไลฟ์ตอนหกโมงเย็นนะย่ะ” ฟ้าพูดก่อนจะหันมามองเพื่อนควบด้วยตำแหน่งเจ้านายเดินไหล่ตกห่อเหี่ยวหมดเรี่ยวแรง
“วันนี้งดไลฟ์”
“ได้ไงเราจ่ายค่าโปรโมตไปแล้ว”
“ช่างมันเถอะเดี๋ยวอายจ่ายคืนให้บัญชีของบริษัทเอง” มือเรียวโบกปัดเหนื่อยหน่าย ฟ้านิ่วหน้าแปลกใจปกติกมลเนตรจะไม่หยุดไลฟ์ขนาดป่วยยังมานั่งไลฟ์ทั้งที่ไข้ขึ้นด้วยซ้ำ
“เป็นอะไร?”
“หัวใจไม่แข็งแรง”
“ฮะ!” ฟ้าอ้าปากค้างมองเพื่อนกำลังหันหลังก้าวขึ้นบันไดเอื่อย ๆ คล้ายจะเฉาตายต่างจากตอนขับรถออกจากบ้านไปรับลูกอย่างสิ้นเชิง ฟ้าถอนหายใจหันมาหาพนักงานแพคพัสดุ
“เอาล่ะ ทุกคนรีบแพคงานเมื่อวานให้เสร็จพรุ่งนี้จะได้หยุดเพราะไม่มีงานออเดอร์ของวันนี้” เมื่อสั่งงานเสร็จฟ้ายืนนิ่งครุ่นคิดไม่ตกว่าอะไรที่สามารถทำให้เพื่อนสาวแกร่งของเธอมีอาการซังกะตายได้ขนาดนี้……
ห้องนอนชั้นสาม
ออโต้วัยสี่ขวบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยที่แม่ไม่ต้องสั่งเพราะแม่งานยุ่งออโต้เลยต้องดูแลตัวเองในเรื่องง่าย ๆ ให้ได้ หนุ่มน้อยเดินออกมาจากห้องน้ำเห็นแม่นอนคว่ำเอียงใบหน้าหลับตาแนบอยู่บนที่นอน
“ไม่สบายเหรอแม่?” หนุ่มน้อยสวมเสื้อผ้าสบายตัวปีนขึ้นไปนั่งข้าง ๆ ดวงตาสวยปรือมองเพียงครึ่งเปลือกตาและแฝงไปด้วยความหม่นเศร้า
“เปล่าลูกแม่เหนื่อย”
“จะลงไปไลฟ์ตอนไหนออโต้จะได้ปลุก”
“วันนี้ไม่ไลฟ์จ้ะ ถ้าหนูหิวหรืออยากได้อะไรก็สะกิดเรียกแม่นะ แม่ขอนอนพักแค่แป๊บนึง” เปลือกตาสวยปิดลงอ่อนแรงฝืนความรู้สึกแสร้งว่าไม่เป็นอะไรตั้งแต่เจอณดลและพาลูกไปกินข้าวเย็นจนกระทั่งถึงบ้าน เมื่อได้อยู่ในบ้านซึ่งเป็นพื้นที่ปลอดภัยสภาพร่างกายและจิตใจก็ทรุดอ่อนแรงลงทันที
ออโต้ลูบหัวแม่แผ่วเบาอย่างที่แม่เคยกล่อมให้เขานอนส่วนสายตามองไปทางหน้าจอโทรทัศน์ที่แม่กดเปิดช่องการ์ตูนไว้ให้
หนุ่มน้อยเอนตัวลงนอนเขยิบเข้าชิดตัวแม่ กมลเนตรลืมตาขึ้นมองลูกชายขี้อ้อนนอนหมอนหนุนเดียวกันจึงกระชับแขนเรียวโอบกอดหอมแก้มตัวแสบยาใจของแม่ที่รักสุดหัวใจ แววตาสวยสั่นระริกน้ำตาไหลลงหางตาใบหน้าของลูกถอดแบบพ่อออกมาจนน่าใจหาย ทุกครั้งที่มองหน้าลูกเหมือนได้มองหน้าชายคนรักแม้ต้องเลิกเพราะเหตุผลมากมายไม่อาจอยู่ร่วมกันได้แต่ตัวแทนความรักของเขาก็ทำให้เธอมีความสุขได้เสมอ
ย้อนไปวันฝนโปรยปราย
เมื่อเจ็ดปีก่อน
กมลเนตรเดินตัวเปียกชื้นน้ำฝนปะปนไปกับน้ำตาความผิดหวังและเสียใจกำลังถาโถมหัวใจคนที่ถูกแฟนทรยศ ร่างบางเดินไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมายน้ำตายังคงไหลรินท้อแท้และสิ้นหวังจนเหนื่อยล้ากวาดสายตามองรอบข้างเดินเลยมาถึงป้ายรถเมล์สวนสาธารณะใจกลางเมืองจุดเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้ากับรถไฟใต้ดิน
กายบางหนาวสั่นเดินเข้าใต้หลังคาป้ายรถเมล์ผู้คนมากมายกำลังยืนรอรถโดยสารประจำทางและรถตู้สาธารณะ สองมือเรียวโอบกอดให้ไออุ่นตัวเองหน้าสวยซีดเผือดปากสั่นหลังจากเดินลุยฝนมานับชั่วโมง
“จะไปดอนเมืองต้องขึ้นรถสายไหนเหรอครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนตัวเปียกโชก เธอเหล่มองเขาแล้วชี้นิ้วไปยังตัวเลขบนป้ายรถประจำทาง
“รถตู้ไปได้ไหม?”
