บทที่5 ซื้อของเข้าบ้าน
"มันจะเป็นไปได้ยังไง พี่เพิ่งจะปลูกเองนะ"หยางชินเลยเดินออกไปดูตรงแปลงผักก็เห็นตามที่น้องสาวบอก
'สงสัยเป็นเพราะน้ำในบ่อแนๆเลย ' นี้ขนาดผสมนะ หรืออาจต้องลดปริมาณลง
"เห็นมั้ยเจ้าค่ะ แบบนี้เราก็กินไม่ทันสิ"หลินหลานเดินตามพี่สาวออกมาก็เอ่ยอย่างสงสัย ผักเยอะแบบนี้จะกินทันได้ไง
"งั้นพรุ่งนี้เก็บเอาไปขายด้วยแล้วกัน พรุ่งนี้เราไปขายของกันทั้งสามพี่น้องนี้แหละ พี่ไม่อยากทิ้งไป๋หมิงให้ท่านแม่ เพราะแค่ท่านพ่อกับน้องเล็กก็เหนื่อยแล้ว"
"ได้เจ้าค่ะ พรุ่งนี้เราก็ตื่นมาเช้าหน่อยเพื่อตัดผัก ได้ไปตลาดไม่สาย"
เมื่อตกลงกันเสร็จ สองพี่น้องก็เดินกลับเข้าบ้านไปอาบน้ำพักผ่อน เพราะอยากรีบนอน หยางชินเลยพาน้องสาวทั้งสองเข้าไปอาบน้ำในมิติ ก่อนจะเข้านอนแต่หัวค่ำด้วยความเคยชิน
พอน้อง ๆ หลับ หญิงสาวก็เข้าไปในมิติเพื่อเอาตำราต่าง ๆ ที่อยู่ในหีบออกมาอ่าน มันเป็นตำรารักษาจริง ๆ ด้วย แถมมีสมุนไพรตากแห้งเก็บไว้อย่างดี หญิงสาวยิ่งตั้งใจศึกษาตำราเพื่อเอามารักษาบิดา ในตำรามีบอกอย่างละเอียดจนหญิงสาวสามารถเข้าใจได้ง่าย และยังมีตำรายาสมุนไพรรักษาโรคต่าง ๆ ด้วย นางอ่านและเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่เขียนในตำรา นางอ่านและนึกภาพตาม แถมยังจำได้หมดด้วย พออ่านได้พอสมควรก็เก็บตำราแล้วออกจากมิติเพื่อพักผ่อน พรุ่งนี้ยังมีงานให้ทำอีกเยอะ โดยไม่รู้เลยว่ากำไลมิติส่องแสงสว่างแล้ว แสงสว่างก็ไหลเข้าไปในร่างหญิงสาว
ตอนเช้ามืดฟ้ายังไม่สว่าง สองพี่น้องก็ช่วยกันตัดผักใส่ตะกร้าเพื่อเตรียมเอาไปขาย
พอตัดเสร็จก็เตรียมตัวจะออกเดินทาง เพราะตัวเมืองต้องใช้เวลาเดินถึงสองชัวยาม(4ชั่วโมง)กว่าจะถึง แถมพวกนางยังเป็นเด็กสาวอีกด้วย
หยางชินรับหน้าที่หาบตะกร้าผักทั้งสองตะกร้าใหญ่ ส่วนหลินหลานรับหน้าที่แบกไป๋หมิงไว้บนหลัง โดยผูกผ้าพันอกและเอวไว้กันน้องตก
สองพี่น้องเร่งเดินทางเพื่อให้ทันตลาดเช้า หยางชินหาบตะกร้าผักด้วยความอดทน หญิงสาวคิดในใจ วันนี้นางจะต้องซื้อวัวเทียมเกวียนหรือรถม้าให้ได้ นางหาบของไปขายแบบนี้ตลอดไม่ได้แน่ ๆ
ระหว่างทางก็เห็นชาวบ้านบางคนเดินทางไปในเมืองเช่นกัน แต่หญิงสาวได้แต่ยิ้ม ๆ แล้วเร่งเดินทางต่อ โดยไม่หยุดพูดคุย ตอนนี้นางเหนื่อยมาก ไหล่จะหลุดอยู่แล้ว นี่ขนาดเอาผ้ารองที่บ่าไว้ด้วยยังรู้สึกเจ็บอยู่เลย
เดินมาถึงตัวอำเภอเมืองก็จ่ายค่าผ่านทางคนละ 3 อีแปะ แล้วเดินไปทางตลาดตามความทรงจำของร่างเดิม พอเดินมาถึงก็ไปหาคนดูแลเพื่อจ่ายค่าเช่าแผง แล้วทั้งสามพี่น้องก็ได้แผงขาย สองพี่น้องเอาผักออกมาวางแล้วอีกแถบก็เอาเนื้อหมูป่าออกมาวาง
"หมูป่านี้ขายยังไงหรือแม่ค้า?" มีคนเดินมาแล้วเห็นหมูป่าเนื้อแดงสดน่ากินเลยแวะถาม
"จินละ 35 อีแปะเจ้าค่ะ..ผักก็มีนะเจ้าคะ จินละ 6 อีแปะ"
"งั้นเอาเนื้อหมูมา 3 จิน และเอาผักกาดกับกวางตุ้งมาอย่างละ 1 จินแล้วกัน" เมื่อมีลูกค้ารายแรก คนต่อไปก็ตามมา
"ผักเจ้าดูสดน่ากินมาก หัวไชเท้าก็หัวใหญ่ เจ้ามาขายทุกวันหรือไม่?"
"ไม่แน่ใจเจ้าค่ะ ต้องดูผักก่อนว่าจะโตทันมั้ย แต่พวกข้าพี่น้องจะพยายามมาให้บ่อยเจ้าค่ะ"
"ดีๆ!."
สองพี่น้องช่วยกันขายหยางชินขายหมูส่วยหลินหลานขายผักโดยผูกไป๋หมิงไว้ข้างหลังทำให้ทำขายของเป็นไปด้วยความรวดเร็ว
พอขายหมดทั้งสองพี่น้องก็เก็บตะกร้าและอุปกรณ์การขายแล้วเดินไปหาร้านขายยาเพื่อเอาเห็ดหลินจือไปขาย
เดินมาเห็นร้านโอสถก็เดินเข้าไป
"มาซื้อหรือมาขาย?"คนแก่ที่นั้งหน้าร้านเห็นเด็กสาวทั้งสามก็ถามเพราะร้านโอสถนี้มีีทั้งคนมาหาซื้อและชาวบ้านนำสมุนไพรมาขาย
"ข้าเอาสมุนไพรมาขายเจ้าค่ะ"หยางชินตอบอย่างสุภาพ
"งั้นมาทางนี้..นั่งก่อน แล้วพวกเจ้าเอาอะไรมาขายละ ร้านข้าให้ราคาเป็นธรรมไม่ต้องกลัวว่าจะโดนเอาเปรียบนะ"ชายชราตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
หยางชินนำเห็ดหลินจือดอกใหญ่ออกมาดอกหนึ่ง พอชายชราเห็นก็ตื่นเต้น "นี้มันเห็ดหลินจือแดงนี้! "
"ท่านตาจะให้ราคาเช่นไรเจ้าค่ะ?"
"เห็ดหลินจือแดงเป็นสิ่งที่หายาก ข้าให้ดอกละ220ตำลึงเงิน เจ้าคิดว่าไง?"
หยางชินไม่รู้ราคาของสมุนไพรพวกนี้เลยขายแค่ดอกเดียวก่อน
"ข้าขายเจ้าค่ะ"
เมื่อตกลงกันได้เจ้าของร้านโอสถเลยจ่ายเงินให้กับหญิงสาว
"ท่านตา ไม่ทราบว่าตลาดค้าสัตว์อยู่ตรงไหนหรือเจ้าค่ะ"
"ตลาดค้าสัตว์เหรอ เดินไปทางทิศใต้ก็เจอแล้วละ "
"ขอบคุณมากเจ้าค่ะ"
สามพี่น้องออกจากร้านโอสถก็เดินไปตามที่เถ้าแก่ร้านขายยาบอก แต่ว่าไหนๆก็ผ่านร้านค้าแล้วหญิงสาวเลยแวะซื้อทั้งเสื้อผ้าและผ้าห่มให้ครบทุกคนแล้วไม่ลืมซื้อพวกธัญพืชต่างๆตามที่น้องสาวบอก ก่อนจะฝากที่ร้านค้าไว้ก่อนเดี๋ยวพวกนางมาเอา
เมื่อเดินมาถึงตลาดค้าสัตว์ หยางชินก็รู้สึกเหม็นกลิ่นมูลสัตว์แต่ก็ต้องเดินดูสัตว์ที่ตนเองอยากได้ แล้วไป๋หมิงก็สะกิดพี่สาว
"หมิงเอ๋อมีอะไรเหรอ! "
"พี่ใหญ่..เลี้ยงไก่ด้ายไหม?" เด็กน้อยเห็นไก่ก็นึกอยากได้
"ได้สิ!.เดี๋ยวพี่ซื้อให้ เอาสัก 10 ตัวไว้ให้พวกมันออกไข่ ดีมั้ย?"
"ดีเจ้ากะ"
เดินมาถึงคอกวัว ก็นึกถูกใจวัวคู่หนึ่ง เลยลองถามราคา
"เถ้าแก่?..วัวคู่นี้เท่าไร?"
"ตัวผู้ขายตัวละ 40 ตำลึงเงิน ส่วนตัวเมีย 60 ตำลึงเงิน เป็น 100 ตำลึงเงินพอดี"
"แล้วถ้าติดเกวียนด้วยเท่าไรเหรอเถ้าแก่?"
"ข้าคิดเพิ่มอีก 40 ตำลึงเงิน มีหลังคาให้ด้วย"
หยางชินคิดแล้วก็ตัดสินใจซื้อ ระหว่างรอเอาวัวเทียบเกวียนก็เดินไปซื้อไก่ให้น้องสาว แม่ไก่ตัวละ 80 อีแปะนางเลยซื้อมา 10 ตัว ได้ไก่ให้น้องสาวก็เดินกลับมาที่เกวียนแล้วหัดบังคับวัวจนเป็น ค่อยๆบังคับวัวให้ไปเอาของตามร้านค้าที่ตัวเองฝากของไว้
สามพี่น้องนั่งยิ้มพูดคุยกันอย่างมีความสุข หยางชินซื้อซาลาเปาไส้หมูให้น้องๆ กินเป็นมื้อกลางวัน ก่อนจะเอานมออกมาให้ทั้งสองดื่ม ไป๋หมิงที่นั่งเกวียนวัวเป็นครั้งแรกก็ตื่นเต้น แต่สักพักหนูน้อยก็ง่วงนอนเพราะได้เวลานอนกลางวัน แถมนั่งเกวียนเขย่าไปมาทำให้เด็กน้อยหลับไปในที่สุด หลิงหลานเลยเอาผ้าที่ผูกน้องตอนเดินทางมาคลุมตัวน้องสาวเพราะไป๋หมิงนอนหนุนตักนางอยู่
เวลายามเว่ย (15:00-16:59) หยางชินที่เพิ่งหัดบังคับเกวียนต้องค่อยๆ ให้วัวเดินช้าๆ จึงทำให้เดินทางกลับมาถึงหมู่บ้านใช้เวลานาน นางค่อยๆ บังคับเกวียนวัวผ่านหมู่บ้านไปท้ายหมู่บ้าน ช่วงเวลานี้ชาวบ้านยังทำไร่ทำนาอยู่ในแปลงนาเลยไม่มีใครทันได้เห็นว่าหยางชินผ่านหมู่บ้าน จนมาถึงบ้านที่ท้ายหมู่บ้าน หญิงสาวก็ลงจากเกวียนแล้วจูงวัวเดินตามก่อนจะมาจอดที่หน้าบ้านแล้วค่อยๆ เอาของลง ส่วนหลิงหลานก็เดินไปปิดประตูหน้าบ้าน ไป๋หมิงที่ตื่นนอนก่อนมาถึงหมู่บ้านก็วิ่งไปหามารดาเพื่อให้มาดูเกวียนวัวของครอบครัว
"ทังแม่! ทังแม่!"
"ว่าไงลูก?.อย่าเสียงดังเดี๋ยวน้องตื่น"พอได้ยินว่าน้องจะตื่นไป๋หมิงก็ทำท่าเอามือปิดปากแต่ก็ยังจุงแขนมารดาออกมานอกบ้าน
"มิงมิงมีไก่ พี่ใหญ่ให้เจ้ากะ"ชี้ให้มารดาดูซุ่มไก่ที่มีไก่10ตัวอยู่ในนั้น
"ชินเอ๋อซื้อเกวียนวัวมาเหรอลูก"นางเห็นเกวียนพร้อมวัวอีกหนึ่งคู่ บุตรสาวนางไปขายของได้มามากน้อยแค่ไหนกันถึงซื้อวัวเทียบเกวียนได้
"เจ้าค่ะ..เผื่อเราต้องไปในเมืองได้สะดวก"นางจะไม่ยอมเดินเท้าเข้าเมืองอีกอย่างแนนอน
เมื่อเอาของลงหมดหยางชินก็จุงวัวไปที่คอกแล้วเอาแผ่นตะแกงมาทำเป็นกรงให้ไก่อยู่แบบง่ายๆให้อยู่ข้างๆคอกหมูป่าที่พอเห็นนางก็วิ่งมาหาอย่างดีใจนางเลยเทน้ำในมิติให้พวกมันกิน ส่วนที่อยู่ไก่ก็ตามสภาพเพราะนางทำกรงไม่เป็น ไป๋หมิงก็นั่งเฝ้าดูไก่ของตัวเองอย่างอารมณ์ดี หลินหลานเลยเอาข้าวเปลืองให้น้องสาวไว้ให้ไก่จิกกิน
ทั้งวัวและไก่อยู่ในคอกแล้วนางก็นำน้ำดื่มออกมาให้พวกมันกิน ในนิยายพวกสัตว์พอกินน้ำวิเศษแล้วจะฉลาดขึ้น สัตว์นางก็น่าจะต้องฉลาดขึ้น
เสร็จจากงานคอกวัวก็เดินมาดูแปลงผักที่ยังมีผักอยู่ในแปลกอีกเล็กน้อย เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยลงผักชุดใหม่ ครั้งนี้ต้องวางแผนให้ดี ให้ผักค่อยๆทยอยเก็บไปขายได้ทุกวัน ครอบครัวนางได้มีรายได้ทุกวัน
เดินเข้ามาในบ้านก็เห็นมารดาจัดเก็บข้าวของที่ซื้อมา นางเลยเอาเงินมาให้มารดาเก็บ
"นี้เจ้าค่ะ 74ตำลึงเงินกับอีก86อีแปะ เป็นเงินที่ขายหมูป่ากับผักและลูกยังเอาเห็ดหลินจือไปขายถึงมีเงินมาซื้อวัวเทียมเกวียนและข้าวของต่างๆเจ้าค่ะ"
"เหลือเยอะขนาดนี้เลยเหรอลูก"นางไม่คิดว่าหมูป่าสองตัวจะขายได้เงินเยอะถึงหมูป่าจะตัวใหญ่ก็เหอะ
"หมูป่าสองตัวหนักเกือบ7ร้อยจิน(350กิโลกรัม)ต้องทำเงินได้เยอะอยู่แล้วเจ้าค่ะขนาดเศษกับเครื่องในที่เราเอามาถนอมไว้กินวันหลังยังได้ตั้ง5ไห แถมลูกยังเอาเห็ดหลินจือออกมาขายเพื่อจะซื้อเกวียนเจ้าค่ะ ลูกบอกตามตรงว่าเดินไปในเมืองไม่ไหวขอมีเกวียนใช้ แฮะแฮะ"นางบอกมารดาตามตรง ชูเม่ยพอฟังบุตรสาวคนโตพูดก็นึงสงสารปนเอ็นดู
"จ้ะ..แม่ไม่ว่าลูกหลอก ก็ลูกเป็นคนหาเงินนี้หน่า"
นางยังซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ผ้าฝ้ายมาใหทุกคนคนละ3ชุด ชุดกันหนาวให้อีกคนละ2ชุด พร้อมเครื่องนอนหน้าหนาวอีกคนละชุด ส่วนน้องชายถึงจะมีชุดเครื่องนอนในมิติพร้อมเสื้อผ้าแต่ก็เป็นชุดไม่ได้ทนความหนาวมากนางเลยซื้อผ้ามาให้มารดาเย็บชุดให้น้องชาย ส่วนเครื่องปรุงนางไม่ซื้อเลยเพราะในมิตินางมีครบทุกอย่าง ซื้อแต่ธัญพืชและไหเอาไว้เตรียมใส่ของกินรับหน้าหนาว อยากจะนั้งพักแต่งานก็มีมากเหลือเกิน ชาติที่แล้วนางไม่เคยต้องมาลำบากขนาดนี้เลยนะ นางต้องขึ้นเขาไปหาฟืนมาเก็บไว้ให้มากๆ
"ท่านแม่ ข้าจะขึ้นเขาไปเก็บฟืนนะเจ้าค่ะ"
"นี้มันบ่ายแล้วนะลูก จะขึ้นเขามันจะเย็นเอานะ"
"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าแค่ไปหาเก็บฟืนเฉยๆเผื่อเจอผักป่าได้เอามาทำมื้อเย็นด้วย"พูดจบก็เดินออกจากบ้านไปทางภูเขาโดยมีเจ้าเสี่ยวมาวตามไปด้วยอย่างรู้งาน
"ข้าไปด้วยเจ้าค่ะ"หลินหลานวิ่งตามพี่สาวไปเพื่อไปชวยเก็บฟืนมาเก็บรับหน้าหนาว ส่วนไป๋หมิงกำลังเฝ้าไก่ที่คอกวัวไม่สนใจตามพี่ๆขึ้นเขา
สองพี่น้องเดินขึ้นเขามาก็มองหากิ่งไม้แห้งเพื่อเอามาตัดทำฟืน เสี่ยวมาวร้องเรียกให้เจ้านายตามมันไป หญิงสาวที่เห็นผลงานมันมาแล้วเลยไว้ใจเดินตามมันไป
"พี่ใหญ่ เราจะไปไหนหรือเจ้าค่ะ"หลินหลานถามพี่สาวเพราะเห็นพี่สาวเดินอย่างไม่สนใจรอบข้าง
"เดินไปก่อน "เพราะนางเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เดินไปก็จำเส้นทางไปด้วย
แล้วอยู่ๆเสี่ยวมาวก็หยุด หยางชินมองรอบๆก็เห็นมีไม้แห้งเยอะและยังมีกอหน่อไม้ด้วย หน่อไม้สามารถเอามาถนอมอาหารได้ด้วย
