ตอนที่ 2 อย่าเสนอหน้า
“พอ ๆ ย่าให้ละมุนอยู่เลี้ยงลูกต่อในฐานะพี่เลี้ยง จบนะ” คุณหญิงย่าขึ้นเสียงมองเคืองหลานชายที่อยากพรากแม่พรากลูกเสียเต็มประดา ทั้งที่เป็นคนเลือกละมุนด้วยตัวเองและขอร้องให้หญิงสาววัยกำลังสวยสะพรั่งมาอุ้มท้องทั้งที่ไม่เคยมีสัมพันธ์กับชายใดทำให้ละมุนต้องมัวหมองแต่ดันไม่เห็นใจ
“ผมไม่ยอม!”
“ย่ายินดี นี่เหลนย่าบ้านที่อยู่กับสมบัติมหาศาลก็ของย่า ย่าจะให้ใครอยู่หรือไปก็ได้!” คุณหญิงย่าเสียงแข็งมั่นคงในคำพูดตัวเอง พสุธาส่ายหัวงุ่นง่านไปมาหงุดหงิด ในเมื่อคุณย่าออกคำสั่งนั่นคือที่สุดเขาไม่สามารถโต้เถียงได้จึงจำเป็นต้องยอมรับแต่เธอต้องทำตามที่เขาต้องการด้วย
“เธอต้องอยู่ในฐานะพี่เลี้ยงเท่านั้น ห้ามพูดหรือแสดงตัวว่าเป็นแม่เด็ดขาดและต้องหย่ากับฉันให้เร็วที่สุด”
“ค่ะ พรุ่งนี้ออกจากโรงพยาบาลไปที่อำเภอเลยก็ได้ค่ะ” ละมุนแววตาเป็นประกายน้ำตาไหลนองหน้าดีใจและซาบซึ้งกับความกรุณาของคุณหญิงย่าที่มีให้เธอเสมอ พสุธรกลอกตามองบนก่อนจะเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกไปจากห้องผู้ป่วย คุณหญิงย่ายิ้มให้ละมุนอย่างอ่อนโยนแล้วก้มมองเอ็นดูหลานชายตัวน้อยทายาทอีกคนของสกุลสิงหบดินทร
วันต่อมา
ละมุนนั่งอยู่บนรถคอมมูเตอร์กับคุณหญิงย่าเลขาและคนขับรถอยู่ที่หน้าอำเภอเพื่อรอพสุธรที่กำลังประชุมด่วนยังเดินทางมาเซ็นใบหย่า เวลาล่วงไปเกือบชั่วโมงทารกน้อยเริ่มงอแงคุณหญิงย่าเองก็หน่ายที่จะรอคอยหลานชายเต็มที
“ย่าจะพาละมุนกลับก่อน วันหลังค่อยมาใหม่” คุณหญิงย่าส่งข้อความไปบอกหลานชาย ซึ่งเขาก็อ่านแต่ไม่ตอบ คุณหญิงย่าเลยถือว่าตกลงพาละมุนกับเหลนกลับไปยังคฤหาสน์ของใหญ่แถบชานเมืองของท่าน
วันเวลาผ่านไปหนึ่งเดือน
ลูกชายของละมุนได้ถูกรับขวัญและตั้งชื่อ อธิกร สิงหบดินทร หรือน้องกร ญาติสนิทมาร่วมผูกข้อมือรับขวัญหลานชายที่ได้รับรู้ข้อมูลมาว่าพสุธรมีสัมพันธ์กับลูกสาวคนในตระกูลมั่งคั่งที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัวเพราะพลาดท้องเลยไปคลอดที่ประเทศเพื่อนบ้านแล้วส่งตัวลูกมาให้พสุธรเลี้ยง โดยที่ญาติไม่รู้เลยว่าพี่เลี้ยงที่คอยดูแลจะเป็นแม่แท้ ๆ ของคุณหนูกรทายาทของสิงหบดินทร
พสุธรอุ้มลูกชายไว้ในอ้อมกอดยิ้มแย้มให้กับญาติ ๆ ที่เข้ามารับขวัญด้วยสิ่งของมีมูลค่ามากมาย ละมุนชะเง้อมองคุณหนูด้วยความห่วงใยไม่รู้ตัวว่าน้ำนมไหลเปื้อนเสื้อแขนตุ๊กตาสีขาว สักพักทิวาพรรณป้าของพสุธรก็หันมาเห็น
“เธอเป็นแม่ลูกอ่อนเหรอ?” ทิวาพรรณขมวดคิ้วแปลกใจ
“ละมุนเป็นแม่ลูกอ่อนฉันเลยจ้างมาเป็นแม่นมให้ตาหนู” คุณหญิงย่ารีบพูดขึ้นไม่ให้มีพิรุธ พสุธรนิ่วหน้าหันไปมองละมุนดุ ๆ ลูกชายในอ้อมกอดเขาก็เริ่มดิ้น
“สงสัยลูกเธอจะหิวสายใยแม่ลูกมักสื่อถึงกัน” สิ้นคำพูดของทิวาพรรณ อธิกรก็ร้องงอแงหน้าแดงญาติ ๆ หันกลับไปมองทายาทของตระกูลกันงง ๆ
“คงจะหิวพร้อมกัน ละมุนไปเอาคุณหนูมาให้นมสิ” คุณหญิงย่ายิ้มแห้งพลางกวักมือเรียกให้ละมุนเข้าไปรับอธิกรไปให้นม
“ค่ะ คุณหญิง” ละมุนรีบคลานเข้าไปรับลูกมาจากพสุธร นพกุลสามีของสนีนาถญาติผู้พี่เขยของคุณย่ากวาดสายตามองทรวดทรงหน้าอกสะโพกของแม่ลูกอ่อน
“สามีเขายอมให้ภรรยามาเลี้ยงกรหรือคะ แล้วลูกเขาจะกินนมใคร” นาริตาญาติผู้น้องเอ่ยถามสงสัย
“ละมุนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว น้ำนมก็เยอะเลยปั๊มเก็บไว้ให้ลูกทุกวันก่อนมาเลี้ยงตาหนู” คุณหญิงย่าตอบกลับทันควันราวกับเตรียมคำตอบไว้ทั้งที่เพิ่งคิดออกเมื่อครู่ ญาติต่างพยักหน้ารับรู้มองละมุนอุ้มอธิกรออกไปจากวงสนทนา
ละมุนพาลูกมาในห้องรับแขกขนาดเล็กที่ปิดมิดชิดนั่งบนโซฟาปลดกระดุมเสื้อแหวกเปิดออกพร้อมกับชุดชั้นในควักหน้าอกให้ลูกน้อยดูดดึงดื่มน้ำนมด้วยความหิวโหย สักพักพสุธรเปิดประตูเดินหน้าบึ้งเข้ามาในห้องพร้อมกับเสียงบ่น ละมุนสะดุ้งรีบหันหลังหนีไม่ให้เขาเห็นตอนให้นม
“ทำไมไม่ระวังตัว ญาติอยู่เต็มบ้านแต่มานั่งน้ำนมไหลน่าอายไม่พอยังทำให้พวกเขาสงสัย!”
“ขอโทษค่ะ”
“หรือว่าตั้งใจอยากให้คนอื่นรู้ว่าเป็นแม่ของกร” คิ้วหนาเลิกขึ้นจ้องมองแผ่นหลังของเธอ
“หนูไม่เคยคิดทำอะไรอย่างนั้น”
“ฉันไม่เชื่องูพิษอย่างเธอหรอก” คำพูดที่สวนกลับมาของเขาทำเธอนิ่งเงียบไม่ว่าจะพูดอะไรเขาก็คงไม่ฟังเพราะปักใจเชื่อไปแล้วว่าเธอหวังสูง พสุธรมองละมุนที่ไม่ตอบโต้ทำให้รู้สึกอึกอักว่าพูดแรงเกินไป
“ลูกอิ่มหรือยัง?”
“ค่ะ” ละมุนเอาลูกออกจากเต้าเขาเดินปรี่มาตรงหน้าแล้วย่อตัวอุ้มลูกออกไปจากอกแม่
“ไปอยู่ที่ห้องคนรับใช้อย่าเข้าไปเสนอหน้าข้างในอีก” เขารีบออกคำสั่งแก้เก้อก่อนจะเดินดุ่มออกไปจากห้อง ละมุนถอนหายใจติดกระดุมเสื้อเรียบร้อยลุกเดินไปห้องคนรับใช้ที่อยู่หลังบ้านตามคำสั่งเจ้านาย
งานเลี้ยงในสวนจัดขึ้นเลี้ยงอาหารสำหรับญาติที่มาร่วมต้อนรับทายาทคนใหม่จนค่ำ ละมุนไม่ได้ออกหน้าออกตาเพียงแต่ถูกเรียกให้เข้าไปอุ้มลูกพาขึ้นไปนอนบนห้อง
ช่วงกลางดึก
แสงสว่างจากนอกห้องเข้ามาแยงตาของคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงนอนของลูก ละมุนนิ่วหน้าปรือตามองไปยังประตูห้องกะพริบตาถี่เพื่อปรับแสงเห็นร่างหนาสวมเชิ้ตกางเกงขายาวเดินโซซัดโซเซเข้ามาภายในห้อง เธอผวายันตัวขึ้นนั่งหน้าตาตื่นก่อนจะเห็นชัดขึ้นว่าเป็นนพกุลสามีของสินีนาถพี่สาวของพสุธร
“คุณเข้าผิดห้องแล้วค่ะ” ละมุนบอกกับชายหนุ่มที่กำลังหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาข้างผนังห้อง
“เธอเป็นแม่นมของกร ไม่กลับไปเลี้ยงลูกที่บ้านเหรอ?”
“ดิฉันมานอนเป็นเพื่อนคุณหนูกรค่ะ”
“คุณย่าบอกว่าเธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวใช่ไหม คงลำบากน่าดูเลยนะ” น้ำเสียงทุ้มอ้อแอ้กับสายตาลอย ๆ ของคนมึนเมาดูไม่น่าไว้วางใจ ละมุนประหม่ารู้สึกอึดอัดไม่อยากให้เขาอยู่ในห้องนาน
“อยากได้เงินเยอะ ๆ ไปเลี้ยงลูกไหม?”
“ไม่ค่ะ ขอบคุณ” เสียงหวานรีบเอ่ยขึ้น นพกุลยิ้มกริ่มเหยียดกายยืนขึ้นก้าวเดินเชื่องช้า ละมุนมองหวาดระแวงแล้วก็เป็นอย่างที่เธอคิดเขาไม่ได้จะเดินออกจากห้องแต่กำลังเดินมาหาเธอที่เตียงนอน
“ออกไป!” กายบางเขยิบหนีก้นไปชนหมอนข้างดันแขนลูกจนผวาตื่นร้องไห้งอแงเสียงดัง