ตอนที่ 10
“ให้ของขวัญในวันวาเลนไทน์แบบนี้ หรือว่าน้องดรีมจะชอบแกวะ” คำนั้นทำให้คนฟังหน้าหงิกหนักกว่าเก่า
“ชอบกับผีสิ ใครจะไปชอบยัยนั่น น่ารำคาญจะตาย”
“งั้นของที่อยู่ในถุงนั้นฉันขอได้ไหม”
ดวงตาคู่คมลุกวาวขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“ทำหน้าแบบนี้อย่าบอกนะว่าหวงของ เกลียดตัวกินไข่นะ”
“ฉันกลัวแกท้องเสียต่างหาก”
“ให้มันจริงเถอะน่า” นัฐพลสัพยอก ก่อนที่จะรีบกลับไปที่นั่งเพราะเห็นอาจารย์เดินเข้ามาในห้องเพื่อเริ่มสอนคาบสุดท้ายของวันนี้ ก่อนปล่อยให้นักเรียนแยกย้ายกันไปเข้าชมรมทำกิจกรรม
จิรายุหันไปมองนาฬิกาที่บอกเวลาเย็นมากเลยเวลาเลิกเรียนแล้ว แต่ก็ไม่มีวี่แววคนที่มักจะมานั่งรอกลับบ้านพร้อมเขา คราวนี้พาฝันคงจะงอนมากทีเดียว แต่ใครสนกัน ยัยนั่นก็งอนเป็นกิจวัตรอยู่แล้ว
เด็กหนุ่มหันไปมองถุงคุกกี้ที่จำใจรับมา พลางนึกถึงคำพูดของเพื่อนรัก
‘ให้ของขวัญในวันวาเลนไทน์แบบนี้ หรือว่าน้องดรีมจะชอบแกวะ’
ชอบเหรอ...ยัยนั่นชอบเขาน่ะน่าจะใช่ ไหนจะพวกแม่ๆ ที่บ้านก็พร่ำบอกว่าพาฝันคือลูกสะใภ้ในอนาคต แต่เป็นเขาต่างหากที่ไม่อยากยอมรับ
“อ้าว...พี่จิมยังไม่กลับบ้านหรือคะ” เสียงหวานใสของใครบางคนดังขึ้นที่หน้าประตู
นัฐมลนั่นเอง วันนี้เสื้อของเด็กสาวไม่ได้มีสติ๊กเกอร์รูปหัวใจติดอย่างที่ควรเป็นทั้งที่เธอเป็นดาวโรงเรียนคนหนึ่งที่มีหนุ่มๆ หมายตาหลายคน
“แล้วน้องน้ำล่ะ วันนี้ซ้อมรำเสร็จแล้วเหรอ”
“เสร็จแล้วค่ะ แต่...เอ่อ...” สีหน้าคนพูดดูอึดอัดเหมือนมีอะไรบางอย่าง
“มีอะไรหรือเปล่า”
“ก็มีนิดหน่อยค่ะ คือว่า...พี่จิมช่วยน้ำหน่อยได้ไหมคะ”
“ช่วยอะไรเหรอ” นัฐมลมีท่าทีอึกอัก แต่สุดท้ายก็บอกออกไป
“ช่วยเป็นแฟนกับน้ำหน่อยได้ไหมคะ” จิรายุหันขวับ
“ว่าไงนะ!”
พาฝันนั่งชะเง้อมองหน้าต่างห้องชมรมดนตรีครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยังไม่มีวี่แววพี่ชายข้างบ้านว่าจะลงมาสักที แม้จะงอนเขาที่ถูกว่าเรื่องคุกกี้ไปตอนบ่าย แต่สุดท้ายเธอก็ยังรอที่จะกลับบ้านพร้อมเขาอยู่ดี
“ยังไม่กลับบ้านเหรอดรีม” ชรัญญาเพื่อนสนิทของเธอถาม หลังจากเก็บกระเป๋าเสร็จและเตรียมจะกลับบ้าน
“รอพี่จิมน่ะ แล้วแอมป์ล่ะจะกลับแล้วเหรอ”
“อืม เพิ่งเลิกชมรมน่ะ จริงสิ แล้วเมื่อบ่ายเป็นไงบ้าง ตกลงว่าได้ให้คุกกี้วาเลนไทน์คนที่ชอบหรือยังล่ะ” คนพูดยิ้มล้อ พลางดันกรอบแว่นให้กระชับกับใบหน้า
“ให้แล้ว...”
“จริงดิ แล้วเขารับไหม ตกลงเป็นแฟนกันยัง” สาวน้อยถามอย่างตื่นเต้นแทน
“รับแล้ว แต่เรายังไม่ได้สารภาพรักหรอก”
“อ้าว! ทำไมล่ะ หรือว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว” คำถามนั่นทำเอาพาฝันถึงกับอึ้งไป ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่น เพราะเธอไม่คิดถึงเรื่องนี้มาก่อนยังไม่ทันได้ตอบ พลันสายตาเธอก็หันไปเห็นคนที่กำลังรอเดินลงมาพอดี จึงรีบหันไปบอกเพื่อน
“นั่นพี่จิมเลิกชมรมแล้ว งั้นเดี๋ยวเรากลับก่อนนะ เอ๊ะ!”
พาฝันอุทานเบาๆ เมื่อเห็นว่าพี่ชายข้างบ้านไม่ได้เดินไปที่โรงเก็บจักรยานอย่างที่ควรเป็น แต่กลับเลี้ยวไปทางสวนหย่อมด้านหลังตึกชมรม และจากนั้นไม่นานเธอก็ได้เห็นใครอีกคนที่เพิ่งลงมาจากตึกอีกคนเดินไปทางเดียวกับพี่ชายข้างบ้านของเธอ
“อ้าว! นั่นมันพี่น้ำที่เป็นดาวโรงเรียนไม่ใช่เหรอ” ชรัญญาตั้งข้อสงสัย “ทำไมเขาเดินไปทางเดียวกับพี่ชายดรีมแบบนั้นล่ะ หรือว่า...เขาจะไปสารภาพรัก อ้าว! ดรีมจะรีบไปไหน...”
ชรัญญาถามได้แค่นั้น เพราะเพื่อนรักรีบผลุนผลันวิ่งออกไปจากห้องเสียแล้ว
พาฝันรีบวิ่งไปทางสวนหย่อมด้านหลังตึกกิจกรรมซึ่งตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้ว ไม่มีใครไปนั่งเล่นที่นั่น พอเธอไปถึงก็ได้พบคนที่เธอรอกลับบ้านพร้อมกันยืนอยู่กับใครอีกคน
พี่นัฐมลคนสวยประจำโรงเรียนคนนั้น
“พี่ชอบน้องน้ำ!”
ราวกับมีลูกศรที่มองไม่เห็นยิงตรงเข้ามาปักทะลุกลางอก พาฝันชะงักเท้ายืนตัวแข็งทื่อตาค้างอยู่ตรงมุมตึกนั้น หัวใจดวงน้อยปลิวหล่นวูบไปอยู่ที่ปลายเท้า
“ถ้าน้องน้ำยังไม่มีใคร เรามาลองเป็นแฟนกันไหม”
คำนั้นราวกับมีค้อนล่องหนทุบลงบนศีรษะพาฝันซ้ำอีกรอบจนสมองเธอมึนชาไปหมด
ที่แท้คนที่พี่จิมแอบชอบมาตลอดก็คือพี่น้ำคนนี้เองหรือ
