บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

“เรย์ ลูกแม่” น้ำตาของผู้เป็นแม่เอ่อล้นขอบตา รัศมีเงยหน้าขึ้นมองเพดานเพื่อไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมาต่อหน้าลูกสาว เธอจะพยายามเอาชนะใจกษิดิศให้มากกว่านี้ อีกสองปีเธอกับสามีคนปัจจุบัน จะย้ายกลับไปอยู่เมืองไทย ตอนนั้นคงได้พบหน้าลูกชายมากขึ้น แค่ตอนนี้เขายอมรับสาย ยอมพูดคุยด้วย สำหรับเธอเพียงเท่านี้ก็มากพอแล้ว เพราะก่อนที่ทิมจะเสียชีวิต กษิดิศไม่ยอมติดต่อกับเธอด้วยซ้ำ แม้จะพบหน้าในงานศพของทิม ลูกชายของเธอยังเลี่ยงที่จะอยู่ใกล้กับเธอ คนเป็นแม่จึงทำได้เพียงแค่มองลูกชายอยู่ห่างๆ ในขณะที่เด็กชายตัวน้อยเติบโตเป็นหนุ่มใหญ่ รูปร่างกำยำเพราะการชกมวยตามผู้เป็นพ่อ

กษิดิศนั้นแข็งแกร่งเหมือนทิม ทั้งคู่ชื่นชอบการชกมวย ใครๆ ก็มักจะพูดว่ากษิดิศเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น รัศมีภูมิใจลึกๆ กับคำชมเหล่านั้น เธออยากคุยกับลูก อยากกอดลูก แต่ยิ่งเข้าใกล้มากเท่าไหร่ กษิดิศก็ยิ่งห่างเหินเธอออกไปมากเท่านั้น แต่หนึ่งเดือนหลังจากงานศพของทิม กษิดิศก็เป็นฝ่ายโทรศัพท์มาหาเธอ วันนั้นเธอทั้งตกใจ และตื่นเต้นมาก เพราะไม่คิดว่าลูกจะเป็นฝ่ายโทรมาหา

จากวันนั้นถึงวันนี้ทิมเสียชีวิตไปเกือบเจ็ดเดือนแล้ว แต่ไม่ว่าจะนานแค่ไหน เธอก็ยังรู้สึกขอบคุณทิมอยู่เสมอ ถึงแม้จะหย่าร้างกันไปแล้วก็ตามที เพราะเขาได้มอบสิ่งมีค่าให้เธอนั่นคือ “ลูก” การเสียชีวิตของทิมนั้นผิดธรรมชาติเนื่องจากเขาถูกลอบยิง กษิดิศให้ทางตำรวจสืบคดีนี้อยู่เพื่อสาวหาตัวคนร้ายที่ฆ่าพ่อเขา แต่นั่นดูเหมือนจะยังไม่เพียงพอ เพราะชายหนุ่มจ้างวานนักสืบฝีมือดีสืบข่าวนี้ ควบคู่ไปกับทางตำรวจเช่นเดียวกัน

เมื่อวางสายจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่เรียบร้อย กษิดิศก็เดินออกไปนอกบ้าน เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ก่อนจะหันมองไปยังมุมซ้ายของตัวบ้าน แล้วเดินลัดเลาะไปตามทางเท้าที่ตกแต่งด้วยหิน มีเงาต้นไม้น้อยใหญ่ทอดผ่าน วันนี้ผืนดินชุ่มชื้นเพราะฝนตก ต้นไม้ใบไม้เขียวขจีโดยรอบทางเท้าที่กษิดิศเดินอยู่นั้นจรดมาถึงรั้ว ขนาดใหญ่ ซึ่งทำหน้าที่กั้นพื้นที่บ้านและค่ายมวยให้แยกออกจากกัน รั้วนี้พึ่งสร้างได้ไม่นาน พร้อมล็อคกุญแจไว้แน่นหนาแถมยังโยนลูกกุญแจทิ้งไปอย่างไม่ใยดี แต่กลับเหมือนมีอะไรเรียกร้องให้เขาเดินมาหยุดที่ตรงนี้และก็ดูเหมือนจะบ่อยครั้งขึ้น ทั้งๆ ที่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่เหยียบเข้ามาใกล้อีก

“ฝันจะเป็นแชมป์โลกอย่างนั้นเหรอ ตลกสิ้นดี” ชายหนุ่มยิ้มเยาะให้ความฝันในอดีตของตนเอง เขาเคยโกรธพ่อที่ไม่ยอมให้ขึ้นชกจริงๆ สักครั้งเดียว แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าเพราะอะไรพ่อถึงห้ามแบบนั้น เขาต้องหัดควบคุมอารมณ์ตนเองให้มากขึ้นกว่านี้ไม่เช่นนั้นอนาคตบนเส้นทางนักมวยคงได้แค่ฝันและตอนนี้มันก็เป็นแค่เพียงความฝันจริงๆ

กษิดิศให้คำมั่นสัญญาว่าเขาจะควบคุมอารมณ์ตัวเอง แต่แล้วเขาก็ผิดสัญญาที่เคยให้ไว้กับพ่อ เพราะหลังจากพ่อเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ชายหนุ่มผู้ที่ทุกคนคิดว่าเข้มแข็งกลับอ่อนแอที่สุด เขาเป็นลูกที่ปากหนัก ไม่เคยบอกรักพ่อทั้งๆ ที่รักและผูกพันกันมาก เมื่อเสียพ่อไปเขาเหมือนคนขาดที่พึ่ง ขาดสติ และทำให้ชายคนหนึ่ง หมดซึ่งอนาคตในเส้นทางมวยที่เขาทุ่มเทให้ ยิ่งคิดชายหนุ่มก็ยิ่งเสียใจ

มือหนากำเข้าหากันแน่นก่อนจะหมุนตัวกลับ แต่ในจังหวะที่กษิดิศกำลังเดินเข้าประตูบ้านนั้น รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งก็ขับเข้ามาจอด ชายหนุ่มหันไปมอง ก่อนที่ผู้มาเยือนจะรีบจอดรถประจำตำแหน่ง พอก้าวลงจากรถได้ก็ยืนตรงทำความเคารพ

“สวัสดีครับคุณเรย์”

“มีจดหมายหรือโปสการ์ดใช่ไหมลุง” กษิดิศเอ่ยถามอย่าคุ้นเคย เพราะเขานั้นซื้อตัวไปรษณีย์คนนี้ไว้แล้ว เพื่อให้ส่งจดหมายหรือเอกสารทุกอย่างที่ถูกส่งไปยังบ้านของเอกณัฐมาที่เขาแทน ถึงจะอาศัยอยู่กันคนละเขต แต่ก็จัดการได้ไม่ยากขอแค่มีเงินเท่านั้น

“ทั้งสองอย่างครับ” ขณะพูดก็ยื่นจดหมายกับโปสการ์ดให้ชายตรงหน้า โปสการ์ดเขาพอจะเดาได้ว่าเป็นของไอริสา แล้วจดหมายละอย่าบอกนะว่ามาจากคนๆ นั้นอีก

“ขอบคุณมากครับลุง”

“ครับ” เสร็จธุระบุรุษไปรษณีย์พิเศษจึงทำความเคารพอีกครั้ง ก่อนขึ้นคร่อมรถสองล้อประจำตำแหน่งแล้วขับออกไปจากบ้านหลังใหญ่ กษิดิศพลิกโปสการ์ดขึ้นอ่านก่อน เขายิ้มเพราะเป็นของไอริสาที่มักจะส่งมาให้เดือนละครั้ง ก่อนจะตามด้วยจดหมายในมือ เพียงแค่เห็นชื่อผู้ส่งเขาก็พึมพำออกมา เพราะไม่คิดว่าจะได้รับจดหมายจากบุคคลผู้นี้อีก

“วิไล รัตนาบรรเจิดสกุล” กษิดิศเปิดอ่านเนื้อหาข้างในเริ่มแรกคือการชักแม่น้ำทั้งห้า คล้ายกับจดหมายฉบับที่แล้วอีกตามเคย ทุกประโยคล้วนแต่บอกถึงบุญคุณที่ให้ไอริสาไปอยู่สวิตด้วย ความเป็นอยู่ที่หลับที่นอนอาหารการกินรวมไปถึงการเรียนก็ดูแลให้เป็นอย่างดี เขียนไปเขียนมาก็วกกลับมาที่เรื่องค่าใช้จ่ายที่บอกว่าเพิ่มมากขึ้นทุกวัน พร้อมทั้งเพิ่มความหนักแน่นของความลำบากว่าตัวเองนั้นมีลูกๆ ที่ต้องดูแลอีกถึงสามคน ประโยคสุดท้ายมาจบที่ต้องการให้เอกณัฐส่งค่าใช้จ่ายไปช่วย พร้อมทั้งระบุเลขที่บัญชีและจำนวนเงินที่ต้องการให้เสร็จสรรพ แถมยังกำชับไม่ให้บอกเรื่องนี้กับไอริสาคล้ายจดหมายฉบับก่อนๆ

ชายหนุ่มยิ้มเหยียดออกมา จดหมายพวกนี้ช่างบ่งบอกถึงตัวตนของป้าเอกณัฐและไอริสาได้เป็นอย่างดี เท่าที่ได้ไล่อ่านข้อความในอีเมล ก่อนที่พ่อและแม่ของเธอจะเสียชีวิต ได้วางแผนเรื่องที่ต้องการให้ไอริสาไปเรียนต่อที่เซอร์แลนด์ไว้แล้ว จึงได้ส่งเงินค่าเล่าเรียนให้ผู้เป็นป้าไปจำนวนหนึ่งแล้ว ซึ่งดูเหมือนจะมากพอสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายของไอริสาขณะที่เธอเรียนอยู่ที่นั่นไม่ใช่หรือ หนำซ้ำผู้เป็นป้าคนนี้ยังอาสาเองว่าจะดูแลหลานสาวให้เป็นอย่างดี แต่เนื้อความในจดหมายที่เขาได้รับนี่มันคืออะไรกัน

อีกอย่างที่เขารู้ ใช่ว่าอยู่ที่นู่นไอริสาจะไม่ทำอะไรเลย เธอยังเคยเล่าให้เอกณัฐฟังว่าหางานพิเศษทำเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของป้า ครั้งที่แล้วเขาคือคนที่โอนเงินไปให้ตามจำนวนที่ป้าของทั้งคู่ขอมา เพราะจะได้จบปัญหาไป แต่ไม่คิดว่าจะได้รับจดหมายแบบเดิมซ้ำอีก แถมจำนวนเงินยังเพิ่มขึ้นตามดัชนีน้ำมัน โดยไม่สงสารเอกณัฐเลยว่าเขาตัวคนเดียวจะหาเงินจำนวนมากมายแบบนั้นมาจากไหน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel