บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 ตื่นได้แล้ว

ก่อนหน้าฝนตกโปรยปราย

หลังอาคารสำนักงานขนาดใหญ่

“นัดมีหน้าที่การงานดีไม่อยากมีแฟนเป็นแค่แม่ค้ากระจอก ๆ มันซัพพอตนัดไม่ได้เข้าใจไหม” ธนัทนิ่วหน้าเครียดโมโหแฟนมาโวยวายอยู่หน้าบริษัททำให้เขาอับอายจนต้องลากมาคุยในซอยข้าง ๆ

“ที่มีทุกวันนี้ได้ไม่ใช่เพราะอาชีพแม่ค้าของอายส่งเงินให้นัดเรียนจบสูง ๆ มาดูถูกอายหรือไง!” กมลเนตรเกรี้ยวกราดหน้าแดงก่ำเจ็บกับคำดูถูกอาชีพต่ำต้อยของเธอ

“นัดประสบความสำเร็จเพราะความสามารถของตัวเอง”

“แต่เงินที่เรียนเป็นเงินของอาย”

“ถ้าจะทวงบุญคุณก็รอไปก่อนจะผ่อนใช้คืนให้หมด พอใจยัง!”

“ไม่ต้องผ่อนหรอก อายจ่ายค่าเรียนให้นัดเท่าไหร่พี่จะจ่ายคืนให้เอง” เสียงของกิ่งแก้วหญิงวัยสี่สิบแทรกขึ้นจากด้านหลังระหว่างการสนทนาของทั้งสองคน กมลเนตรจ้องตาเขม็งโกรธเกลียดคนตีสองหน้าเข้าเส้น

“หน้าด้าน การงานก็ดีแต่เอาลูกน้องทำผัว แก่แล้วก็เข้าวัดไม่ใช่เอาเงินมาซื้อผัวคนอื่นเขา!”

“นัดกับพี่มีอะไรกันเพราะความรักไม่ได้จ่ายเงินสักบาทแต่ที่จะโอนเงินคืนให้เพราะสมเพชหรอกนะผู้ชายไม่เอายังจะตามวุ่นวายไม่เลิก” กิ่งแก้วแสยะยิ้มมั่นหน้าเหนือกว่าทุกทาง

“ความคิดชั่วทั้งคู่ ถ้าอายประจานให้คนอื่นรู้หรือแจ้งบริษัทถึงการกระทำชั่ว ๆ ของพี่แก้ว หน้าที่การงานของพี่หลุดมือแน่”

“จะแจ้งอะไรก็ทำไปเถอะ คนเก่งอย่างพี่เป็นที่ต้องการของบริษัทผู้บริหารสนใจแค่เม็ดเงินที่หาได้มากกว่าเรื่องส่วนตัว”

“เราเป็นแค่แฟนที่เลิกกันแล้ว พี่แก้วไม่ได้ทำอะไรผิด”

“มึงกับกูยังไม่ได้เลิกกัน พวกมึงลักลอบเอากันลับหลังกู!” กมลเนตรตาแข็งเสียงดังเกรี้ยวกราดอยากให้คนทั่วไปได้ยินความเลวของมันสองคน

“พี่ขอแนะนำให้อายไปเงียบ ๆ พร้อมเงินที่พี่จะโอนให้ดีกว่านะ ไม่งั้นพี่จะฟ้องว่าอายหมิ่นประมาทเงินไม่ได้แถมต้องเสียเงินให้พี่อีก จะเอาไงแม่ค้าหาเช้ากินค่ำอย่างอายมีปัญญาจ่ายค่าเสียหายไหม” กิ่งแก้วสวนกลับเสียงเข้มอย่างเอาเรื่อง ธนัทหน้าเสียเลิ่กลั่กไม่อยากให้แฟนเก่าเดือดร้อน

“กลับไปเถอะอาย ถ้าหวังดีต่อกันจริง ๆ ปล่อยให้นัดมีโอกาสที่ดีเถอะนะ”

“คนเนรคุณทำมาหากินอะไรไม่ขึ้นหรอกสักวันกรรมจะตามทัน” แววตาสวยสั่นไหวเงยมองหน้าคนรักด้วยความเจ็บปวด ธนัทนิ่งงันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ถึงจะหักหลังความรักของเธอเพื่อชีวิตที่ดีกว่าเดิมแต่ความผูกพันที่มีกันมาก็ทำให้อดสงสารไม่ได้

“ก็ลองดูต่อไปแล้วกันว่าคนเก่งอย่างพี่กับนัดกับแม่ค้าตลาดนัดใครมันจะได้ดีกว่ากัน” กิ่งแก้วเชิดหน้ามาดมั่นแล้วกระชากแขนธนัทอย่างแรงเพราะดูออกว่าธนัทใจอ่อน

“ถ้าเลือกพี่ก็ไปด้วยกัน” กิ่งแก้วจ้องตาเขม็ง ธนัทหน้าเครียดได้แต่พยักหน้าเดินไปพร้อมกับกิ่งแก้ว

กมลเนตรมองความรักที่หลุดลอยด้วยสายตาปวดร้าวทุ่มเทรักนี้ให้หมดหัวใจไม่มีเผื่อไว้สำหรับผิดหวัง ทั้งที่เคลือบแคลงสงสัยแต่ไม่อยากก้าวก่ายปล่อยให้เรื่องราวผ่านเลยไปจนถึงจุดที่ไม่สามารถป้องกันอะไรได้อีก ท้องฟ้ามืดครื้มเสียงฟ้าดังกระหึ่มเพียงไม่นานสายฝนก็ตกกระหน่ำตอกย้ำคนเศร้าให้ยิ่งเจ็บเดินเหม่อลอยไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย.........

“พี่อายตื่นได้แล้วพี่” เสียงคุ้นเคยดังเข้ามาในโสตประสาทปลุกให้นอนหลับใหลตื่นขึ้นหรี่ตามองแสงสว่างลอดผ่านช่องผ้าม่าน

“กี่โมงเนี่ย” กมลเนตรมองไปทางแนนน้องนักศึกษามาทำงานเป็นแม่บ้านพาร์ทไทม์เพื่อหาเงินเรียน

“จะเที่ยงแล้วพี่”

“ฮะ ใครส่งออโต้ไปโรงเรียน!” กายบางสะดุ้งดีดตัวนั่งหน้าตาเหลอหลา

“วันนี้วันเสาร์”

“อ้าว เออลืม”

“ป้าจอยขายทุกอย่างเขาเอาโจ๊กกับข้าวเหนียวหมูปิ้งมาให้ออโต้ตั้งแต่เช้า พี่เอาเงินไปจ่ายเขาด้วย” แนนน้ำเสียงเรียบนิ่งหันหลังเช็ดฝุ่นบนชั้นวางโทรทัศน์

“อือ” มือเรียวเกาหัวยิก ๆ ชูแขนขึ้นบิดขี้เกียจซ้ายขวาแล้วชะงักเมื่อเห็นแนนยืนมองจ้องเธอ

“ลุกสักทีพี่ นอนตื่นสายโด่แนนต้องเอาผ้าปูที่นอนไปซักแล้วจะดูดฝุ่นในห้องด้วย”

“ดุจริง ๆ พี่จ้างเรามาทำความสะอาดบ้านนะไม่ได้ให้มาเป็นแม่”

“ก็พี่ตื่นสายพอดูดฝุ่นเสียงดังก็บ่นอีก” แนนบ่นอุบหน้างอยากรีบทำงานบ้านให้เสร็จจะได้มีเวลาไปรับจ๊อบทำความสะอาดบ้านหลังใหญ่เพราะมีแม่บ้านมาว่าจ้างให้ไปช่วยทำงานพิเศษ

“อ่ะ ๆ ลุกก็ได้ขี้บ่นจริง” กมลเนตรนิ่วหน้าสะบัดก้นลุกจากเตียงเดินไปหยิบเสื้อผ้าเข้าไปอาบน้ำปล่อยให้แนนทำความสะอาดได้อย่างสบายใจ

หลังแต่งตัวเสร็จ กมลเนตรชวนลูกที่กำลังช่วยพนักงานแพคสินค้าออกไปหาข้าวบ่ายกินกันในตลาด ออโต้เดินจับมือกับแม่มายังร้านค้าใกล้ตลาดได้ยินเสียงสนทนาของแม่ค้าและลูกค้าดังมาแต่ไกล

“ลองไปบ้านที่ติดกับโรงงานดูสิน่าจะได้เจ้าภาพใหญ่อยู่นะ” ป้าจอยแม่ค้าขายโจ๊กตอนเช้าอาหารตามสั่งตอนเที่ยงกำลังผัดข้าวผัดคุยกับลูกค้าขาประจำที่เป็นชุมชนเล็ก ๆ รู้จักกันถ้วนหน้า

“ที่เป็นเจ้าของโรงงานกระดาษทิชชูเปิดใหม่นะเหรอป้า”

“นั่นแหละๆ”

“พวกเขาเป็นคนรวยพึ่งมาอยู่กันแค่สองเดือนไม่ผูกพันกับชุมชนวัดวาอารามคงไม่ช่วยหรอก” พี่สมรแย้งขึ้นเพราะตั้งแต่บ้านหลังใหญ่มาอยู่ก็ไม่เคยมาทำความรู้จักหรือซื้อของกินของใช้ในตลาดให้คนในชุมชนพบเห็นนอกจากแม่บ้านที่มาจ่ายตลาด

“ค่าของกินเมื่อเช้าเท่าไหร่จ๊ะป้า?” กมลเนตรหยุดยืนอยู่หน้าร้านอาหารตามสั่งส่วนออโต้สิ่งไปซื้อขนมที่ร้านข้าง ๆ กัน

“แปดสิบบาท”

“นี่ไงชวนหนูอายไปด้วยกัน” พี่เปามองทางกมลเนตรกำลังยืนทำหน้างง

“ไปไหนเหรอพี่?”

“พวกป้าจะไปชวนเจ้าของโรงงานทิชชูมาร่วมทำบุญกองทานและถวายปัจจัยซ่อมแซมอุโบสถกัน หนูอายไปช่วยคุยด้วยกันนะ หนูอายพูดเก่งถ้าช่วยกันชวนต้องได้แน่ ๆ”

“หนูไม่ไปหรอกเหมือนไปไถเงินเขายังไงไม่รู้” คิ้วเรียวเลิกขึ้นจ่ายเงินเสร็จก็จะเดินไปหาลูกแต่หางตาสะดุดกับสายตาของทุกคนในร้านจับจ้องมาทางเธออย่างอ้อนวอน......

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel