บท
ตั้งค่า

บทที่6 เตรียมเสบียงรับหน้าหนาว

หยางชินเดินไปตัดกิ่งไม้แล้วเก็บเข้ากำไลมิติ เมื่อมีเลื่อยขนาดพอดีมือนางก็ทำงานเพลิน จนมองเข้าไปในมิติเห็นว่ามีเยอะพอสมควร เลยชวนน้องสาวไปขุดหน่อไม้เอามาใส่ในตะกร้า ดีนะที่มีความทรงจำจากร่างเดิม ไม่งั้นนางคิดไม่ออกแน่ๆ ว่าหน่อไม้จะเอามาทำอะไรได้.

นอกจากหน่อไม้นางยังได้ผักป่าอีกหลายชนิดเอาไปทำกับข้าวเย็นนี้ พอเห็นเวลาเริ่มเย็นมากก็ชวนน้องสาวกลับบ้าน.

"เย็นแล้วกลับกันเถอะ.. เสี่ยวมาวกลับบ้านได้แล้ว" เสี่ยวมาวที่ไล่จับแมลง พอได้ยินเจ้านายเรียกก็วิ่งกลับมาหาแล้วพากันลงเขากลับบ้าน แล้วเอาฟืนไปเก็บในห้องเก็บฟืนจนเต็มห้อง 'ค่อยอุ่นใจหน่อย' ยังเหลือถ่าน เดี๋ยวตอนจะไปในเมือง ค่อยซื้อมา.

ชูเม่ยทำมื้อเย็นเสร็จก็เรียกทุกคนมากินข้าว ​ส่วนตัวนางเองก็นำอาหารไปป้อนสามีและเช็ดตัวให้ ทุกคนในบ้านต่างรู้หน้าที่ของตัวเอง

กินมื้อเย็นเสร็จ หยางชินเตรียมมานั่งทำหน่อไม้ นางต้องทำให้เสร็จก่อนเพราะพรุ่งนี้นางยังมีงานในแปลงผักต้องทำ หน่อไม้นี้สามารถเอามาต้มแล้วใส่เครื่องเทศ แล้วเอาไปหมักลงไหได้ ไหนจะต้มแล้วขูดเป็นเส้น ๆ แล้วเอามาตากแดดจนแห้ง จะเก็บไว้กินได้อีกนาน.

หลินหลานก็มาช่วยพี่สาวด้วย โดยมีไป๋หมิงนั่งเล่นอยู่ใกล้ๆ พวกพี่สาว สองพี่น้องนั่งทำจนค่ำ กว่าจะปอกเปลือกหน่อไม้แล้วเอามาหั่นเป็นชิ้นบางๆ บ้าง หรือไม่ก็ต้มทั้งหน่อให้สุก ค่อยเอามาขูดเป็นเส้นๆ แล้วใส่เครื่องเทศเก็บใส่ในไห บางส่วนเอามาใส่ตะแกรงไว้ตากตอนเช้าให้แห้งแล้วเก็บไว้กิน จนยามห้าย (21:00-22:59) ก็ทำจนเสร็จแล้วหมักใส่ไห หยางชินยกไปเก็บไว้ในห้องเก็บเสบียงขนาดเล็ก.

ชูเม่ยเดินออกมาดูบุตรสาวหลายครั้งแต่ก็จนใจจะช่วยได้เพราะนางต้องคอยเลี้ยงบุตรชายคนเล็ก ถ้ามาจับหน่อไม้ก็กลัวขนหน่อไม้จะทำให้บุตรชายคนเล็กละคายเคืองผิว ได้แต่มาพาบุตรสาวคนเล็กไปอาบน้ำแล้วเอาไปนอนในห้องด้วยเพราะดึกมากแล้ว ตอนแรกนางจะไม่อาบน้ำให้บุตรสาวคนเล็กตามความเคยชิน แต่บุตรสาวคนโตบอกให้อาบน้ำน้องได้นอนสบายตัวขึ้นนางเลยเอาน้ำที่ต้มเช็ดตัวสามีมาผสมอาบให้บุตรสาวคนเล็ก

พอทำงานวันนี้เสร็จก็หมดแรงทั้งคู่ แต่หยางชินต้องให้น้องสาวอาบน้ำ เพราะกลัวน้องจะคันจากขนของหน่อไม้.

เมื่ออาบน้ำเสร็จ หัวถึงหมอน ทั้งสองก็หลับทันที เพราะความเหนื่อย.

เช้ามาหยางชินก็ตื่นตามเวลาเดิมด้วยความเคยชิน หญิงสาวรู้สึกปวดเมื่อยเลยดื่มน้ำจากบ่อทำให้รู้สึกสดชื่นและไม่ปวดเมือยเหมือนเมื่อครู่ นางอยากลองเอาผักและผลไม้เข้าไปปลูกในมิติ แต่ยังไม่มีเวลาเลย

เข้ามาให้ครัวก็เตรียมจุดเตาเพื่อหุงข้าว นางตรวจร้านค้าในมิติก็นำหมูสามชั้นออกมาเพื่อเอามาทำอาหาร ก่อนจะเดินออกไปในแปลงผักเก็บผักที่ยังหลงเหลือเอามาทำมื้อเช้า ระหว่างรอต้มสามชั้นได้ที่ นางก็ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู มือคู่นี้หยาบกร้านเพราะทำงานหนักตลอด ในอดีตนางไม่เคยต้องมาทำอะไรแบบนี้เลย ดูตอนนี้สิ ดีหน่อยที่ครอบครัวนี้อบอุ่นแบบที่ชาติที่แล้วนางไม่เคยมี พอจะชดเชยกันไปได้บ้าง ระหว่างที่คิดอะไรเพลินๆ มารดาก็เดินออกมา.

"มีอะไรให้แม่ช่วยมั้ยลูก?"นางออกมาเพื่อจะช่วยบุตรสาวทำอาหารและต้มน้ำเตรียมไปเช็ดตัวให้สามี

"ไม่เป็นไรเจ้าคะท่านแม่ เหลือแค่ต้มหมูสามชั่นกับหัวไชเท้า เดี๋ยวก็ต้มน้ำให้ท่านพ่อได้แล้วเจ้าค่ะ "

"ช่วงนี้แม่ว่าเจ้าทำงานเยอะไปมั้ยลูก ?เกือบจะไม่ได้พักเลย!"

"หน้าหนาวไกล้เข้ามาแล้ว ลูกอยากเตรียมให้พร้อมเจ้าคะ ถึงเวลานั้นหิมะลงเราจะทำอะไรไม่ได้ ถ้าไม่มีอาหารเตรียมสำรองไว้เราแย่แนเจ้าค่ะ" นางจำได้หน้าหนาวของที่นี้หนาวมากจนหิมะตก ผู้คนจะเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในบ้าน ทุกปีครอบครัวนางจะเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้องกินกันวันละมื้อเพราะท่่่นย่าบอกไม่ได้ทำงานเพราะฉะนั้นก็ต้องกินให้น้อย แต่ละหน้าหนาวร่างเดิมต้องทนหิวกว่าจะผ่านไปได้แต่ละปีไม่ใช้ง่าย เมื่อนางข้ามมาแล้วจะไม่ยอมให้ตัวเองอดอยากเป็นเด็ดขาด ของในมิติก็มี แต่สัตว์เลี้ยงนี้สิ หรือนางจะเอาไปเลี้ยงในมิติช่วงหน้าหนาวดี ไว้ค่อยคิด

พอกับข้าวเสร็จก็ต้มน้ำต่อ ชูเม่ยเลยนำข้าวไปให้สามีกิน เมื่อเย็นสามีนางพอมีแรงสามารสตักข้าวกินเองได้บ้าง หยางชินไม่ลืมที่นำน้ำในมิติให้มารดาไปให้บิดาดื่ม บิดานางบาดเจ็บสาหัสมากเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นอัมพาตได้เลย ตอนนี้ขยับตัวได้ถือว่าดีมากแล้ว

หลินหยางกับไป๋หมิงเดินออกมาก็ได้กลิ่นหอมของต้มหัวไชเท้ากับหมูสามชั่นพร้อมผัดผักป่าที่เก็บได้บนเขาเมื่อวาน

"มากินข้าวเช้าได้แล้ว "หยางชินเรียกน้องๆมากินข้าวเช้า

"สะใภ้สาม..อยู่มั้ย?"

อยู่ๆหน้าบ้านก็มีเสียงเรียก หยางชินเลยเดินออกไปดู

พอเดินมาเปิดประตูหน้าบ้านก็เห็นป้าสะใภ้ใหญ่ยืนอยู่ ในความทรงจำป้าสะใภ้นี้คอยแต่จะเอาเปรียบครอบครัวนาง มาครั้งนี้คงไม่มีเรื่องดีแน.

"ป้าสะใภ้..มีอะไรหรือเจ้าค่ะ"ดูหน้าตาก็รู้ไม่ใช้คนดี

"เป็นเจ้าก็ดีเลย..เมื่อวานเจ้าขับเกวียนกลับมาหรือ?" เมื่อวานมีชาวบ้านเห็นว่าหยางชินบังคับเกวียนวัวกลับมาในหมู่บ้าน บ้านสามเอาเงินมาจากไหนถึงมีวัวเทียมเกวียนได้?

"แล้วทำไมหรือเจ้าค่ะ? บ้านใหญ่ตัดขาดบ้านสามเราแล้ว ทางเราจะมีอะไรมันไม่เกี่ยวกับท่านแล้วนะ ตอนที่พวกข้าลำบากไม่เคยเห็นบ้านใหญ่มาช่วยเหลืออะไร "จะมาเอาเปรียบครอบครัวเธอเหมือนอดีตเหรอ ไม่มีทาง เฮอหยางชินคนใหม่ไม่ใช่ลูกพลับนิ่มที่ให้ใครมาเอาเปรียบได้

พวกเจ้าทำไมไม่รู้จักกตัญญูท่านปู่ท่านย่าเลย ข้ารู้นะว่าเมื่อวานเจ้าเอาของกลับมามากมาย ควรจะเอาออกมากตัญญูบ้างสิ

ข้าไม่มีอะไรจะกตัญญูทั้งนั้นแหละเจ้าค่ะ กว่าพวกข้าจะมีเงินต้องใช้ความสามารถแลกมา ไม่ใช่อยู่ๆ มันจะลอยมาจากฟ้าเมื่อไร แล้วไหนจะท่านพ่อที่นอนเจ็บไม่รู้จะรักษาหายไหม ตอนนั้นพวกท่านเห็นว่าบ้านสามเราลำบากถึงขนาดจับพวกเราแยกบ้านตัดปัญหา แถมไม่ได้แบ่งอะไรมาให้พวกเราอีกด้วย แล้วตอนนี้จะมาถามว่าความกตัญญู ถ้าท่านฝันอยู่ก็ตื่นซะ!.ไม่มีอะไรแล้วข้าขอตัว มีงานต้องทำอีกมาก ไม่ได้อยู่เฉยๆแล้วรอของมันลอยเข้ามือมา"พูดจบไม่รอให้ป้าสะใภ้โต้ตอบก็ปิดประตูใส่แล้วเดินเข้าไปที่แปลงผัก ไร้สาระจริงๆเสียเวลาทำมาหากินหมด

"ใครมาเหรอลูก แม่ได้ยินเสียงคุยกันดังเชียว"ชูเม่ยได้ยินคนเรียกแต่ก็ติดว่ากำลังเช็ดตัวให้สามีเลยไม่ได้เดินออกมาดู พอเช็ดตัวเสร็จเอาอ่างออกมาเทก็เห็นบุตรสาวเดินเข้ามาพอดี

"ป้าสะใภ้ใหญ่เจ้าคะ พอรู้ว่าเรามีของก็จะมาแบ่งเอาไปโดยอ้างความกตัญญู ข้าไม่ให้ใครทั้งนั้น ของที่ข้ากว่าจะหามาได้ "ตอนนางไม่สบายท่านแม่อุสาบากหน้าไปขอความช่วยเหลือบ้านใหญ่ยังไม่มีน้ำใจช่วย แล้วตอนนี้จะมาให้นางกตัญญู

"มันจะไม่มีปัญหาตามมาเหรอลูก?"นางกลัวสะใภ้ใหญ่จะไม่ยอมจบเรื่องง่ายๆ

"ถ้าไม่ยอมจบข้าจะจัดการเอง ท่านแม่ไม่ต้องกลัวเจ้าค่ะ"นางมั่นใจว่าเอาอยู่แนนอน

"ข้าจะเข้าไปที่แปลงผักนะเจ้าคะ เผื่อพรุ่งนี้ได้เอาผักไปขายในเมืองอีก"ถึงครอบครัวนางจะมีของไม่ขาดแคลน แต่ตำลึงเงินก็ยังต้องมีเผื่อไว้ยามฉุกเฉิน นางเดินไปในแปลงผักส่วนน้องสาวทั้งสองก็ไปให้อาหารสัตว์ที่เลี้ยงในคอก

รอบนี้นางต้องวางแผน เริ่มแรกทำร่องผักใหม่ส่วนแปลงที่ยังมีผักก็ค่อยเอาน้ำในมิติมารดจะได้เกิดผลผลิตให้นางเก็บไปขายอีก พอเตรียมแปลงผักใหม่แล้วลงเมล็ดผัก ครั้งนี้นางลงเหมือนครั้งที่แล้วแต่เพิ่มหัวกะหล่ำ แล้วไม่ลืมรดด้วยน้ำในบ่อมิติ พรุ่งนี้เช้านางคงได้เก็บเอาไปขายในเมืองเหมือนทุกครั้ง

กว่าจะเสร็จงานแปลงผักก็ยามอู่(11:00-12:59)เพราะน้องสาวทั้งสองมาช่วยด้วยอีกแรง นางเลยชวนน้องๆเข้าบ้านไปกินมื้อกลางวันแล้วพาน้องสาวทั้งสองนอนกลางวัน น้องสาวทั้งสองยังอยู่ในวัยกำลังโตจะให้ชวยทำงานหนักตลอดไม่ได้ พอน้องๆหลับกันแล้วนางก็เดินเข้าไปหาบิดามารดาในห้อง

"ชินเอ๋อ..มานั่งก่อนลูก ปลูกผักเสร็จแล้วหรือ?" ชูเม่ยที่กำลังทำกายภาพให้สามีตามที่บุตรสาวสอน นางเชื่อมั่นว่าสามีนางต้องหายจากการที่เห็นเขาขยับตัวได้

"ข้าได้ตำราฝังเข็มมาเจ้าค่ะ ลองศึกษาแล้วเลยอยากมาลองฝังเข็มให้ท่านพ่อดู" นางศึกษามาอย่างดีแล้วคิดว่าน่าจะทำได้ แถมรู้สึกเข้าใจมากด้วย ไม่รู้ทำไม

พอลงนั่งข้างๆ บิดาก็หยิบชุดเข็มออกมาแล้วจับตำแหน่งตามที่ได้อ่านมาพอเจอจุดก็เอาเข็มค่อยๆ ปั่นฝังลงไป

"รู้สึกอะไรมั้ยเจ้าคะ?"

"เหมือนร้อนๆ ตรงที่เจ้าลงเข็มนะ มันเหมือนเลือดไหลเวียนร้อนวูบๆ"

"ดีเจ้าค่ะ..ท่านพ่อทนหน่อยนะเจ้าคะ"

หยางชินค่อยๆฝังเข็มตามที่อ่านมา น่าแปลกที่นางจำตำแหน่งได้แม่น แถมลงเข็มอย่างมั่นใจ ผ่านไป2เค่อ นางก็ยกเข็มออกจากร่างบิดา

"พ่อรู้สึกเหมือนตัวเบาขึ้นมาก แถมยังมีแรงยกแขนขาได้อีกด้วยไม่รู้สึกอ่อนแรงแบบเมื่อเช้า ถึงจะไม่มากก็เหอะ"

"เป็นเพราะท่านพ่อบาดเจ็บหนักแถมยังทิ้งช่วงเวลาไว้อีก มันเลยต้องใช้เวลานะเจ้าคะ แต่ท่านเชื่อใจลูกสาวคนนี้ได้ว่าจะสามารสทำให้ท่านกลับมาเดินได้เหมืือนเดิมแนนอนเจ้าคะ"

"ดี..ดี พ่อเชื่อเจ้า"ผู้เป็นบิดาแค่เห็นบุตรสาวตั้งใจรักษาตนเองยิ่งอยากหายไวๆเพื่อไม่ทำให้ลูกเสียน้ำใจ

"เดี๋ยวลูกไปเอาน้ำอุ่นมาประคบตามแขนขาให้นะเจ้าคะ กล้ามเนื้อได้คลายตัว จะช่วยทำให้ขยับตัวได้ง่ายขึ้น"

ชูเม่ยที่เลี้ยงบุตรชายคนเล็กไปด้วยมองการกระทำของบุตรสาวไปด้วยก็เกิดความหวัง ตลอด6เดือนมานี้นางรู้สึกสิ้นหวังมากสงสารสามีที่ต้องมาบาดเจ็บสาหัตจนขยับตัวไม่ได้แถมยังโดนครอบครัวสามีบังคับแยกบ้านอีก ช่วงเวลานั้นบอกตามตรงว่านางมืดแปดด้านมองไม่เห็นแสงสว่างว่าจะพาครอบครัวรอดตายได้เช่นไร จนบุตรสาวคนโตหายจากไม่สบายก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน นางเชื่อมั่นในตัวบุตรสาวว่าจะพาครอบครัวผ่านวิกฤตนี้ได้แน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel