ตอนที่ 5 ไม่ใช่ลูกดล
กมลเนตรหายใจหอบแรงโมโหคนที่ทำให้เจ็บ มือเรียวนุ่มเย็นขึ้นเฉียบพลันออโต้รู้สึกได้ถึงความเย็นนั้นจึงเขย่า มือน้อย ๆ ในอุ้งมือแม่
“แม่.....” ออโต้เงยมองแววตาใสซื่อ กมลเนตรฉุกคิดได้ว่าอยู่ต่อหน้าลูกเธอจึงก้มลงมองยิ้มละมุนให้กับลูกชาย
“ออโต้ไปเล่นที่สนามเด็กเล่นก่อนนะลูก” เสียงหวานอ่อนโยนปรายตามองไปทางสนามเด็กกลางแจ้งที่อยู่ไม่ไกล ออโต้พยักหน้าเบา ๆ เหลือบมองพ่อมัดหมี่เล็กน้อยก่อนจะเดินไปเล่นตามคำบอกของแม่
“ออโต้เป็นลูกใคร?”
“เรื่องส่วนตัว” หน้าสวยเชิดขึ้นประจันหน้าแม้ตอนนี้ในใจสั่นไหวเพียงแค่เห็นหน้าเขาเพราะหัวใจดวงน้อยที่เต็มไปด้วยความบอบช้ำยังคงรักเขาไม่คลาย
“ลูกของ..ดลใช่ไหม?” เสียงทุ้มขาดช่วงประหม่าและรู้สึกผิดหากนั่นคือลูกของเขาจริงนั่นหมายความว่าเขาทอดทิ้งให้เธอต้องลำบากเลี้ยงดูลูกเพียงลำพัง
“ใช่หรือไม่ใช่แล้วมันจะยังไง”
“ทำไมไม่บอกดลว่าท้อง?”
“ดลไม่ใช่พ่อเด็ก”
“ดีเอ็นเอมันฟ้องบนหน้าออโต้ขนาดนั้นยังบอกว่าไม่ใช่อีก จะโกหกกันเพื่ออะไร!”
“เพราะอายไม่ต้องการให้ดลเข้ามาวุ่นวายในชีวิตอายอีก ช่วยอยู่ห่าง ๆ และมีความสุขกับลูกเมียสมบูรณ์แบบของตัวเองเถอะ” หน้าสวยฝืนเกร็งกล้ำกลืนไม่แสดงอาการ
“นี่ก็ห่างให้อย่างที่อายต้องการแล้ว แต่ดลไม่รู้ว่ามีลูกติดท้องไปด้วย”
“ไม่ใช่ลูกของดลสบายใจได้”
“ดลดูโง่ขนาดนั้นเลยเหรอ” คิ้วเข้มขมวดแววตาสั่นไหวเพราะรู้ว่าเธอกำลังโกหก
“ตอนนี้อายมีความสุขดีอย่ากลับมาเอาความทุกข์ให้อายอีก” ริมฝีปากบางสั่นระริกน้ำตารื้นรีบหันหลังจะเดินหนีไปหาลูกเพื่อตัดใจบอกปัดไม่อยากให้เขาตามวอแว
“ต้องให้ดลทำร้ายตัวเองด้วยไหมถึงจะเห็นใจดลบ้าง” เสียงทุ้มดังตามหลังสั่นไหวเป็นคำพูดที่ทำให้เธอตัวชาวาบหันขวับมาจ้องมองกังวลกลัวว่าเขาจะทำจริง
“อย่าผิดสัญญา ดลรับปากกับอายแล้วว่าจะไม่ทำร้ายตัวเองและมีชีวิตต่อไปให้มีความสุข”
“ดลผิดสัญญาตั้งแต่วันที่เราแยกกันแล้วอาย ตั้งแต่วันนั้นดลไม่เคยรู้จักความสุขอีกไม่มีความสุขไหนมันเข้ามาในใจดลได้ รู้บ้างไหมว่ามันทรมาน....” หน้าเข้มแดงก่ำน้ำตาไหลเกินอดกลั้นกับความเสียใจทั้งรักและห่วงหาแต่กลับมาหาเธอเหมือนเดิมไม่ได้ กมลเนตรนิ่งงันน้ำตาร่วงรับรู้ถึงความเจ็บปวดของเขาผ่านสายตาเพราะมันคือความรู้สึกที่เธอต้องแบกรับมาตลอดเช่นกัน
“แม่ครับ ออโต้หิวแล้ว” เสียงลูกชายดังแว่วมาฉุดอารมณ์คนเป็นแม่ให้รีบเช็ดน้ำตาฮึบไม่ร้องไห้ให้ลูกเห็น ออโต้วิ่งมาเกาะเอวแม่เงยมองแม่หน้าแดงจึงหันไปค้อนใส่พ่อเพื่อนว่าทำอะไรแม่ของเขาแต่ออโต้กลับเห็นว่าพ่อเพื่อนก็ปาดน้ำตา
“พ่อมัดหมี่กับแม่ร้องไห้เหรอครับ?”
“เมื่อกี้ลมพัดฝุ่นมาเข้าตาพวกเราเลยแสบตาจ้ะ ถ้าออโต้หิวแล้วเรากลับกันเลยเนอะ” กมลเนตรตอบลูกเสียงสั่นเหลือบมองไปทางณดลยืนหน้าเครียด
“สวัสดีคุณพ่อของเพื่อนด้วยนะลูก” สิ้นคำพูดเธอออโต้ก็ยกมือไหว้พ่อของมัดหมี่ทันที ณดลจุกอกขบกรามแน่นก้มหน้ายกมือรับไหว้ยิ่งเห็นหน้าลูกของเธอยิ่งปวดร้าวในใจ
กมลเนตรรีบคว้าจับมือลูกชายตัดใจเดินไปยังลานจอดรถหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ณดลมองตามหลังสองแม่ลูกเศร้า ๆ ก่อนจะหันหลังน้ำตาไหลพรากในวันนั้นที่แยกจากกันวันนั้น เขาไม่ได้เสียแค่เธอแต่เสียลูกชายไปด้วยอีกคน ณดลปล่อยน้ำตาให้ไหลจนพอใจแล้วเช็ดคราบน้ำตาบนหน้าเดินมายังรถยุโรปคันหรูที่จอดในลานจอดรถ มัดหมี่นั่งเล่นเกมในโทรศัพท์อยู่ในรถเงยมองพ่อตาปริบ ๆ
“คุณพ่อหน้าตาแดงจังคะ”
“ฝุ่นเข้าตาค่ะ” เขามองออกนอกกระจกไม่กล้าหันมาสบตาลูกสาว เด็กน้อยมองหน้าพ่อว่าเหมือนตัวเองตอนหลังร้องไห้แล้วส่องดูในกระจกหน้าแดงใต้ตาบวมแดงแบบนี้เลย
“กลับบ้านกันนะคะ” เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ตั้งสติจะขับรถ มัดหมี่อ้าแขนกว้างในเบาะนั่งคาร์ซีท
“กอด ๆ หน่อยค่ะคุณพ่อ” เด็กน้อยตาแป๋วอยากปลอบใจพ่อให้หายเศร้า ณดลหน้าเบะจะร้องซาบซึ้งก่อนจะโน้มกายหนามาโอบกอดเจ้าหญิงตัวน้อยของเขาอย่างอ่อนโยน
“โอ๋ ๆ” มือน้อยตบไหล่พ่อเบา ๆ
“ขอบคุณนะคะ เจ้าหญิงของพ่อ” การกระทำและเสียงน้อย ๆ ของลูกทำเขาเกือบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แขนแกร่งกระชับกอดแน่นเอียงหน้าซบไหล่ลูกสาวหวังได้รับกำลังใจให้ตัวเองเข้มแข็งขึ้นเพราะเวลานี้เขาอ่อนแรงเหลือเกิน…
รถยนต์คันหนึ่งอีกฟากของลานจอดรถ
ออโต้ขึ้นรถนั่งคาร์ซีทที่เบาะหลังเงยมองแม่ตอนคาดเข็มขัดนิรภัยให้ตาแป๋ว กมลเนตรเหลือบมองลูกแล้วยักคิ้วเชิงคำถาม
“วันนี้เราไปหาอะไรกินกันดี?”
“อะไรก็ได้ที่แม่กินแล้วอารมณ์ดี”
“แม่ไม่ได้อารมณ์เสียสักหน่อย” คิ้วเรียวเลิกขึ้นปั้นหน้าแข็งยิ้มฝืน ๆ หนุ่มน้อยเชิดหน้ากอดอกเหล่มองแม่โกหก
“โห่ ออโต้ลูกแม่นะเวลาแม่อารมณ์ไม่ดีก็ทำหน้าอย่างงี้ทุกที”
“รู้ดีนักนะ เจ้าตัวแสบ” นิ้วเรียวบีบปลายจมูกลูกชายอย่างมันเขี้ยว
“พ่อมัดหมี่แกล้งแม่ใช่ไหม ถ้าเจอหน้าออโต้จะจัดการให้”
“ตัวกะเปี๊ยกจะไปทำอะไรเขาได้”
“ตัวกะเปี๊ยกแต่เป็นซูเปอร์ฮีโร่ปกป้องแม่ได้ก็แล้วกัน” ออโต้ยกแขนขึ้นเบ่งกล้ามให้แม่ดู กมลเนตรหลุดหัวเราะ
“ขอบคุณครับ แต่ไม่ต้องไปทำอะไรเขานะแม่หน้าบึ้งหงุดหงิดเรื่องงานไม่ใช่เพราะพ่อเพื่อน”
“โอเค” ออโต้พยักหน้ารัว ๆ งอแขนบิดข้อมือไปมาเบ่งกล้ามเหมือนในยูทูป กมลเนตรยิ้มอ่อนเอ็นดูความอวดกล้ามอันน้อยนิดของลูกชายที่ช่วยทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นได้อย่างกับเป็นยาวิเศษ........
