บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 ต้องการมากกว่ากอด

ต้องการมากกว่ากอด

“พี่หมอคิดจะจริงจังกับหนูจริง ๆ ใช่ไหมค่ะ ไม่ได้คิดจะหลอกหนูใช่ไหม” ปาลรพีร์จึงตัดสินใจถามเขาออกไปตามตรง ว่าเขานั้นคิดกับเธออย่างไรกันแน่

“หนูไม่เชื่อที่พี่พูดไม่เชื่อความรู้สึกที่พี่มีต่อหนูหรือครับ” พูดแล้วก็จับมืออันสั่นเทาของเธอมาทาบที่อกแกร่งข้างซ้ายของเขาที่กำลังเต้นแรงระรัวอยู่ในตอนนี้อยากสื่อให้เธอได้รู้

“...” เธอก้มหน้าลงไม่กล้าสู้หน้าคนตรงหน้า พร้อมกับความสับสนภายในใจของตัวเอง ว่าควรจะจัดการความรู้สึกนี้เช่นไรดี

“เวลาคุยกับพี่ ให้มองตาพี่ครับ หนูจะได้รู้ว่าพี่รู้สึกอย่างไร อย่าหลบหน้ากัน” มือหน้าเชยคางมนขึ้นมาให้มองสบตากันกับเขา ก่อนที่จะพูดกับเธอ

“พี่หมอไปโรงพยาบาล ทำไมถึงกลับมาเร็วจังค่ะ” เธอจึงหาทางเปลี่ยนเรื่องถามเขา เพื่อลดอาการประหม่าลงมาบ้าง

“คิดถึงหนูครับ ตอนนี้พี่หิวมากเลย” พูดราวกับกระซิบที่ข้างหูพร้อมกับเป่าลมหายใจแรงรินรดที่ใบหูของเธออีกด้วย

“เดี๋ยวหนูปะ...” เธอกำลังจะหันไปเปิดตู้เย็นคืน หวังจะเอาวัตถุดิบที่มีมาทำให้เขาทานไปก่อน เมื่อเขาพูดแบบนี้ออกมา

“พี่หิวหนู...” พูดแล้วกับช้อนอุ้มร่างบางขึ้นมาแนบอกแกร่งในท่าเจ้าสาวทันทีอย่างไว เพื่อไม่ให้เธอปฏิเสธอะไรเขาได้

“พะพี่หมอ” ถึงจะตกใจมากแค่ไหน แต่ก็รีบยกวงแขนขึ้นคล้องคอเขาไว้ ด้วยสัญชาตญาณเพราะกลัวว่าจะตกลงพื้น

“เมื่อคืนแค่กอด ตอนนี้พี่ขอมากกว่ากอดได้ไหมครับ” พูดแล้วคุณหมอปุณณกันต์ก็สาวเท้ายาวเดินออกจากตรงนั้น เข้าไปในห้องของเขาต่อทันที

ร่างสูงวางปาลรพีร์ลงที่เตียงกว้างช้า ๆ อย่างเบามือ แล้วเขาก็ตามขึ้นไปทาบทับเอาไว้อีก เพื่อไม่ให้เธอหนีออกไปไหนได้

Rrrr

ยังไม่ทันทีเขาจะได้ทำอะไรคนใต้ร่าง โทรศัพท์มือถือราคาแพงที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงก็แผดเสียงร้องดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน

“มีอะไรว่ะ” เสียงเข้มตวาดใส่คนในสายสนทนาทันที ที่รับสาย

[ไอ้หมอ! มึงอยู่ไหนวะ]

“คอนโด” เสียงเรียบนิ่งเอ่ยตอบ แต่สายตาก็ไม่อาจจะมองไปทางอื่นได้ นอกเสียจากคนใต้ร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่

[คอนโด?]

“ก็เออนะสิ...มึงมีอะไรหรือเปล่าไอ้พีท”

[ไหนว่าวันนี้มึงมาโรงพยาบาลไง นี้กูกับไอ้พอร์ชมารอแสดงความยินดีกับมึงอยู่น่ะ แต่ไม่เห็นมึงเลยต้องโทรฯมาถามนี่แหล่ะ]

“กูกลับมาแล้ว เรื่องแค่นี้เองทำไมต้องไปแสดงความยินดีด้วย” เสียงเรียบนิ่งเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าเดิม

[ถ้าอย่างนั้นพวกกูจะไปหามึงที่คอนโดน่ะ อยากเลี้ยงฉฉลองให้มึง]

“ไม่ได้” ปุณณกันต์รีบปฏิเสธน้ำใจเพื่อนทันควัน เพราะตอนนี้เขามีภารกิจที่สำคัญกว่าการเลี้ยงฉลองกับเพื่อน

[ทำไม?]

“กูไม่ได้อยู่คนเดียว”

[อ่อ...กูเข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นกูขอให้มึงโชคดีว่ะเพื่อน]

*

*

*

โรงพยาบาลปิยพัฒน์

“กลับเถอะว่ะไอ้พอร์ช ไอ้หมอมันกลับไปคอนโดแล้ว” พิรัชต์เอ่ยบอกเพื่อนทันที หลังจากที่วางสายจากปุณณกันต์ไป

“ไหน ๆ ก็มาแล้ว แวะไปหาพี่หมอปัณณ์หน่อยก็แล้วกัน” พัสกรจึงพูดขึ้น เพราะพึ่งจะมาถึง แล้วนั่งอยู่ที่ร้านคาเฟ่ในโรงพยาบาลเอง จะให้กลับเลยก็ไม่รู้จะไปไหนอยู่ดี เพราะว่าวันนี้ก็ว่างทั้งวันอยู่แล้ว

“นั่นไง พี่หมอปัณณ์เดินมาพอดีเลย” ยังไม่ทันทีทั้งสองจะได้ออกไปไหน คนที่ถูกกล่าวถึงก็เดินเข้ามาภายในร้านเสียก่อน ทั้งคู่เลยได้แต่ทำความเคารพพี่ชายของเพื่อนที่เป็นเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้

“พี่หมอปัณณ์สวัสดีครับ”

“สวัสดี พีท พอร์ช มาหาเจ้าปุณณ์มันเหรอ” ร่างเสียงหันไปทางต้นเสียงที่ทักทายตน แล้วน้อมรับด้วยใบหน้าที่ยิ้มรับอย่างเป็นมิตร

นายแพทย์ปัณณวิชญ์ ปิยพัฒนากุล หรือ หมอปัณณ์ ในวัย 38 ปี เป็นแพทย์ออร์โธปิดิกส์(Orthopedics) หรือหมอกระดูกและข้อ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการและผู้บริหารโรงพยาบาลควบคู่ไปด้วย หลังจากที่บิดาเสียชีวิตไป

“ครับ แต่มันดันหนีพวกผมกลับคอนโดไปก่อบ” พิรัชต์เอ่ยตอบพี่ชายเพื่อนออกไปตามตรง

“นั่นสิ ให้กลับไปอยู่บ้านก็ไม่ยอมกลับ อ้างแต่จะอยู่คอนโดอย่างเดียวเลย สงสัยพี่คงจะมีน้องสะใภ้เร็ว ๆ นี้แน่เลย” ปัณณวิชญ์อดที่จะเอ่ยแซวน้องชายไม่ได้ เมื่อตั้งแต่ที่น้องชายกลับมาครั้งนี้ก็มีท่าทีแปลกไปจากเดิม

“พี่หมอปัณณ์ก็รู้เรื่องนี้เหรอครับ” พัสกรถามออกไป

“เดี๋ยวน่ะ! พวกนายพูดเรื่องอะไรกัน พี่แค่พูดแซวเจ้าปุณณ์มันเฉย ๆ นี่อย่าบอกน่ะว่าเจ้าปุณณ์มันมีแฟนจริง ๆ” คุณหมอปัณณวิชญ์เบิกตากว้างทันที

“มันกำลังจีบอยู่ครับพี่ แต่ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือเปล่า เพราะดูแล้วน้องเขาก็เด็กกว่ามันมาก น่าจะยังเรียนมหา’ลัยอยู่” พิรัชต์ตอบพี่ชายเพื่อนออกไปตามที่ตัวเองรับรู้มา แต่ไม่รู้ว่าเพื่อนนั้นจะจริงจังหรือว่าเพียงแค่หวังอะไรจากตัวหญิงสาวหรือเปล่า พวกเขาก็ไม่อาจรู้ในความคิดของปุณณกันต์ได้

“คิดยังไงถึงจีบเด็ก” ปัณณวิชญ์พูดพร้อมกับส่ายหน้าอมยิ้มเบา ๆ เมื่อได้รับรู้อะไรเกี่ยวกับน้องชายของตน

“ความชอบไม่มีใครเหมือนใครหรอกครับพี่หมอ” พัสกรเสริมขึ้นมาบ้าง แต่เขาก็ยังไม่รู้ใจตัวเองเลยว่าชอบคนแบบไหน

“ฝากพวกนายคอยดูมันด้วยล่ะกัน เผื่อมันมีครอบครัวไปนิสัยอาจจะใจเย็นลงมีเหตุผลขึ้นมาบ้าง พี่ก็ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของมันสักเท่าไหร่ เดี๋ยวจะผิดใจกันอีก แค่เรื่องเก่ามันยังไม่ยอมเปิดใจคุยกับพี่เลย” ปัณณวิชญ์พูดอย่างหนักใจ เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา

“พวกผมเป็นเพื่อนมัน ก็มีแต่ความหวังดีให้กับมันแหล่ะครับ” พิรัชต์พูด

“ขอบใจพวกนายมาก กาแฟนี้พี่เลี้ยงเอง” ปัณณวิชญ์พูดแล้วก้ทำในสิ่งที่พูดทันที เดินไปจ่ายเงินที่หน้าเคาน์เตอร์ทันที เมื่อได้ของที่ตัวเองต้องการพอดี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel