บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

เสียงกรี๊ดของพรพระพายดังขึ้นหลายครั้ง แม้เสียงมันจะถูกปิดกั้นด้วยหมอนอิง แต่สิปางกับแวนดี้ที่ตัดสินใจตามขึ้นมาเพราะไม่อยากให้พรพระพายอยู่คนเดียวก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่กำลังระเบิดออกมา รู้ว่าพรพระพายต้องอดทนอดกลั้น ฝืนยิ้มต่อหน้าใครต่อใคร ปากบอกว่าไม่เป็นไร ไม่สนไม่แคร์ แต่ในใจนั้นถูกแทงด้วยมีดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“ไอ้ผู้ชายเฮงซวย จะเลิกทำไมไม่บอกกันแต่เนิ่นๆ มาหายหัวเอาวันแต่งงานแบบนี้ได้ยังไง อย่าให้เจอหน้านะ แม่จะฆ่าให้ตายคามือ” พรพระพายกัดฟันกรอดๆ ใบหน้าสวยที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอย่างประณีตเพื่อให้สมกับการเป็นเจ้าสาวแสนสวยของงานมีแต่ความโกรธเกรี้ยว ความเสียใจมากมายอาจถ่ายทอดออกมาเป็นน้ำตา แต่เวลานี้พรพระพายกลับไม่มีน้ำตาที่ว่าสักหยด

“ผู้ชายอะไรหน้าตัวเมีย” สิปางพลอยเดือดเข้าร่วมผสมโรงไปกับพรพระพายด้วย นั่นเพราะเธอเองก็โกรธกับสิ่งที่ราเชนได้ทำวันนี้เหมือนกัน ดีแล้วที่พรพระพายเอ่ยแบบนี้ออกมา โกรธก็ด่าดีกว่าเก็บไว้ในใจโดยไม่ได้ระบาย

“นี่ก็อยากจะด่า แต่ฉันหาคำมาแทนความเลวผู้ชายคนนั้นไม่ได้จริงๆ” แวนดี้ยิ้มเจื่อนๆ เพราะคิดหาคำด่าราเชนที่เหมาะสมกับความเหี้ยที่เขาก่อไม่ได้จริงๆ ก่อนจะเดินตรงไปหาพรพระพาย

“พาย…แกเป็นไงบ้าง อยากพูดอยากระบายอะไรให้ฉันสองคนฟังบ้างไหม” เพราะสนิทกันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย แค่มองตาก็รู้ว่าอีกฝ่ายคิดหรือรู้สึกยังไง เวลานี้แวนดี้กับสิปางจึงสงสารพรพระพายมากที่สุด

ชีวิตของเพื่อน แม้จุดเริ่มต้นมันจะโรแมนติกเหมือนนิยายที่หญิงสาวธรรมดาๆ ได้มาพบรักกับหนุ่มหล่อจากสังคมโก้หรู นั่นทำให้การใช้ชีวิตของพรพระพายเปลี่ยนไปด้วย จากคนธรรมดาก็เริ่มเข้าสังคมเริ่มมีคนเรียกว่าไฮโซ

หลังแต่งงานทั้งสองใช้ชีวิตคู่ด้วยกันไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงด้วยซ้ำ พรพระพายก็ต้องเป็น ‘หม้าย’ เพราะภาคินเสียชีวิตในคืนส่งตัวเข้าหอ ผ่านมาหลายปีก็ได้พบรักครั้งใหม่และเมื่อชั่วโมงก่อนมันก็จบไม่สวย แต่ไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน พรพระพายก็ยังเป็นพรพระพายคนเดิม

“ไม่มีเลย ตอนนี้ฉันอึ้งมึนงงไปหมด ไม่เข้าใจว่าพี่เชนคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงทำแบบนี้” พรพระพายรู้สึกอย่างที่พูดจริงๆ นั่นเพราะไม่คิดว่ามันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับเธอ ความรู้สึกทั้งรักทั้งแค้นมันเป็นยังไง วันนี้เธอก็เพิ่งได้สัมผัสจนถึงแก่น

เธออายุยังไม่ถึงสามสิบปีเต็มด้วยซ้ำไป แต่ต้องเป็นหม้ายถึงสองครั้ง พรพระพายยิ้มเหยียดให้โชคชะตาที่แสนจะอาภัพของตัวเธอเอง

“ไม่ต้องไปคงไปคิดมันหรอก เพราะดูท่าแล้วอีตาพี่เชนเองก็คงไม่ได้คิดเหมือนกัน ไม่งั้นจะทำแบบนี้เหรอ” สิปางเอ่ยขึ้น นั่นเพราะเธอเองก็มองราเชนผิดไปเหมือนกัน อุตส่าห์หลงคิดว่าเขาเป็นคนดี รักพรพระพายจากใจจริง แต่สุดท้ายก็เลว!

“ไม่ได้คิดหรือคิดไม่ได้ว่าเรื่องที่ทำมันเลวร้ายต่อพายมากแค่ไหน โตแต่ตัวแถมยังมีสมองไว้แค่คั่นหูจริงๆ” น้ำเสียงของแวนดี้ติดเย้ยหยัน ความดีที่ราเชนเคยสร้างไว้ตอนนี้พังราบเป็นหน้ากลองไปแล้ว ก่อนหน้านี้ก็คงทำดีแค่สร้างภาพล่ะมั้ง เธอก็ตาถั่วเห็นกงจักรเป็นดอกบัว

“น่าจะทั้งสองอย่าง แต่ก็ดีแล้วที่งานแต่งงานวันนี้มันล่ม ดีกว่าแต่งกันไปแล้วธาตุแท้โผล่”

“ก็จริงอย่างที่สิปางพูดนะพาย ดีแล้วที่งานมันล่มเสียก่อน” แวนดี้เอ่ยเห็นด้วย อย่างน้อยๆ พรพระพายก็มีคุณพระคุณเจ้าคุ้มครอง เพราะท่านคงช่วยถีบส่งคนไม่ดีให้ออกไปจากชีวิต แต่ถ้าให้ดีท่านน่าจะถีบส่งก่อนหน้านี้สักหน่อย

“แล้วงานเลี้ยงเย็นนี้แกเอาไง ให้ฉันแจ้งยกเลิกกับทางโรงแรมไปเลยไหม” สิปางรอฟังคำตอบ เพราะเธอจะได้ช่วยจัดการให้

“ไม่ต้องหรอก”

“อ้าว! ทำไม” สีหน้าของแวนดี้ดูสงสัยว่าเพราะอะไรพรพระพายถึงยังไม่ยอมยกเลิกงานเลี้ยงเย็นนี้ สิปางเองก็พลอยสงสัยไปด้วยอีกคน

“จ่ายเงินค่าจัดงานไปหมดแล้ว ของก็ซื้อมาเตรียมไว้หมดแล้ว ถ้ายกเลิกเขาก็คงต้องทิ้ง เอางี้ไหม…” พรพระพายเสนอความคิดที่อยู่ๆ ก็แวบเข้ามาในสมอง ซึ่งสิปางกับแวนดี้ก็เห็นด้วยทันที

“ความคิดดี เริ่ด” แวนดี้ยกนิ้วโป้งให้เพื่อนรัก แม้จะเสียใจหนัก แต่พรพระพายก็ยังคิดถึงคนอื่น แบบนี้สวรรค์ไม่ส่งคู่แท้มาให้ก็ใจร้ายไปหน่อยแล้ว

“งั้นเดี๋ยวฉันเป็นธุระให้เอง” สิปางอาสา นั่นเพราะเธอรู้ว่าจะไปหาแขกคนสำคัญในค่ำคืนนี้ได้จากที่ไหน รับรองได้ว่าแขกทุกคนต้องประทับใจกับรสชาติของอาหารและเสียงเพลงเพราะๆ ที่จะบรรเลงขับกล่อมในงานแน่นอน

“ฝากด้วยนะสิปาง” พรพระพายเอ่ยขึ้น เพราะหลังจากนี้คงต้องไหว้วานให้เพื่อนทั้งสองคนจัดการแทน

“จ้ะ” คนสวยพยักหน้ารับ ก่อนจะปลีกตัวไปประสานงานให้ทัน โดยเริ่มจากโรงแรมก่อน เพราะต้องการให้พวกเขาเปลี่ยนเวลาจัดงานให้เร็วขึ้น จะได้สะดวกกับแขกที่เธอกำลังติดต่อเพื่อเชิญให้มางาน ส่วนแวนดี้ก็ช่วยพรพระพายเปลี่ยนชุด

“ฉันรักแกนะพาย” แวนดี้กอดพรพระพายไว้แน่น จากที่ไม่มีน้ำตาให้ร้องอยู่ๆ น้ำตามากมายก็พรั่งพรูไหลอาบแก้มนวล พรพระพายร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยน

“ร้องมาเถอะ อ่อนแอก็ร้องออกมาดีกว่าเก็บมันไว้” มืออุ่นๆ ของแวนดี้ลูบแผ่นหลังเนียนละเอียดของพรพระพายไปมา จากนั้นเธอก็แค่ยืนนิ่งๆ ปล่อยให้เพื่อนร้องจนพอใจ คนภายนอกที่ไม่รู้จักตัวตนของพรพระพาย จะมองว่าเธอเชิด เธอหยิ่ง เธอแรงและอื่นๆ ซึ่งแต่ละอย่างพุ่งไปในแง่ลบทั้งนั้น

แต่ถ้าพวกเขาได้รู้จักตัวตนจริงๆ จะรู้ทันทีว่าพรพระพายตรงข้ามกับลุคที่พวกเขาคุ้นชิน เธอคือเพื่อนแท้ เธอน่ารักและบางครั้งก็โก๊ะๆ ด้วยซ้ำไป

“ฉันโอเคแล้วแก” น้ำเสียงปนสะอื้นเอ่ยขึ้น เธอสลัดความเสียใจทิ้งแล้วพยายามดึงพรพระพายคนเดิมกลับมา เสียงสูดอากาศเข้าปอดดังขึ้นหนักๆ จากเธอพร้อมกับใช้หลังมือปาดน้ำตาออกไปจากแก้ม สัญญากับตัวเองว่าจะร้องไห้ให้กับเรื่องนี้เป็นครั้งสุดท้าย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel