บทที่ 4 พ่อของลูกแต่ไม่ใช่สามี
หลังลงวอร์ดโชคดีที่ไม่ต้องขึ้นเวรต่อแล้วจุุดมุ่งหมายต่อไปของลูกศรคือซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อไปซื้อของสดมาตุนเอาไว้ในตู้เย็นแต่ว่ายังไม่ทันได้กดเข้าแอปเรียกรถแท็กซี่ก็มีรถยุโรปคันหรูขับมาจอดเทียบอยู่ตรงหน้าเสียก่อน
ลูกศรทำท่าจะขยับเดินถอยห่างเพื่อไม่ให้ตัวเองกีดขวางเจ้าของรถแต่ว่ากระจกรถกับเปิดพร้อมกับเสียงเรียกจากคนขับภายในรถ
"เธอขึ้นรถมา" ลูกศรมองคนเรียกอย่างไม่ค่อยชอบใจที่อยู่ๆ เขาก็มาสั่งเธอแล้วเรื่องเมื่องานที่เขาทำให้เสียใจก็ยังไม่หายยังจะโผล่หน้ามาเจอกับเธออีก
"ไม่ไป ฉันจะไปทำธุระส่วนตัวไม่ว่างไปกับนายหรอก" ลูกศรปฎิเสธคนที่ไม่อยากเห็นแม้กระทั้งหน้าของเขาตอนนี้
"ลูกศร! ขึ้นมาอย่าพูดยากเห็นไหมว่าคันหลังเขาบีบแตรไล่เธอแล้ว" อาเธอร์ใช้น้ำเสียงกดดันใส่เธออย่างเป็นคนผิดเสียเต็มประดาลทำเอาลูกศรรู้สึกเดือดดาลโกรธขึ้นมาหน่อยๆ
"ฉันไม่ได้พูดยาก แต่ไม่ไปคือไม่ไปแล้วนายก็เป็นคนจอดรถขวางทางคนอื่นเองนะอาเธอร์!" ลูกศรเถียงกับเขาไปอย่างไม่ยอมให้อีกฝ่ายมากล่าวหาเธอ
"เฮ้อฉันก็ไม่อยากยุ่งกับเธอนักหรอกรู้เอาไว้ซะถ้าไม่มีเรื่องลูกฉันก็ไม่คิดจะตื้อให้เสียเวลาเหรอวะ" อาเธอร์บ่นออกอาการรำคาญเต็มทนกับลูกศร
"ก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวก็ไม่เลยไม่ต้องมายุ่งไป!" ลูกศรตะโกนอย่างไม่ยอมแพ้ไม่ได้อายอะไรแล้วกับคนที่เดินผ่านไปมาที่มองนักศึกษาแพทย์อย่างเธอทะเลาะกับคนอื่นอยู่หน้าโรงพยาบาลอย่างไม่คิดจะอายใครแล้ว
"เฮ้อเธอแม้งเป็นคนพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้เหรอวะลูกศรแม้งน่ารำคาญวะ!" อาเธอร์เปิดประตูลงมาจากในรถมาดึงแขนของลูกศรลากเธอเข้าไปนั่งในรถพร้อมกับปิดประตูรีบวิ่งมาขึ้นรถฝั่งคนขับทันที
"ก็บอกแล้วว่าไม่อยากไปไหนทั้งนั้นแต่นายยังจะมาบังคับฉันอีกนะอาเธอร์" ลูกศรมองชายหนุ่มในชุดนักศึกษาที่น่าจะพึ่งเลิกเหมือนกับเธอไม่แปลกจะเราจะเจอกันเพราะเรียนแพทย์ปีเดียวกันฝึกงานก็ที่เดียวกันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเกิดขึ้นได้
"ถ้าไม่มีธุระฉันก็ไม่อยากมาบังคับอะไรเธออย่างนี้หรอกลูกศร" อาเธอร์ขับรถออกจากโรงพยาบาลไปยังถนนหลัง
"มีอะไรก็รีบพูดมาฉันบอกแล้วไงว่ามีธุระที่ต้องกลับไปทำต่อไม่มีเวลามาเถียงกับนายนักหรอก" ลูกศรยอมสงบอารมณ์ลงไม่ให้ทะเลาะกันต่อ
"ฉันจะพาเธอไปเจอพ่อแม่ที่ร้านอาหารพวกท่านรู้เรื่องจากฉันแล้วกำลังรอพวกเราอยู่" ลูกศรมองคนพูดอย่างตกใจไม่คิดว่าเขาจะบอกพ่อแม่ตัวเองเร็วขนาดนี้
"นายบอกพ่อแม่ตัวเองแล้วเหรอพะพวกท่านว่ายังไงบ้าง" หัวใจของลูกศรเต้นรัวเร็วด้วยความตื่นกลัวจนมือชื่นเหงื่อขึ้นมาทั้งที่ภายในรถแอร์เย็นมาก
"บอกแล้วพวกท่านเลยบอกให้ฉันพาเธอไปเจอเพื่อพูดคุยตกลงกันถึงแม้ว่าฉันจะบอกว่าจัดการได้แต่พวกท่านก็ไม่เชื่อเลยต้องมาบังคับเธอขึ้นรถเพื่อมาด้วยกันอย่างไงละ" อาเธอร์หันมามองหน้าลูกศรแวบนึงแล้วก็หันไปสนใจถนนข้างหน้าต่อ
"อะอืมเข้าใจแล้ว" ลูกศรพยักหน้ารับอย่างเลี่ยงไม่ได้ถึงแม้เธอจะไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับทางบ้านแต่ต้องไปเจอพ่อแม่ของอาเธอร์ที่รู้เรื่องแล้วไม่รู้พวกท่านจะพูดอะไรบ้างในไม่กี่อึดใจข้างหน้านี้
"ตามมาทางนี้" ลูกศรหยิบเอากระเป๋าเป้ใบเล็กของตัวเองที่ใช้มาฝึกงานไปด้วยเพื่อตอนกลับจะได้แยกกลับเองได้สะดวกไม่ต้องวนกับมาเอาของที่รถของเขา
"มาแล้วครับคุณพ่อคุณแม่" อาเธอร์เปิดประตูเข้ามาในห้องอาหารแบบส่วนตัวห้องหนึ่ง ลูกศรมองไปยังชายหญิงวัยกลางคนที่นั่งรออยู่ภายในห้องยกมือขึ้นไหว้พวกทำความเคารพพวกท่านอย่างเกร็ง
"สวัสดีค่ะ" ลูกศรเอ่ยทักทายยิ้มบางๆ ให้พวกท่าน อาเธอร์ขยับเก้าอี้ข้างเขาให้เธอนั่งตรงข้ามกับพ่อแม่เขาที่รับไหว้จากเธอพร้อมมองมาอย่างสำรวจ
"พึ่งลงจากวอร์ดที่โรงพยาบาลมาเหนื่อยๆ ทานข้าวให้อิ่มก่อนค่อยคุยกันจะได้บำรุงหลานในท้อง" คุณแม่ของอาเธอร์เป็นคนพูดสั่งขึ้นมา
"ขอบคุณค่ะคุณน้า" ท่าทางคุณแม่ของอาเธอร์จะอายุน้อยกว่าพ่อแม่ของลูกศรเธอเลยเรียกท่านว่าน้าแล้วกัน
"ไม่ต้องเกร็งใจกินก่อนค่อยคุยกัน" จากทีาคิดว่ารีบคุยรีบกลับกลายเป็นว่าต้องพยายามกินอาหารไม่ให้ดูเกร็งเกินไป
"ท่านปลานึ่งซีอิ๊วนี้จะได้บำรุง" คุณแม่ของอาเธอร์ตักเนื้อปลามาให้บนจานของลูกศรอย่างใส่ใจจนทำให้คนท้องที่มีอารมณ์อ่อนไหวง่ายอยู่ในตัวน้ำตารื่นคลอเบ้าแต่ฮึบเอาไว้ไม่ให้ร้องไห้ออกมา
"ขะขอบคุณค่ะคุณน้า" จากทีแรกที่ไม่กล้ากินแต่พอได้กินกับกินข้าวได้หมดจานอย่างไม่น่าเชื่อว่าเธอจะเจริญอาหารที่อยู่บนโต๊ะพวกนี้หลายอย่างเธอไม่เคยกินมาก่อนและบางอย่างเคยไม่ชอบแต่ตอนนี้กับรู้สึกชอบขึ้นมาเสียได้งงกับอารมณ์คนท้องขึ้นมาเลย
"ดีจังหนูกินได้เยอะ อาหารบนโต๊ะนี้มีแต่เมนูโปรดของตาอาเธอร์เขาทั้งนั้นสงสัยหลานจะชอบเหมือนพ่อเขาแน่ๆ" คุณพ่อที่ไม่ค่อยพูดเมื่อดื่มน้ำเสร็จก็พูดขึ้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มดูก็รู้ว่าเขากำลังปลื้มใจมากๆ
"ใช่เลยค่ะคุณทีแรกไม่รู้ว่าจะชอบไหมลุ้นแทบตายแต่พอเห็นเธอทานได้ไม่มีอาการเหม็นก็ยังชั่วไปหน่อย ว่าแต่หนูชื่ออะไรนะพวกเราจะได้เรียกกันถูก"
"หนูชื่อลูกศรค่ะคุณน้า" ลูกศรยิ้มให้ท่านด้วยความจริงใจหายเกร็งมากแล้ว
"แล้วเรื่องจริงหรือที่บอกว่าไม่ได้กำลังคบกันแล้วพลาดตั้งท้องขึ้นมา" คุณน้ามองเราสองคนสลับกันอย่างสงสัย
"ไม่ได้คบกันค่ะ พวกเราสองคนแทบจะไม่เคยคุยกันด้วยช้ำตลอดหกปีที่เรียนแพทย์มาพร้อมกัน" ลูกศรตอบคำถามท่านตามความจริง
"ก็คงจริงหน้าตาหนูไม่ใช่สเปกลูกชายน้าอย่างที่เคยเห็นเขาควงที่ผ่านมาเลย"
"คุณพูดมากไปแล้วนะ" เสียงเข้มของคุณพ่อดังขึ้นตัดคำพูดของคุณแม่ของเขาที่ทำเอาลูกศรถึงกับหน้าเจือนลงไปเลย
"อะเอ่อน้าขอโทษนะที่พูดตรงไปหน่อย" คุณน้าที่โดนสามีปรามก็ถึงกับรีบหันมาขอโทษลูกศรที่เผลอพูดออกมาตรงๆ ส่วนเธอก็รู้สึกอายเพียงเท่านั้นไม่ได้นึกโกรธอะไรเพราะมันคือความจริงว่าเธอไม่ได้เป็นคนสวยอะไรก็แค่ผู้หญิงหน้าตาธรรมดาสวมแว่นหนาเตอะหน้าก็ไม่แต่งตัวก็ผอมขาวซีดดูจืดชื้นไปหมด
"ไม่เป็นไรค่ะ"
"นี้เอกสารร่างข้อตกลงกันที่หนูกับอาเธอร์ต้องเซ็น" คุณพ่อยื่นเอกสารมาตรงหน้าเธอ
"ในนั้นระบุเรื่องค่าเลี้ยงดูเด็กระหว่างที่หนูลูกศรตั้งครรภ์จนไปถึงหลังคลอดและการเซ็นต์รับรองบุตร โดยที่ตัวหนูและอาเธอร์จะไม่มีการแต่งงานกันและมีอิสระ อาเธอร์สามารถมีแฟนหรือแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นได้ ถ้าหนูผิดสัญญาจะต้องโดนปรับเป็นเงินสด100ล้านบาท หนูมีความเห็นจะโต้แย้งตรงไหนหรือเปล่าสามารถพูดออกมาได้เลย" คุณพ่อของอาเธอร์ท่านเป็นคนอธิบายให้เธอฟัง
"ตกลงค่ะหนูยอมรับจะเซ็นต์เอกสารทุกอย่างตามนี้" ลูกศรหยิบปากกาที่มาพร้อมกับเอกสารขึ้นมาเซ็นต์ทันทีอย่างไม่ลังเลแม้ภายในใจจะแอบหน่วงๆ เรื่องที่เขาสามารถมีแฟนหรือแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นได้
"ไม่ต้องห่วงน้าจะดูแลหนูลูกศรและหลานในท้องให้ดีที่สุด" คุณน้าดูจะเห่อหลานมากตั้งแต่ยังไม่ลืมตาดูโลกเลย
"ขอบคุณค่ะ" ลูกศรเซ็นต์เอกสารเสร็จแล้วก็ยื่นคืนให้กับคุณพ่อของอาเธอร์
"เสร็จแล้วก็แยกย้ายกันกลับเถอะอาเธอร์ไปส่งหนูลูกศรด้วยนะ"
