ตอนที่ 3 ว่าที่สะใภ้เล็ก
เทียนหอมที่เห็นความสนิทสนมของทั้งสองจึงเสียใจอย่างหนัก ยามที่ภรนีย์มาที่บ้านเธอจะเป็นฝ่ายหลบหน้า เพราะไม่อยากเห็นภาพที่บาดใจ พวกเขาคงกลับมาคืนดีกันในเร็ววัน
“เดินผ่านพี่ไปไม่เห็นพี่เหรอครับน้องเทียน”
“พี่ตรัย!” เทียนหอมเหม่อลอยไม่รู้ว่าตอนนี้เธอเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูรั้วบ้านของพิชญ์ภาชา
“เดินเหม่อลอยคิดถึงพี่อยู่เหรอครับ” ตรัยคุณส่งยิ้มให้สาวสวยตรงหน้า เขาเอ็นดูเทียนหอมรู้จักตั้งแต่หญิงสาวยังเป็นเด็ก แต่ไม่ค่อยได้พูดคุยกันเท่าไรนัก
“น้องเทียนว่างไหมครับ”
“พี่ตรัยเข้ามาในบ้านก่อนนะคะเทียนทำของหวานไว้เยอะ ฝากไปให้คุณป้าทานด้วยค่ะ”
ทั้งสองนั่งพูดคุยกันอย่างออกรส ตรัยคุณเพิ่งกลับมาจากเรียนต่อต่างประเทศ เขาคิดไว้ว่าหากกลับมาแล้วเทียนหอมยังไม่มีใครเขาว่าจะขอหญิงสาวเป็นแฟน เพราะเขาไม่สามารถลืมหญิงสาวได้เลย
“อร่อยครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
“น้องเทียนไม่คิดจะเรียนต่อเหรอครับ”
หญิงสาวเป็นเด็กกตัญญูเขาส่งสารที่ต้องทำงานช่วยแม่ตั้งแต่เด็ก อนาคตยังไปได้ไกลกว่านี้
“คงไม่แล้วค่ะแม่อยากกลับไปอยู่บ้านแล้ว เทียนว่าอีกสัก 2 ปีจะพาแม่กลับไปอยู่บ้านค่ะ”
“แล้วเราจะไม่ได้เจอกันอีกเลย” ตรัยคุณพูดเสียงเบาเขากลัวสิ่งนี้มากที่สุด เขาไปเรียนเกือบสี่ปีก็รีบกลับมาทันทีเพื่ออยากเจอหน้าเทียนหอม
“น้องเทียนพี่บอกตามตรง ว่าพี่ชอบน้องเทียนคุณแม่พี่ท่านก็ไม่รังเกียจหากพี่จะคบกับเทียน” ตรัยคุณตัดสินใจบอกความในใจไป หากหญิงสาวตอบตกลงเขาจะไม่ให้เทียนหอมต้องทำงานหนักอีกเลย
“พี่ตรัยเทียนเคารพพี่แบบพี่ชาย”
“อย่าเพิ่งตัดสินใจตอนนี้เลยให้โอกาสพี่ได้ไหม”
ขาจับมือของเทียนหอมไว้ทั้งสองข้างพูดความในใจออกมาจนหมด จากความเอ็นดูกลายเป็นความรักแบบคนรักกัน เขาไม่คบใครแบบจริงจังเพราะอยากขอโอกาสจากเทียนหอม
“เทียนว่า...”
“งานการไม่ทำมานั่งพลอดรักกับผู้ชาย!” เสียงทรงอำนาจดังขึ้นจนทั้งสองคนต้องผละออกจากกัน เมื่อเจ้าของบ้านเดินเข้ามาแทรกตรงกลางทำให้เทียนหอมต้องถอยออกมาห่างๆ
“คุณ!”
.
พิชญ์ภาชาโมโหเขาเดินตามหาหญิงสาวทั่วบ้านแต่ก็ไม่พบ จึงเดินมาดูประตูหลังบ้านแถวห้องพักคนงาน ต้องมาเห็นภาพบาดตาเทียนหอมกำลังจับมือกับผู้ชายคนอื่นในบ้านของเขา
“คือไม่ใช่แบบนั้นนะคะ”
“ยังจะเถียงกลางวันยังทำขนาดนี้กลางคืนจะขนาดไหน”
“คุณควรให้เกียรติน้องเทียนด้วยนะครับ น้องเขาไม่ได้ทำอะไร” ตรัยคุณไม่ชอบคนตรงหน้าที่กำลังต่อว่าเทียนหอม
“น้อง? เธอมีพี่ชายตั้งแต่เมื่อไรหรือพี่น้องท้องชนกัน” พิชญ์ภาชาหันไปถามเทียนหอม เขาไม่ชอบที่หญิงสาวสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่น และดูเหมือนว่ามันจะชอบเทียนหอมมากเสียด้วย
“คุณพีทคุณกำลังเข้าใจผิด” เทียนหอมรู้สึกเสียใจที่ถูกเขาต่อว่าต่อหน้าตรัยคุณ
“ผมตรัยคุณครับอยู่บ้านข้างๆ คุณ”
“ไม่อยากรู้จัก กลับไปได้แล้วอย่าเข้ามาในบ้านผมอีก และอย่าพาเด็กของผมใจแตก” เขาใจเย็นที่สุดแล้วไม่อย่างนั้นเขากับมันคงวางมวยกัน หน้าตามันดีไม่น้อยแถมเหมือนจะรวยแต่น้อยกว่าเขา
“พี่ตรัยกลับไปก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวพี่โทรหานะครับ” ตรัยคุณมองหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง ทำไมพิชญ์ภาชาต้องไม่พอใจขนาดนั้นพวกเขาไม่ได้ทำอะไรเสียหาย
“ตามฉันขึ้นไปบนห้อง อย่าช้าไม่อย่างนั้นแม่ของเธอรู้เรื่องทั้งหมดแน่”
“คนเลว” เทียนหอมเช็ดน้ำตาเขาเดินจากไปแล้ว หากเขาทำตามที่พูดจริงๆ คนที่เสียใจก็คือแม่ของเธอ หญิงสาวจึงยอมเดินตามเขาขึ้นไปบนห้อง รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างพิชญ์ภาชาไม่ใช่คนใจเย็นขนาดนั้น
หญิงสาวเดินมาหยุดที่ปลายเตียงเห็นพิชญ์ภาชากำลังสูบบุหรี่อยู่ที่ริมระเบียง เธอก้มหน้าลงเมื่อเขาหันมามองไม่นานต้องสะดุ้งเพราะแรงกระชากของเขา
“เทียนเจ็บค่ะ”
“พูดไม่เคยจำว่าห้ามอยู่ใกล้ผู้ชายมีผัวคนเดียวมันไม่พอหรือไง”
“เทียนยังไม่มีสามีค่ะ กับพี่ตรัยเราไม่ได้ทำอะไรเสียหาย”
“หึ ปกป้องมันใช่ไหม” พิชญ์ภาชาโกรธที่เทียนหอมเข้าข้างผู้ชายคนอื่น เขาปลดกระดุมชุดแม่บ้านที่เธอสวมใส่ออกเผยให้เห็นหน้าอกอวบที่มีบราเชียร์ห่อหุ้มไว้
“อย่าทำเทียนเลยนะคะ”
“รังเกียจ? หรือได้กับมันแล้ว”
“เทียนกับพี่ตรัยเราเป็นแค่คนรู้จักกัน”
“ดีจำเอาไว้ว่าเธอเป็นของฉัน” เขาปลดตะขอบลาเชียร์และดึงออกมาจากตัวของหญิงสาว ฟันขบเม้มไปตามร่องหน้าอกและดูดเม็ดบัวแรงๆ จนเกิดเสียงดังใบหน้าของเขาแทบจะจมหายเข้าไปในหน้าอกของเทียนหอม
“อ๊ะ...เทียนไม่ใช่ของคุณ”
“เดี๋ยวก็รู้ว่าเป็นหรือไม่เป็น”
“อย่าทำ ไม่เอา” เทียนหอมส่ายหน้าเมื่อเขาดึงแพนตี้ออกจากสะโพกของเธอ เขาจับเรียวขาอ้าออกกว้างแล้วแทรกใบหน้าเข้าไป
ลิ้นอุ่นชิ้นสัมผัสกับกลีบกุหลาบสีสวยที่มีน้ำไหลเยิ้มออกมา มือหนาขยี้เม็ดเสียวจนแดงเถือก เขาชอบเขาหลงใหลในตัวของเทียนหอม แม้จะผ่านเรื่องแบบนี้มาโชกโชนแต่เขาไม่เคยทำแบบนี้ให้ใครมาก่อนแม้กระทั่งคนรักเก่า
“อื้อ คุณพีทอย่าทำ” เทียนหอมร้องด้วยความเจ็บเมื่อเขาดันนิ้วเขามาในรูร่อง และขยับนิ้วเข้าออกเมื่อเห็นว่าเธอเริ่มทรมานเขายิ่งอยากแกล้ง
“ตกลงเธอเป็นของใครเทียนหอม”
“อย่า...หยุดนะคะ” หญิงสาวขัดใจเล็กน้อยเมื่อเขาหยุดขยับนิ้วจนเธอต้องกัดปากตัวเองไว้ เพราะตอนนี้ร่างกายของเธอกำลังต้องการเขา
“ตอบฉันมา”
“เป็นของคุณค่ะ”
“ดี จำให้ขึ้นใจว่าเธอเป็นผู้หญิงของฉัน”
พิชญ์ภาชาลุกขึ้นมายืนปลายเตียงเขาจัดการเสื้อผ้าออกจากตัวจนไม่เหลืออะไรปิดกาย มือหนาเปิดลิ้นชักและหยิบเครื่องป้องกันมาฉีกแล้วสวมใส่ ในเมื่อกลัวจะท้องเขาก็จะป้องกันให้
“ไม่อยากท้องไม่ใช่เหรอฉันก็ป้องกันให้แล้วไง”
“อ๊ะ...อื้อเจ็บ” ไม่ว่าเขาจะเข้ามาบ่อยแค่ไหนแต่ความใหญ่โตของเขาทำให้เธอเจ็บแสบ จนอยากให้เขาหยุดแต่พิชญ์ภาชาไม่เคยปรานีเธอเรื่องบนเตียงเลยสักครั้ง เขาเอาแต่ใจและตักตวงความสุขจากเธอจนไม่มีแรงลงจากเตียง
พิชญ์ภาชาครางเสียงกระเส่ายามที่รูร่องบีบรัดตัวตนของเขาแน่น เขาไม่ชอบยามที่มีสิ่งกรีดขวางเมื่อเทียนหอมเผลอเขาจึงแอบถอดเครื่องป้องกันออก
เนื้อแนบเนื้อแบบนี้ถึงจะฟิน เขาตักตวงความสุขจากร่างกายของเธอจนเมื่อพอใจแล้วจึงปล่อยให้เทียนหอมกลับลงไปด้านล่างเพราะหายเข้ามาในห้องของเขานานหลายชั่วโมงเดี๋ยวคนในบ้านสงสัย
“ฉันจะทำยังไงกับเธอดีนะเทียนหอม”
.
เย็นวันศุกร์สัปดาห์บ้านของพิชญ์ภาชาก็ได้ต้อนรับแขกอีกครั้ง ซึ่งเป็นคุณหญิงอมราและคุณโทมัสพ่อแม่ของเจ้าของบ้าน ที่กลับมาจากต่างประเทศและแวะมาเยี่ยมลูกชายคนเล็ก
“ตาพีทพาสาวที่ไหนมา”
“สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่จำได้พั้นช์ได้ไหมคะ ภรนีย์” หญิงสาวเมื่อรู้ว่าพ่อแม่ของเขาจะมาทานข้าวที่บ้าน เธอจึงขอมาด้วยเพราะคิดถึงพวกท่าน ครั้งหนึ่งเธอเคยสนิทกับแม่ของพิชญ์ภาชา
“หนูพั้นช์กลับมาเมื่อไรจ๊ะ”
“สักพักแล้วค่ะ”
“แล้วทำไมถึงมาด้วยกันได้” อมราแปลกใจเพราะลูกชายบอกว่าเลิกรากับคนรักไปนาน แต่ไม่ได้บอกเหตุผลว่าเพราะอะไร
“พั้นช์กำลังตามจีบพีทอยู่ค่ะ”
“เราไปนั่งทานข้าวแล้วพูดคุยกันดีกว่าจ๊ะ”
ลูกชายก็ยังโสดแถมอายุก็มากขึ้นทุกวัน หากทั้งสองกลับมาคบกันอมราก็ไม่ห้าม ภรนีย์ก็เป็นลูกชายคนใหญ่คนโต เด็กคนนี้สวยน่ารักช่วงเวลาที่เลิกกับพิชญ์ภาชาไปก็ลูกชายก็ไม่ยอมมีคนใหม่คงจะรอภรนีย์กลับมา
คุณอมราและคุณโทมัสเห็นด้วยกับการที่ภรนีย์กลับมา และสนับสนุนให้ทั้งสองแต่งงานกันโดยเร็ว เพราะพวกเขาอยากอุ้มหลาน ถึงแม้ว่าจะมีหลานจากลูกชายคนโตแล้วถึงสองคนก็ตามแต่พีเทอร์ ก็มีแต่ลูกสาว อยากได้หลานชายเพื่อไว้สืบสกุลบ้าง
.
“สรุปจะกลับมาคบกันเหรอลูก”
“คุณแม่คิดว่าไงครับ”
“แม่ชอบหนูพั้นช์นะอยากให้ลูกแต่งงานไวๆ” อมราพยายามจับคู่ให้ลูกชายตลอด แต่พิชญ์ภาชาก็หัวแข็งตั้งแต่ยังเด็ก จนเลิกวุ่นวายกับชีวิตของพิชญ์ภาชาไป
“น้ำค่ะคุณผู้หญิง” เทียนหอมได้ยินทุกอย่างพยายามไม่ให้แก้วน้ำร่วงจากมือ
“หนูเทียนเหรอโตเป็นสาวแล้วสวยเสียด้วย”
“ขอบคุณค่ะ”
อมราเริ่มไม่ใจลูกชายตัวเองแล้วเทียนหอมกับประภาเคยอยู่ทำงานในบ้านของอมรามาก่อน ก่อนที่จะให้มาช่วยดูแลบ้านของพิชญ์ภาชา
พิชญ์ภาชาไม่ใช่คนเจ้าชู้แต่มีสาวสวยอยู่ร่วมชายคาคงมีสักวันที่ลูกชายจะคว้าเอามาไว้แก้เหงา เหมือนเทียนหอมจะพยายามหลบสายของพิชญ์ภาชาอยู่ตลอดเวลา
“หนูเทียนสวยไหมลูก”
“ครับ” เขาไม่ตอบเพราะรู้อยู่แล้วว่าเทียนหอมนั้นสวยแค่ไหน ยิ่งเวลาไม่ช่วยอะไรยิ่งสวยจนเขาไม่สามารถทิ้งไปไหนได้
“ถ้าว่าที่ลูกสะใภ้ของแม่ไม่มีอะไรเลยแม่จะรังเกียจไหมครับ”
“ถามแม่แบบนี้ว่าที่สะใภ้เล็กคงไม่ใช่หนูพั้นช์ใช่ไหม”
“ผมแค่ถามดูครับกลัวคุณแม่รังเกียจ”
“แม่จะรังเกียจคนที่ลูกรักทำไม”
หากเป็นแบบนั้นจริงๆ เสียดายภรนีย์ไม่น้อยแต่ตอนนี้ไม่เห็นลูกชายจะควงใคร อาจจะแค่อยากลองใจคนเป็นแม่
.
“เทียนหอมฉันอยากดื่มน้ำ”
“หมดเวลาทำงานของเทียนแล้วค่ะ” ตาที่บวมช้ำหลังจากผ่านการร้องไห้ เธอพยายามประคองสติเพื่อทำงานตัวเองให้เสร็จ
“ใจร้ายจัง ใจร้ายกับผัวได้ลงคอ”
“อย่าพูดแบบนี้อีกนะคะเดี๋ยวคนได้ยิน” ตอนนี้พ่อแม่ของเขาก็ยังอยู่ในบ้าน หากเข้ามาได้ยินเธอกับแม่จะลำบาก ยิ่งคิดเรื่องนี้น้ำตาจะไหลออกมาอีกรอบ
เทียนหอมต้องอยู่ในบ้านและเห็นทุกอย่างที่ทำให้เธอเจ็บปวด เมื่อได้ยินพ่อแม่ของพิชญ์ภาชากดดันให้เขาแต่งงานกับภรนีย์ เธอรู้สถานะตัวเองดีและพยายามคิดหาทางออกให้ตัวเอง เธอเริ่มเข้าใจว่าสถานะของเธอไม่มีความหมายใดๆ ต่อพิชญ์ภาชา
“รินน้ำให้ฉันหน่อย”
“ไม่ค่ะ”
พิชญ์ภาชาไม่พอใจเมื่อเทียนหอมเริ่มแข็งข้อกับเขา เขาจะเดินตามหญิงสาวไปแต่ถูกพ่อเรียนไว้ก่อน เลยจำใจต้องนั่งคุยกับพ่อ
“จะจริงจังกับใครเราต้องชัดเจนนะ”
“คุณพ่อหมายถึงอะไรครับ”
“ไม่ได้รักหนูพั้นช์ก็บอกอย่าให้ความหวัง” โทมัสเคยอาบน้ำร้อนมาก่อน เขาเห็นแววตาของพิชญ์ภาชาเหมือนกำลังมีใครบางคนทำให้ตกหลุมรัก แต่เจ้าลูกชายดันไม่รู้ใจตัวเอง
“ผม...”
“ผู้หญิงเขาต้องการความชัดเจน มัวแต่ช้าระวังของมีค่าจะหลุดมือไป”
พิชญ์ภาชาไม่เข้าใจว่าพ่อของเขากำลังพูดถึงใคร เรื่องของเทียนหอมเขายังไม่แน่ใจมีเวลาตัดสินใจอีกนาน หากวันไหนเขาเบื่อหญิงสาว เขาจะให้เงินสักก้อนไปตั้งตัวจะได้ไม่ต้องไปลำบากที่ไหน
.
อ้วก
เสียงอาเจียนดังออกมาจากห้องน้ำส่วนตัวในห้องนอนของเทียนหอม หญิงสาวเกาะขอบอ่างไว้แน่นช่วงนี้เธอไม่ค่อยสบายและทานอาหารได้น้อยลง ไวต่อกลิ่นยามที่ได้กลิ่นอาหารเธอมักอยากอาเจียน
“เทียนป่วยเหรอ”
“เทียนปวดหัวด้วยจ้ะ”
“วันนี้นอนพักนะเดี๋ยวแม่ไปแจ้งเจ้านายให้” ประภาสังเกตว่าช่วงนี้เทียนหอมดูซูบผอมลงเล็กน้อย ใบหน้าหมองคล้ำเหมือนคนนอนไม่ค่อยหลับ
“มีอะไรเล่าให้แม่ฟังได้นะ”
“เทียนไม่ได้เป็นอะไรจ๊ะ นอนพักคงจะดีขึ้น” เทียนหอมล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นแล้วทิ้งตัวลงนอน เธออยากถามเขาว่าเรื่องเขาจะทำอย่างไรต่อ แต่ช่วงนี้พิชญ์ภาชาทำตัวห่างเหินกับเธออีกครั้ง
ทางด้านพิชญ์ภาชากำลังประชุมด้วยความตึงเครียดเมื่อรถหรูล็อตล่าสุดมีปัญหา เขาถูกสำนักข่าวจับตามองและหลายๆ หน่วยงานจ้องจะเล่นงานเพราะเขาถูกหาว่านำรถหรูเข้ามาจำหน่ายแบบหลบเลี่ยงภาษี จนเขาต้องหาข้อสรุปกับปัญหา
ทำให้เขาต้องกลับไปนอนเพ้นต์เฮาส์ใกล้บริษัทและไม่มีเวลาโทรหาเทียนหอม เขาพยายามคิดทบทวนความรู้สึกตัวเอง จึงอยากลองห่างกับเทียนหอม
“คุณภรนีย์ขอเข้าพบค่ะ”
“ครับ”
“คุณแจมผมส่งข้อมูลไปในเมลรบกวนคุณเป็นธุระให้ผมหน่อยนะครับ” เขาปิดอีเมลแล้วเงยหน้ามองคนที่เข้ามาใหม่ ภรนีย์โทรหาเขาตั้งแต่เช้าแต่เขายังไม่ว่างรับสาย
“ไปทานข้าวเที่ยงกันนะคะ”
“อืม” ทั้งสองคนเดินออกมาพร้อมกันทำให้พนักงานเริ่มจับกลุ่มนินทา และคิดว่าภรนีย์คงเป็นตัวจริงไม่นานคงจะได้รับข่าวดี
.
พิชญ์ภาชากลับเข้ามาในบ้านตอนดึกเขาอยากเจอหน้าเทียนหอม แต่กลับเจอแม่ของหญิงสาวที่รอเปิดประตูให้เขาปกติหน้าที่ตรงนี้จะเป็นเทียนหอม
“ลูกสาวป้าไปไหนครับ”
“เทียนไม่สบายค่ะวันนี้ลางาน”
แค่คำว่าไม่สบายทำให้พิชญ์ภาชาเป็นห่วง เขาไม่รู้เลยว่าเทียนหอมไม่สบาย หญิงสาวไม่เคยโทรไปบอกเขาและไม่เรียนร้องจนเขาเริ่มกลัวใจตัวเองขึ้นมา
“เป็นอะไรครับ”
“ท้องเสียค่ะ เห็นบ่นปวดหัวด้วย”
“ครับ” พิชญ์ภาชาเลือกที่จะไม่ถามต่อเพราะกลัวว่าแม่ของเทียนหอมจะจับได้ พิชญ์ภาชามานั่งดื่มเหล้าเงียบที่เค้าน์เตอร์บาร์ สักพักหูของเขากลับได้ยินเสียงเหมือนกำลังมีคนรื้อค้นข้าวของในห้องครัว
เขาแอบเดินย่องเข้ามาเตรียมจะเข้าชาร์ต แต่ต้องหยุดเพราะเห็นเทียนหอมกำลังวุ่นวายอยู่หน้าเตา
เธอหิวรอบดึกเพราะมื้อเย็นทานข้าวลงไปได้นิดเดียวก็อาเจียนออกมา จึงออกมาอุ่นข้าวต้มที่แม่ทำไว้ให้ตอนเย็นคงคิดว่าพิชญ์ภาชาคงไม่ได้กลับมานอนพักที่บ้าน คิดถึงตรงนี้ความอ่อนแอก็เข้ามาทันที
“อุ๊ย คุณพีทมาตั้งแต่ตอนไหนคะ”
“ป้าบอกว่าเธอไม่สบาย”
“ค่ะ” เทียนหอมเลือกที่จะตัดบทไม่อยากอยู่ใกล้เขาอีกต่อไป เขาโกหกบอกจะแต่งงานกับเธอแต่พอคนรักเก่ากลับมาก็ทิ้งเธอ เธอเจ็บแล้วไม่รู้จักจำ
“มานั่งกินดีๆ” ช่วงนี้เทียนหอมดูผอมลงเขาไม่ค่อยได้รังแกเธอเท่าไร ทำไมถึงป่วยไปได้พิชญ์ภาชาดึงร่างบางให้มานั่งบนตักเขา
“ปล่อยค่ะเทียนจะกินข้าว”
“นั่งนิ่งฉันจะป้อน”
เทียนหอมได้กลิ่นแอลกอฮอล์มาจากลมหายใจของเขาจึงหยุดดิ้น กลัวว่าเขาจะทำอะไรมากกว่านี้วันนี้เธอไม่มีแรงจะต่อกลอนกับเขา
พิชญ์ภาชาป้อนข้าวต้มให้เทียนหอมกินจนเกือบหมดชาม แต่เขาไม่ยอมปล่อยให้เทียนหอมกลับห้องพัก พิชญ์ภาชาอุ้มเธอขึ้นมายังห้องนอนของเขาแทนแล้ววางเธอลงบนเตียงอย่างทะนุถนอม
“พรุ่งนี้ตี4 ฉันจะปลุกคืนนี้นอนห้องฉัน พรุ่งนี้ถ้าไม่หายฉันให้ลางานเพิ่ม”
“ขอบคุณค่ะ”
“ฉันขอโทษที่ช่วงนี้ไม่มีเวลาให้เธอเลย” พิชญ์ภาชาเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมา เขายังจัดการกับความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ แถมยังมีปัญหาเรื่องงานที่ถาโถมเข้ามาพร้อมกัน
“เพราะคุณจะแต่งงานกับคุณพั้นช์ใช่ไหมคะ?”
“เทียนหอมฉัน...”
“ถ้าคุณไม่คิดจะรับผิดชอบคุณก็ไม่ควรให้ความหวังเทียน ฮึก เทียนมีความรู้สึกเจ็บเป็นเหมือนกัน” เสียงสะอื้นของเทียนหอมทำให้พิชญ์ภาชานั่งมองหญิงสาว เขาควรกอดเธอไว้แน่นและพูดอะไรสักอย่างก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปกันใหญ่
“เทียนฉันขอโทษ”
“เทียนเกลียดคุณคนเห็นแก่ตัว!” ไม่รู้อะไรทำให้เธอใจกล้าลุกขึ้นมาตบหน้าเขาอย่างแรง แม่เคยเตือนเธอเรื่องฐานะตอนนี้เธอเข้าใจมันแล้ว
“เทียนหอมอย่าไป”
“ปล่อยเทียนคนใจร้ายเทียนเกลียด เกลียด”
“เธอรักฉันต่างหาก” เขาได้ยินคำว่าเกลียดออกจากปากของเทียนหอม เหมือนคนเอามีดมากรีดที่หัวใจจนมันเกิดเป็นแผล เขาไม่ได้รักแต่ไม่สามารถปล่อยเทียนหอมไปไหนได้
“ปล่อยเทียนจะกลับห้อง”
“เธอนอนในห้องฉันนี่แหละ ฉันจะออกไปนอนที่อื่น”
เขาออกไปแล้วสักพักเทียนหอมได้ยินเสียงรถของเขาวิ่งออกไป หญิงสาวเอาใบหน้าซบกับหมอนแล้วร้องไห้จนตัวสั่น เสียงสะอื้นดังออกมาอย่างน่าสงสารหากคืนนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอกับเขาคงไม่มาถึงขั้นนี้
“คนใจร้ายมาให้ความหวังเทียนทำไม”
หญิงสาวร้องไห้จนเหนื่อยและผล็อยหลับไป จนเข้าสู่ห้วงความฝัน คืนนั้นเองมีเด็กสองคนยืนเรียกเธออยู่หน้าบ้าน พร้อมกับร้องไห้งอแงจะขอมาอยู่ด้วยสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี พอเธอรับปากเด็กทั้งสองจึงวิ่งเข้ามาเกาะขาเธอแน่นพวกเขาหน้าตาน่ารัก แถมหน้าคล้ายกับผู้ชายใจร้ายคนนั้นอีก จนเธอสะดุ้งตื่นเมื่อนาฬิกาปลุกตอนตีสี่
