บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 โจวเฟิงหาความสำราญ (1)

ผ่านไปอีกห้าวัน ระหว่างนี้กัวจือหรานไปคฤหาสน์สกุลโจวมสองครั้งเพื่อตรวจอาการของสะใภ้รอง แต่กลับไม่พบโจวเฟิง สาวใช้บอกว่าเขาออกไปดูแลกิจการตั้งแต่วันที่นางมาดูอาการให้เขาครั้งที่สอง กัวจือหรานยังขุ่นเคืองเขาไม่หาย แต่ก็ยังแอบบ่นที่เขาเป็นคนเจ็บที่ไม่เจียมตัวเอาเสียเลย นางตรวจอาการของสะใภ้รองเสร็จก็กลับไปทำการรักษาต่อที่โรงหมอสกุลซุน จากนั้นก็กลับหอราตรีสวรรค์ตามเวลาเลิกงานของนาง

หอราตรีสวรรค์เพิ่งจะเริ่มครึกครื้น สาวใช้ก็รีบมาหานาง บอกว่าลูกค้าอยากพบ

“อยากพบข้า?”

นี่มีอะไรเข้าใจผิดหรือไม่ กัวจือหรานไม่ใช่หญิงนางโลม ทั้งไม่ใช่หญิงขายศิลป์ แขกจะอยากพบนางด้วยเหตุใดกัน ถามสาวใช้ว่าเป็นใคร อีกฝ่ายก็ไม่รู้ บอกเพียงว่าแม่เล้าสวีรีบให้นางไปพบ

หากแม่เล้าสวีเอ่ยปากมาเองนางก็ต้องไป กัวจือหรานก้มมองเสื้อผ้าตัวเอง เห็นว่าเรียบร้อยดีจึงออกจากห้องเดินตามสาวใช้ขึ้นไปบนตึกหน้าชั้นสอง เป็นห้องรับรองพิเศษที่ปิดประตูมิดชิด ไม่บ่อยนักที่นางจะขึ้นมาบนตึกหน้าแห่งนี้เพราะไม่มีเหตุจำเป็น นอกเสียจากยามคำนวนรายรับรายจ่ายและจ่ายเบี้ยรายเดือนให้ทุกคนเท่านั้น

ห้องพิเศษอย่างดีที่สุดกำลังมีเสียงผีผาดังแว่วมาให้ได้ยิน จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงหัวเราะอย่างเบิกบานใจของแม่เล้าสวี กัวจือหรานจึงเร่งฝีเท้าไปเคาะประตูสามครั้ง เมื่อได้ยินเสียงตอบรับนางก็ผลักประตูเข้าไป เมื่อเห็นว่าแขกเป็นใครนางถึงกับหน้าบึ้งทันที

“ข้าล่ะอ่อนอกอ่อนใจกับนางจริง ๆ ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยแต่งเนื้อแต่งตัวงดงามสักครั้ง”

กัวจือหรานไม่สนใจคำของแม่เล้าสวีเพราะถึงอย่างไรนางก็ได้ยินคำพูดประโยคนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว “ท่านแม่เรียกข้ามามีธุระอะไรหรือ”

“คุณชายโจวอยากพบเจ้า” แม่เล้าสวีหันไปทางโจวเฟิง ยิ้มกริ่มอย่างสำราญใจจากนั้นก็ลุกขึ้น ใช้พัดขนนกสีชมพูตีที่ไหล่กัวจือหรานเบา ๆ สองสามครั้ง “ดูแลคุณชายโจวให้ดีเล่า”

“ท่านแม่ เหตุใดไม่เรียกคนอื่นมา ข้าหาใช่หญิงขายศาสตร์ขายศิลป์ขายเนื้อหนังนะ”

“คนอื่นไม่ว่าง” แม่เล้าสวีตอบส่ง ๆ จากนั้นก็ออกจากห้องไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ ฟังดูเย้ายวนและเหมือนอยากจะกลั่นแกล้งกัวจือหรานด้วย

กัวจือหรานหันกลับมามองโจวเฟิงที่นั่งเอนกายกับหมอนใบใหญ่ชันเข่าข้างหนึ่ง ในมือถือจอกสุราค่อย ๆ จิบ ท่าทางสุขสบายและผ่อนคลาย หญิงงามดีดผีผาขับกล่อมลำนำไปพร้อมกับสายลมเอื่อยอ่อนที่พัดโชยเข้ามาทางหน้าต่างพาให้ม่านโปร่งบางพลิ้วไหว

“ท่านต้องการพบข้า?”

เขาพยักหน้า “นั่งลงก่อนสิ” เขาวางจอกสุราแล้วโบกมือไล่หญิงงามที่กำลังดีดผีผาอยู่ นางก็ลุกขึ้นทันใด ในห้องจึงเหลือแต่เขากับกัวจือหรานสองคน นางแอบรวบสาบเสื้อเข้าด้วยกันโดยไม่รู้ตัว

โจวเฟิงส่งจอกสุราให้นาง แต่กัวจือหรานส่ายหน้า มองเขาด้วยความระแวดระวังแล้วเอ่ย “ข้าไม่ดื่ม”

“กลัวหรือ?” เขาเอื้อมมือข้ามโต๊ะมาคว้าข้อมือนาง ออกแรงเล็กน้อยเท่านั้นหญิงสาวก็เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดเขาแล้ว

“ปล่อยข้านะ ปะ...” ริมฝีปากถูกประกบทันทีปิดกั้นเสียงตะโกนด้วยความตระหนก กัวจือหรานดิ้นรนขัดขืนสุดแรง แต่เขากดท้ายทอยนางไว้ จุมพิตเร่าร้อนรุกรานจนนางหายใจไม่ออก ในปากมีแต่รสหวานของสุราดอกท้อ กลิ่นหอมหวานผสมไปกับสัมผัสที่รุกราน ทำให้นางมัวเมา ไม่รู้เมาสุราหรือเมารสสัมผัส แต่รับรู้ได้ว่าร่างกายอ่อนยวบไร้เรี่ยวแรงต่อต้านแล้ว หน้าอกถูกลูบขยำหนักเบา ลมหายใจของเขาเริ่มหอบหนัก สองขาเขากักกอดนางไว้ไม่ให้ขยับลุกหนี มือหนึ่งสอดเข้าไปในสาบเสื้อ แหวกมันออกจนเห็นเอี๊ยมสีขาว อีกมือกระตุกสายรัดเอวนางออก ตัวเสื้อคลายออกด้วยความง่ายดาย เป้าหมายต่อไปคือปมเอี๊ยมสองปม จากนั้นหน้าอกอวบอิ่มขาวผ่องไร้สิ่งกีดขวางก็เด่นตาจนทำคนตกตะลึง

ใบหน้าหล่อเหลาเลื่อนมาฝังจมูกกับซอกคอระหง สูดดมกลิ่นสมุนไพรอ่อนจาง เพราะกลิ่นนี้ทำให้เขาอดแลบลิ้นออกมาเลียไม่ได้ จากนั้นเริ่มขบเม้มเนื้อนุ่มลื่น กัวจือหรานรู้สึกวูบวาบทั้งยังตื่นกลัวจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่หันหนีใบหน้าเขาจนเป็นว่านางเปิดทางให้เขาซุกไซ้โดยไม่รู้ตัว สองมือเขาลูบไล้เนินอกอวบอิ่ม ปลายนิ้วเริ่มสะกิดผลแดงฉ่ำเล็กๆ ตรงปลายยอดทรวง

กัวจือหรานงอกายเพราะเริ่มรู้สึกไม่สู้ดี เพราะมันเป็นความรู้สึกที่นางไม่รู้จัก แต่โจวเฟิงกลับไม่หยุดมือ เขายังฟ้อนเฟ้นความนุ่มหยุ่นอย่างพอใจ ใบหน้ายังซุกซอกคอนางด้วยความชมชอบ จนกระทั่งได้ยินเสียงที่หลุดครางออกมาแผ่วเบาของนาง เขาจึงอมยิ้มเลื่อนใบหน้าลงต่ำ จูบซับความนุ่มลื่นของผิวนาง ทั้งยังขยี้จมูกกับผิวนางบ้างเป็นบางครั้ง

กัวจือหรานผวาเมื่อรู้สึกว่าแผ่นหลังสัมผัสกับพรมที่ปูอยู่บนพื้น นางจึงยกสองมือดันอกโจวเฟิงที่คร่อมอยู่บนกายนาง ใบหน้าเขากำลังก้มลงมาหาหน้าอกที่เปิดเปลือย แต่ที่ทำให้นางรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ กลับเป็นสายตาที่พราวระยับเพราะกำลังจับจ้องเนินอกนางอย่างหยาบโล้น

“อย่า ปล่อยข้า อือ ไม่นะ” กัวจือหรานร้องประท้วงเพราะเขาก้มลงมาฝังจมูกกลางอกนางแล้ว

ริมฝีปากบางสวยกำลังอ้าแล้วกลืนกินปลายยอดทรวงสีแดงฉ่ำของนางเข้าไป ดูดเม้มรัวเลียจนกัวจือหรานดิ้นพล่านเพราะความรู้สึกกระสันที่จู่โจมไม่ทันตั้งตัว เขาดูดเม้มลากลิ้นเลียทิ้งรอยแดงและน้ำลายเปียกชื้นไว้ทั่วสองเต้า ปลายยอดที่ถูกรุกรานแข็งสู้จนเขาส่งเสียงครางอย่างพอใจ สองมือลูบไล้ไปตามเรือนร่างเย้ายวนที่ซ่อนไว้ในเสื้อผ้าสีเขียวใบบัวแบบเรียบง่าย

กัวจือหรานน้ำตาซึมหางตาแล้ว ต่อต้านเขาอย่างไรก็ไม่ได้ผล พอนางส่งเสียงร้องดังขึ้นเขาก็ใช้จุมพิตเร่าร้อนมาปิดปากนางเสีย จนกระทั่งนางหมดแรงแล้ว ตัวอ่อนยวบยาบ แข่งขาสั่นไปหมด ไม่นานโจวเฟิงก็คายยอดอกนางออก ขยับใบหน้ามาซุกไซ้ซอกคอนางอีกครั้ง

“พาข้าไปที่ห้องของเจ้า” เสียงกระซิบแหบต่ำ ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดข้างหูจนกัวจือหรานต้องย่นคอหนี “เร็วสิ” เขาดันนางออกจากอ้อมแขน ดึงนางขึ้นนั่งและใส่เสื้อผ้าให้นางด้วยความรวดเร็ว กัวจือหรานไม่ทันตั้งตัวก็ถูกเขาฉุดให้ลุกขึ้นผลักประตูออกไปแล้ว

“แผลข้ามีปัญหา ไปที่ห้องเจ้า” โจวเฟิงเห็นกัวจือหรานไม่ยอมก้าวต่อ เขาจึงก้มลงไปกระซิบข้างหูนางอีกครั้งแล้วก็ได้ผล เพราะเขากำชับกัวจือหรานมาแล้วว่าเรื่องที่เขาบาดเจ็บจะแพร่งพรายออกไปไม่ได้เป็นอันขาด ด้วยฐานะพิเศษของเขามีคนมากมายเท่าไรที่อยากจะมาแทนที่ ใช่ว่าปีสองปีจะมายืนอยู่ยังจุดนี้อย่างเขาได้ วาณิชหลวงไม่ใช่เป็นกันง่ายๆ หรอกนะ

กัวจือหรานจำต้องเดินนำเขาลงจากตึกหน้าผ่านทางเดินเล็กและเงียบสงบไปยังเรือนพักด้านหลัง ตอนนี้ในเรือนพักไม่เหลือสาวใช้อยู่แล้วเพราะคงไปช่วยในตึกหน้ากันหมด

กัวจือหรานผลักประตูเข้าไปด้วยอาการเหม่อลอย ยังตั้งสติไม่ได้เพราะถูกโจวเฟิงรุกรานจนสมองมึนงงไปหมด

อีกด้านหนึ่งแม่เล้าสวีกับสาวใช้ประจำตัวของกัวจือหรานแอบมองอยู่ “ทำเช่นนี้หมอกัวจะไม่เอาผิดบ่าวแน่หรือ”

“เด็กโง่ เจ้าจะกลัวอะไร ข้าหาสามีให้นางอยู่นะ รอดูเถอะ หากคุณชายโจวแต่งนางเข้าสกุลโจวจริง ข้าจะให้เจ้าติดตามออกเรือนไปด้วย ต่อไปเจ้าจะมีชีวิตที่ดีแน่นอน”

“อยู่ที่ไหนก็ไม่ว่าหรอกเจ้าค่ะ ขอแค่ท่านกับท่านหมอกัวไม่ทิ้งบ่าวก็พอ”

“ไม่ต้องมาประจบข้า” แม่เล้าสวีทำท่าดุแต่นางอารมณ์ดียิ่ง เมื่อได้ยินเสียงแหบต่ำของบุรุษกับเสียงครางแผ่วเบา ของสตรี แม่เล้าสวียกพัดขนนกขึ้นปิดปากหัวเราะเสียงระรื่น นัยน์ตาพราวระยับงดงามสมใจ “เด็กน้อยเอ๋ย แม่หาสามีดีๆ ให้เจ้าอยู่นะ ในเมื่อคุณชายโจวสนใจในตัวเจ้าแล้ว เจ้ายังจะเล่นตัวไปทำไมกัน” แล้วนางก็หัวเราะ จากนั้นหันไปทางสาวใช้ “ไปๆ ไม่ต้องคอยปรนนิบัติที่นี่แล้ว เจ้าไปช่วยข้าที่ตึกหน้า” นางลากตัวสาวใช้นามจูอีตามไปด้วย ปล่อยเรือนของกัวจือหรานให้เป็นไปตามความประสงค์ของคุณชายโจวก็แล้วกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel