ตอนที่ 3 ก่อกวน (3)
“นอนที่หน้าเตียง” เสียงแหบแห้งดังมาอีก
กัวจือหรานหันมองหน้าสาวใช้ สองสาวใช้รีบหอบที่นอนหมอนผ้าห่มมาปูให้ที่หน้าเตียง กัวจือหรานใบหน้าแข็งทื่อไปทันใด ได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่นายบ่าวทั้งสามคน
“ท่านหมอกัว วันนี้ต้องลำบากท่านแล้ว เชิญเจ้าค่ะ” สาวใช้ทั้งสองกล่าวแล้วก็พากันถอยออกไป หน้าห้องนอนใหญ่มีเสียงพูดคุยกันอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็เงียบหายไป ในห้องที่สว่างจ้าถูกสาวใช้ดับเทียนไปหลายเล่มแล้ว
กัวจือหรานถอนหายใจเฮือกใหญ่แต่ก็ยอมล้มตัวลงนอน ถึงอย่างไรก็ยังดีกว่าอดนอนก็แล้วกัน นางนอนทั้งที่สวมเสื้อผ้าครบชิ้น ผมที่มัดรวบไว้ครึ่งหนึ่งก็ยังไม่คลายออก นอนฟังเสียงคนบนเตียงที่ลมหายใจแผ่วเบาลงเรื่อย ๆ จากนั้นไม่นานนางก็หลับไป
ยามดึกกัวจือหรานขมวดคิ้วมุ่นเพราะมีเสียงน่ารำคาญที่คอยรบกวนการนอนของนางมาพักหนึ่งแล้ว เสียงนั้นดังกระทบอยู่ข้างหู นางง่วงนอนมากจึงตัดรำคาญด้วยการนอนคลุมโปง แต่ก็ยังได้ยินเสียงดังอยู่ใกล้จนทนไม่ไหวจึงดีดตัวลุกขึ้น หันซ้ายมองขวาจนเจอต้นเสียง เพราะคนบนเตียงนี่เองที่เคาะข้างเตียงเพื่อเรียกนาง
“ท่านจะเอาอะไร หรือว่าไม่สบายตัวตรงไหน” น้ำเสียงงัวเงียทั้งยังแหบแห้ง สองตาแทบจะปรือปิด ต่างกับท่าทางเฉยชายามปกติอยู่หลายส่วน
“ข้าจะถ่ายเบา”
กัวจือหรานสีหน้ามึนงง ใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะเข้าใจ นางจึงสลัดผ้าห่มแล้วลุกขึ้น “ข้าจะไปเรียกสาวใช้ให้”
“หยิบกระโถนมาให้ข้าก็พอ” โจวเฟิงขัดใจยิ่ง แผลไม่เจ็บมากแล้วเพราะดื่มยาไปไม่นานเท่าไร ยายังคงออกฤทธิ์อยู่ “หลังฉากกั้น ไปเอากระโถนมา”
กัวจือหรานมองตามสายตาเขาไป เห็นมุมห้องด้านขวาสุดมีฉากกั้นบานพับใหญ่สี่บานทำจากไม้หนานมู่แกะสลักลายดอกบัวตั้งสูงใหญ่อยู่ นางเม้มปากเน้นแต่ก็ยอมเดินไปหลังฉากกั้นนั้น เห็นมีโต๊ะวางอ่างล้างมือและกระโถนสำริดวางอยู่ข้างโต๊ะนั้น กระโถนมีฝาปิดอย่างดี นางจึงไปเอามันมาส่งให้เขา จากนั้นก็ยืนอยู่ที่เดิมไม่ได้ไปไหน
โจวเฟิงยันกายขึ้นนั่ง มือหนึ่งทาบอยู่ที่อกเสื้อ มือหนึ่งยันที่นอน จากนั้นก็เงยหน้ามองกัวจือหรานที่ยืนทึ่มทื่ออยู่ที่เดิม “เจ้าอยากจะเห็นเนื้อหนังสำหรับสืบพันธุ์ของข้านักหรือ”
กัวจือหรานจึงสะดุ้ง นางรีบเอื้อมไปดึงม่านหน้าเตียงลง จากนั้นก็ถอยออกมาอีกหลายก้าว ไม่นานก็ได้ยินเสียงปลดเบาที่ไม่ดังไม่เบา ทำเอานางหน้าแดงเรื่อไปเช่นกัน แม้เรื่องพวกนี้นางพอได้ยินได้ฟังมา ซ้ำนางยังได้เห็นเนื้อหนังของหญิงนางโลมมานักต่อนักแล้วแต่ก็ยังเขินอายอยู่ไม่เปลี่ยน คนอื่นเห็นนางทำหน้าเฉยชาก็เข้าใจว่านางไร้อารมณ์ความรู้สึก แต่ลึก ๆ แล้วนางแค่กลบเกลื่อนความอายของตัวเองไว้เท่านั้น
“เอาไปเก็บ” โจวเฟิงแหวกม่านออกด้วยมือเดียว อีกมือยังรวบกางเกงอยู่ กระโถนวางอยู่หน้าเตียง
“เก็บ? เก็บที่ไหน”
“เอามาจากไหนก็เอาไปไว้ที่นั่น หรือเจ้าอยากจะเอาไปเททิ้งเองเล่า”
กัวจือหรานเลยเอากระโถนกลับไปเก็บที่เดิม นางกลับมายังที่นอนของตน กำลังจะล้มตัวลงนอนแต่ที่เอวก็ถูกแขนแกร่งข้างหนึ่งเกี่ยวไว้ จากนั้นภาพตรงหน้าพลิกกลับจนนางมึนงงไปหมด รู้ตัวอีกทีนางก็ขึ้นมานอนบนเตียงของโจวเฟิงแล้ว เขาสะบัดมือปิดม่านหน้าเตียงแล้วล้มตัวลงนอนเบียดกับนาง
“ท่านจะทำอะไร!”
“ข้าเจ็บขนาดนี้ยังจะทำอะไรเจ้าได้” ว่าแล้วก็ดึงนางเข้ามากอด
กัวจือหรานขัดขืนสุดกำลังจนได้ยินเขาส่งเสียงครางเพราะนางไปโดนแผลเขา นางหยุดไปชั่วขณะ เขาก็กอดนางแน่นขึ้น
“พิษไข้เล่นงานจนเลอะเลือนไปแล้วหรือไง ปล่อยข้า!”
โจวเฟิงปิดตาลง นอนกอดซ้อนหลังนางอยู่อย่างนั้น มือก็เลื่อนไปกอบกุมหน้าอกนุ่มเต็มไม้เต็มมือที่นางอำพรางไว้ในชุดแสนเฉิ่มเชย เมื่อรับรู้ได้ว่านางตัวแข็งทื่อไป เขาถึงกับยิ้มมุมปากแล้วสอดมือเข้าไปในสาบเสื้อสองชั้น ลูบไล้เนินอกอวบอิ่มผ่านเอี๊ยมสีเขียวของนางไปเรื่อย
“แม้หน้าตาจะไม่งาม แต่หน้าอกของเจ้าจับแล้วรู้สึกดีไม่น้อย”
เพียะ! กัวจือหรานไม่สนว่าเขาจะเป็นยังไงต่อ นางลุกขึ้นเหยียบบนต้นขาเขาก้าวลงจากเตียงไปทันใด ตอนนี้นางโกรธแล้วจริง ๆ