“รถตู้ติดป้ายข้างหน้าว่ารังสิต” กมลเนตรถอนหายใจหงุดหงิดคนกำลังอกหักตัวเปียกชุ่มจะมาถามอะไรนักหนาทำไมไม่ไปถามคนอื่น
“โห คนรอเยอะเมื่อไหร่จะได้ขึ้น” ณดลบ่นพึมพำมองคนต่อแถวเข้าคิวขึ้นรถตู้ยาวเหยียดแล้วหันกลับมามองหญิงสาวตัวเปียกตั้งแต่หัวจรดเท้ายืนตัวสั่นหน้าซีดปากแทบจะคล้ำม่วง
“หนาวเหรอเอาเสื้อคลุมผมมั้ย?”
“ไม่ค่ะ ขอบคุณ” เธอกระแทกเสียงห้วน ไม่มองเขาเพราะรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกคุกคาม
“ไม่ต้องกลัวไม่มีเชื้อโรค”
“ไม่ได้กลัวโรคแต่กลัวคุณ แต่งตัวก็ดีไม่น่าโรคจิต” กายบางเขยิบห่างปรายตามองชายหนุ่มรูปหล่อคมเข้มแต่งกายดูดีแม้จะเป็นเสื้อยืดคอปกสวมด้วยเสื้อคลุมผ้ายีนสีน้ำตาลเข้มแมทกับกางเกงยีนสีเดียวกันอย่างประหม่า
“หน้าผมเหมือนคนโรคจิตตรงไหน?”
“ไม่เหมือนแต่เราไม่รู้จักกันอยู่ ๆ ก็มาชวนคุยจะให้ใส่เสื้อคลุมของตัวเอง คนไม่รู้จักที่ไหนเขาทำกัน!” เสียงหวานดังขึ้นตั้งใจให้คนในป้ายรถเมล์ได้ยินซึ่งก็ได้ผลเพราะทุกคนหันมามอง ณดลหน้าเหวอตกใจรีบโบกมือปฏิเสธเลิ่กลั่ก
“ขอโทษ ๆ ผมอาจจะเฟรนลี่เกินไปเลยทำให้คุณกลัว”
“ไปอยู่ห่าง ๆ ฉันเลย” คิ้วเรียวขมวดนิ่วหน้าขึงขังกระเถิบตัวหนีห่าง ณดลมองตามรู้สึกผิดไม่ได้ตั้งใจทำให้เธอกลัวแต่เขาลืมไปว่าคนไทยค่อนข้างระวังตัวไม่ได้สนิทง่ายเหมือนคนในประเทศที่เขาไปศึกษาต่อนานนับสิบปี
รถเมล์สายรังสิตจอดป้ายรถเมล์ ผู้คนส่วนมากเป็นวัยทำงานเหนื่อยมาทั้งวันผจญกับรถติดรีบกรูกันขึ้นรถและเดินไปยืนตามจุดต่าง ๆ อย่างเบียดเสียด ณดลยืนใกล้ประตูรถเมล์ชะเง้อมองหาหญิงสาวตัวชุ่มเห็นเธอยืนโหนราวอยู่กลางรถ
ตลอดเส้นทางผู้คนขึ้นลงตามป้ายรถเมล์เรื่อย ๆ ผู้โดยสารบางตาลง เมื่อมาถึงป้ายหลักสี่หญิงสาวตัวชุ่มลงจากรถ ณดลยืนมองเธอจากบนรถเมล์เพื่อไปป้ายดอนเมืองแต่สายตาของเขานั้นช่างลังเล....
