บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 จะเก็บเด็กไว้ไหม

"เรื่องจริงเหรอ" เสียงของอาเธอร์สั่นอย่างคนที่ได้ฟังเรื่องตลกร้ายที่กำลังพยายามควบคุมอารมณ์ให้มันเป็นแค่เรื่องแกล้งหยอกกันเล่นไม่เป็นความจริง

"จริงนี้ผลตรวจ" ลูกศรหยิบเอกสารใบรับรองพร้อมกับยาพร้อมกับยาบำรุงครรภ์ที่ได้มาวันนี้

"เชี้ยเรื่องจริงวะ" อาเธอร์หยิบเอกสารขึ้นมาอ่านให้ละเอียดไม่ต้องถามอะไรก็รู้ว่าเด็กมาในคืนงานเลี้ยงรุ่นแน่นอน

"ระเราอยากถามอาเธอร์ว่าจะทำยังไงกันดีกับเด็กในท้องที่มาถามความเห็นเพราะเราสองคนเป็นคนทำให้เขาเกิดมาเลยต้องถามความเห็นของนายด้วย" ร่างสูงรู้สึกเหมือนกำลังโดนต่อยเพราะตอนนี้ในหัวของเขามันมึนไปหมดจนแทบจะคิดอะไรไม่ออกแล้ว

"เดี๋ยวขอตั้งสติสักยี่สิบนาทีไม่สิสามสิบนาทีเลยแล้วกัน" อาเธอร์ยกมือขึ้นห้ามไม่ให้ลูกศรพูดอะไรอีก

เมื่อเห็นอาการของอาเธอร์ที่ไม่ต่างจากจินตนาการของตัวเองที่คิดมาแล้วว่าเขาต้องเป็นแบบนี้ทำให้ลูกศรยกน้ำผึ้งมะนาวขึ้นดื่มรอเวลาที่เขาจะตั้งสติได้แล้วให้คำตอบกับเธอ เราทั้งสองคนต่างก็เงียบทั้งสองฝ่าย

ลูกศรมองคนที่เดินผ่านไปมานอกร้านผ่านกระจกร้านคาเฟ่เป็นการฆ่าเวลาและคิดเอาไว้ว่าจะเลือกทางไหนให้กับตัวเองจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง

"เธออยากจะเก็บเด็กเอาไว้ไหม" อาเธอร์ถามผู้หญิงที่ไม่ใช่แฟนสาวไม่เชิงว่าเป็นเพื่อนเพราะไม่เคยคุยกันเลยแต่ดันได้มานอนด้วยกันแค่คืนเดียวกับทำให้ชีวิตของพวกเขาสองคนเหมือนจะผูกติดกันเอาไว้อย่างแน่นหนา

"อยาก...แต่เรากลัว" ลูกศรมองผู้ชายตรงหน้าด้วยดวงตาแดงก่ำคล้ายกับคนจะร้องไห้ออกมาได้ทุกเมื่อ

"เธอกลัวอะไร"

"เรายังเรียนไม่จบถึงแม้ว่าฝึกงานจะเหลือวอร์ดสุดท้ายที่จะเสร็จในอีกสองเดือนข้างหน้าจะเรียนจบ แต่นายก็รู้ว่าหลังเรียนจบยังมีสอบใบประกอบวิชาชีพอีกเรายังไม่มีงานทำจะเอาอเงินที่ไหนมาดูแลเขาได้ฮึกฮื่อ!หรือนายไม่กลัวเลย" ลูกศรระบายความอัดอันตันใจให้กับพ่อของเด็กในท้องให้เขาได้รับฟังความรู้สึกภายในของเธอ

"กลัวสิแต่เรากลัวขาดอิสระนะ ส่วนเรื่องเงินเลี้ยงดูเด็กทางบ้านเราไม่มีปัญหาเธอไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นหรอก" อาเธอร์เองก็ยอมรับว่าเขากลัวเหมือนกันแต่กลัวว่าเขาต้องรับผิดชอบผู้หญิงตรงหน้าไปด้วย

"หมายความว่ายังไงเหรอที่นายกลัวว่าจะขาดอิสระ" ลูกศรไม่ค่อยแน่ใจกับคำถามของอาเธอร์เรื่องที่เขากลัว

"บอกตามตรงนะตอนนี้ฉันยังมีความสุขกับชีวิตโสดยังรู้สึกว่าตัวเองอายุยังน้อยไม่พร้อมจะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนในตอนนี้" อาเธอร์มองสบตาผู้หญิงตรงหน้าที่กำลังจะกลายเป็นแม่ของลูกของเขาตั้งแต่เรียนยังไม่จบมหาลัย

"เราเข้าใจแล้ว อาเธอร์ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นเราจะไม่บอกทางบ้านเรื่องเด็กในท้องจนกว่าจะรับปริญญาเด็กคงคลอดแล้วจะไม่มีการแต่งงานนอกจากรับรองบุตร เราสองคนจะเป็นแค่เพียงพ่อแม่ของเด็กเท่านั้น..." ท้ายประโยคลูกศรแทบฝืนให้พูดต่อไม่จบเกือบจะปล่อยโฮออกมาแต่โชคดีที่กลั่นน้ำตาเอาไว้ได้แม้เสียงจะสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ไหวกับเรื่องที่เจอและแบกรับตอนนี้

"เราจะเชื่อคำพูดเธอได้แค่ไหน" อาเธอร์ถามด้วยความไม่ไว้ใจและคิดว่าพ่อแม่ของเขาก็เช่นกัน

"ไม่รู้สิแต่เรามั่นใจว่าตัวเองจะไม่มีวันผิดคำพูดว่าเราสองคนจะเกี่ยวข้องกันแค่เรื่องเด็กเท่านั้น" ลูกศรสะบัดหน้าเฉิดขึ้นสูงอย่างเย้อหยิ่งอย่างฉุนเฉียวอารมณ์ขึ้นมา

"เอาอย่างนี้เราจะให้ทนายประจำตระกูลมาร่างสัญญาขึ้นมาแล้วก็เซ็นรับรองถ้าเธอผิดสัญญาจะต้องเสียค่าปรับตามกฎหมาย" คำพูดที่เหมือนกำลังข่มขู่ทำเธอรู้สึกสะอึกจนแทบจะกลั่นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ใช่อยู่ว่าตัวเธอแอบชอบผู้ชายตรงหน้าเขามันคุณชายผู้แสนจะเพอร์เฟคหล่อรวยแต่ใช่ว่าเธอจะต้องยอมเขาดูถูกได้อย่างนี้

"เอ่อร่างมาเลย! เราต่างมีอิสระจะมีแฟนอะไรก็ต่างคนต่างมีไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่าย" ลูกศรตะคอกเสียงดังแต่น้ำตากับไหลหยดลงใส่ฝ่ามือเธอใช้หลังมือปาดออกรวดๆ ไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าผู้ชายใจร้ายตรงหน้าให้เขาด่าว่าเธอริอ่านจะอยากจับเขาจนตัวสั่น

"ตกลงเราจะรับผิดชอบแค่เด็กในท้องของเธอ" พอตกลงกันได้ลูกศรก็รีบออกจากร้านคาเฟ่ทันทีเธอไม่อยากจะมองหน้าคนอย่างเขาให้ช้ำใจเพราะรู้ดีแก่ใจว่าเขาไม่ผิดมีแต่หัวใจเจ้ากรรมของเธอที่มันไปสอบเขาเอง

"จำใส่สมองแกไว้นะลูกศรเขาบอกอยู่ว่าจะไม่ชอบแกเพราะงั้นตัดใจได้แล้วความหวังลมๆ แร้งๆ มันไม่มีวันมีอยู่จริงสำหรับคนอย่างแกหรอกลูกศรฮื่อฮึก!" ลูกศรด่าตัวเองให้จำแล้วเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่หอพักใกล้มหาลัยของเธอ

ถึงจะเสียใจร้องไห้เครียดจนจะเป็นบ้าแต่พอมองเห็นนาฬิกาเป็นเวลาเกือบสองทุ่มอารมณ์ดิ่งก็ถูกฉุดนั้นขึ้นมาจากความนึกคิดของตัวเองมือบางลูบหน้าท้องที่ยังแบนราบอยู่เพราะอายุครรภ์แค่สองเดือนแต่ความอบอุ่นกับวาบขึ้นมาในหัวใจเมื่อนึกถึงเด็กตัวเล็กๆ ที่กำลังขดตัวอยู่ข้างในท้องที่กำลังเติบโตขึ้นทุกวันจนกว่าจะครบเก้าเดือนถึงจะเห็นหน้าเขา

"ไหนดูหน่อยซิว่าในตู้เย็นมีอะไรที่มีประโยชน์พอให้หนูกินบ้าง" ลูกศรลูบท้องและพูดกับลูกน้องที่ยังเป็นก้อนเล็กเท่าเมล็ดถั่วอยู่ ในตู้เย็นมีเพียงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและไข่เท่านั้นของสดอย่างอื่นหมดแล้วจะลงไปก็เหนื่อยทั้งกายและใจไม่มีแรงแม้กระทั้งจะเดินแล้วตอนนี้คงต้องกินเท่าที่มีไปก่อน

"กินแค่นี้ไปก่อนนะลูก แม่สัญญาว่าพรุ่งนี้จะไปหาซื้อของสดที่มีประโยชน์สำหรับหนูมาไว้ให้เยอะๆ เลย" ว่าแล้วลูกศรก็จัดการต้มบะหมี่สำเร็จรูปและใส่ไข่ลงไปในหม้อที่น้ำเดือดไม่นานก็ตักใส่ถ้วยยกวางไว้โต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กที่ใช้อ่านหนังสือเวลาอยากนั่งกับพื้นพร้อมกับเปิดไอแพดทบทวนบทเรียนไปด้วย ชีวิตนักศึกษาแพทย์แม้จะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตแต่เรื่องเรียนต้องมาก่อนเสมอ

เพื่อนทักมาถามมาให้กำลังใจและบอกว่าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับให้รู้กันแค่สี่คนพอแต่ลูกศรรู้ดีกว่าเมื่อท้องเธอโตขึ้นก็คงปิดเรื่องนี้เอาไว้ไม่อยู่แน่นอน

พอกินเสร็จก็อาบน้ำเตรียมเข้านอนโทรศัพท์ก็มีข้อความแจ้งเตือนเข้ามาพอหยิบขึ้นมาดูถึงเห็นว่าจากอาเธอร์ที่ยังไม่ได้เพิ่มเพื่อนในแอปฟ้า

อาเธอร์ 'นี้ไฟล์เอกสารที่เธอต้องเซ็นแล้ว'

ลูกศร 'เดียวพรุ่งนี้เซ็นต์แล้วจะส่งไปให้' พอตอบข้อความแล้วเสร็จแล้วลูกศรก็ไม่รอให้อาเธอร์ตอบกับปิดโทรศัพท์แล้วนอนอย่างไม่สนใจเธอต้องนึกถึงสุขภาพของลูกในท้องเป็นหลักต้องรู้จักรักคนที่จะรักเธออย่างไม่มีเงื่อนไขที่กำลังจะลืมตาดูโลก

โรงอาหารในโรงพยาบาล

"ตาบวมมากสาว" แจนทักลูกศรที่เดินมานั่งลงโต๊ะตามที่นัดกินข้าวเช้าด้วยกันก่อนจะแยกย้ายกันไปขึ้นวอร์ดที่ตัวเองราว

"มันอดที่จะน้อยใจในโชคชะตาไม่ได้ก็เลยร้องออกมา" ลูกศรพูดบอกเล่าระบายให้เพื่อนสนิทฟัง

"คิดดีแล้วนะว่าจะเก็บเด็กเอาไว้จริงๆ" แจนกระซิบถามลูกศรเสียงเบาเพื่อไม่ให้คนที่อยู่ใกล้ๆ ได้ยิน

"ทำร้ายเขาไม่ลงวะแก ยังไงก็ต้องเก็บเอาไว้ต้องเลี้ยงให้ไหวสิ" ลูกศรมุ่งมั่นยังไงก็ต้องทำให้ได้เขาไม่ผิดที่เกิดมาเพราะความผิดส่วนหนึ่งก็เกิดจากตัวเธอเองที่เผลอลืมกินยาคุมกำเนิดแต่ในเมื่อเขาเกิดมาแล้วถึงจะไม่พร้อมแต่ก็จะพยายามดูแลเด็กคนนี้ให้ได้

"ถ้าแกตัดสินใจดีแล้วก็ตามใจแก เดียวน้าแจนจะช่วยเลี้ยงหนูอีกแรงนะเด็กดี"

"ขอบใจน้าแจนมากนะเพื่อน"

"ไม่เป็นไรเพื่อนกันไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel