บทที่ 2 เจรจาต่อรอง
ทันทีที่อินทิราเดินออกมาจากประตูหลังไนต์คลับชื่อดัง GlowPer Club สองขากำลังก้าวเดินผ่านกลุ่มคนจำนวนมากเพื่อไปยังรถยนต์ซีดานคันเก่ากลางใหม่ที่จอดรออยู่
“ทิราทำไมขึ้นไปนานแบบนี้ แล้ว…”
ร่างอวบอิ่มของน้ำผึ้งเพื่อนสนิทก็วิ่งเข้ามาหาและจับมือเธอ อินทิราหันไปมองด้วยความตกใจ
“ฉันบอกให้รอบนรถไม่ใช่เหรอทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้”
อินทิราขมวดคิ้วมองหน้าเพื่อนสนิท และเมื่อเห็นทั้งสีหน้าและแววตาวิตกกังวลก็กลับกลายเป็นเธอเองที่พูดไม่ออก
“กลับไปที่รถก่อน” หญิงสาวประคองร่างอวบอิ่มของเพื่อนสนิทไปถึงรถยนต์ที่จอดดับเครื่องยนต์อยู่
“ฉันเป็นห่วงแกเห็นขึ้นไปนาน” น้ำผึ้งเอ่ยออกมาพร้อมกับมองหน้าเธอ สายตาฉายแววมีความหวัง
“ได้เจอเจ้าของร้านไหม ใช่คนที่เราหาข้อมูลกันมาหรือเปล่า”
อินทิรามองเพื่อนที่พยายามทำตัวเข้มแข็งสุดกำลัง แต่ดูยังไงเธอก็ดูออกว่าน้ำผึ้งแทบจะร้องไห้อยู่รอมร่อ ร่างกายที่ดูอวบอิ่ม แต่โครงหน้ากลับซูบผอม แววตาไม่แจ่มใสเหมือนเคย
“อย่าร้อง เดี๋ยวขึ้นรถแล้วคุยกัน” อินทิราบอกเพื่อนพร้อมกับวางฝ่ามือลงไปบนหน้าท้องที่ยื่นนูน
น้ำผึ้งกำลังตั้งครรภ์ลูกคนแรก อายุครรภ์แปดเดือนเนื้อตัวมือเท้าเรียกว่าบวมไปหมด
ทั้งที่เธอบอกให้รอที่บ้าน แต่น้ำผึ้งก็รั้นอยากจะมาด้วยกัน
สามีก็ต้องอยู่ดูปัญหาที่ร้านทิ้งร้านมาไม่ได้ สุดท้ายอินทิราจำใจต้องให้เพื่อนสนิทนั่งรถจากระยองเพื่อเข้ามากรุงเทพฯ มาด้วยกันกับเธอ
เธอยัดน้ำผึ้งเข้าไปในรถยนต์ปิดประตูเรียบร้อยกำลังจะเดินกลับมาประจำที่นั่งฝั่งคนขับเพื่อขับรถกลับบ้านเรา
“คุณทิราครับ” เสียงเรียกก็ดังมาจากด้านหลัง ทำให้มือที่กำลังเปิดประตูรถยนต์ทิ้งลงข้างตัวทันที
“นายฝากของมาครับ…อาทิตย์หน้าจะนัดวันอีกทีครับ”
ซองหนังสีดำขนาดเท่าครึ่งฝ่ามือถูกยื่นมาตรงหน้าเธอ อินทิรามองมันด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก เธอมองเห็นตราสัญลักษณ์โรงแรมชื่อดังในจังหวัดระยอง
ในขณะที่สมองของอินทิรากำลังอื้ออึ้งเสียงเอะอะดังมาจากประตูบานเดิมที่หญิงสาวเดินออกมา
เธอจึงเหลือบมองไปทางนั้นก็เห็นกลุ่มคนจำนวนมากแหวกทางออกหลบกันไปตามมุมเพื่อเปิดทางให้ใครสักคน แล้วรถสปอร์ตคันหรูหนึ่งคันก็ขับมาจอดรอที่ประตูบานนั้น
“ผมมีธุระต้องไปทำต่อครับ” ธุระของผู้ชายชุดสูทสีดำคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ก็คงจะไม่พ้นเดินกลับไปหาคนที่เดินออกมาจากประตูนั่น
อินทิรามองสิ่งที่ลูกน้องของคีรินยัดมันใส่มือเธอไว้ ก่อนจะหมุนตัววิ่งกลับไปเปิดประตูรถให้เจ้านายของเขา
“มึงอย่าชักช้า…” คีรินเอ่ยปากพูดกับบูมลูกน้องคนสนิท และปรายตามองมาที่ผู้หญิงที่รีบร้อนจบดีลลับของเรา
เสียงที่หลุดออกมาจากริมฝีปากบางเฉียบทำให้ลูกน้องหลายคนตรงนั้นขยับกายกันอย่างกระตือรือร้น
คีรินสูบเอาบุหรี่ที่เหลืออยู่ครึ่งมวนเข้าไปเต็มปอด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพ่นควันขาวให้มันลอยคลุ้งอยู่บนอากาศ
มุมปากหยักของเขายกขึ้นเมื่อได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงเดินเข้ามาประชิดใกล้
อินทิราคงไม่รู้สึกอะไรมากหากเธอไม่มาเห็นภาพตรงหน้า มือเธอบีบของที่อยู่ในมือแน่น หัวใจของหญิงสาวกระหน่ำเต้นแรง และมันก็รู้สึกหน่วงหนึบไปพร้อมกัน
ร่างกายของเธอคล้ายโดนแช่แข็ง เธอคงจะไม่คิดอะไรมาก และไม่คิดอะไรเลย หากผู้หญิงคนนั้นกับคีรินไม่ได้สวมกอดกันอย่างแนบแน่นและขึ้นรถออกไปด้วยกัน
