บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 หมอหญิงประจำจวนสกุลโจว (3)

“ข้าต้องเขียนใบสั่งยา”

ฮูหยินผู้เฒ่าโบกมือครั้งหนึ่งคล้ายบอกปัด กัวจือหรานไม่สนใจสีหน้าฮูหยินผู้เฒ่ากับโจวฮูหยินนัก นางตามแม่นมผิงไปนั่งที่โต๊ะตรงมุมหนึ่ง คาดว่าก่อนหน้านี้โจวเฟิงคงจะนั่งอ่านตำราอยู่ที่นี่ ตอนนางเดินเข้ามาจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นเขา

นางก้มหน้าก้มตาเขียนใบสั่งยา ไม่ทันได้สังเกตว่าโจวเฟิงเดินมาข้างโต๊ะ ก้มลงมองนางจรดพู่กันบนกระดาษซวนจื่อเนื้อขาวอย่างดี ไม่นานใบสั่งยาบำรุงครรภ์ก็เสร็จ หมึกยังไม่ทันแห้งก็ถูกดึงไปจากมือนางแล้ว

“มีข่าวว่าเจ้าสามารถตรวจสอบเพศทารกในครรภ์ได้” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นขณะที่กวาดตามองเทียบยาด้วยความรวดเร็ว นับว่าเขาพอจะมีความรู้เรื่องสมุนไพรอยู่บ้าง ตัวยาส่วนมากคล้ายกับของท่านหมอคนอื่น แต่ใบสั่งยาของกัวจือหรานนี้เพิ่มตัวยามาอีกสามชนิด เขารู้จักดี ล้วนเป็นตัวยาบำรุงกำลังและเสริมหยินหยางให้สมดุล นับว่านางมีความสามารถพอตัว เขาจึงเป่าหมึกให้แห้งแล้วส่งต่อไปให้แม่นมผิงที่รออยู่ พยักหน้าให้อีกฝ่าย จึงเป็นอันเข้าใจว่าให้แม่นมผิงใช้เทียบยานี้ได้อย่างวางใจ

“ได้”

“เจ้าช่างมั่นใจ นิสัยอวดฉลาด”

กัวจือหรานลุกขึ้น ลูบกระโปรงสองสามครั้งแล้วจึงเอ่ยขึ้น “หากท่านไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร ข้ารักษาผู้คน โรคไหนข้าสามารถรักษาได้ไยต้องเก็บงำให้คนป่วยร้อนรนด้วย มิสู้บอกไปให้ชัดเจนย่อมดีต่อทั้งสองฝ่าย กำลังกายสามารถถูกกำลังใจที่ถดถอยบั่นทอนได้ หากกำลังใจแข็งแกร่ง ย่อมมีกำลังกายฮึดสู้โรคภัย”

โจวเฟิงยักไหล่บิดมุมปากแล้วเปลี่ยนเรื่องทันที “เจ้าเป็นคนของหอราตรีสวรรค์ เหตุใดข้าไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อน... หน้าตาไม่งาม คงไม่ได้ออกมารับแขกกระมัง” สายตาจับอยู่ที่ต้นคอขาวผ่องของนาง ยอมรับว่านางมีผิวกายละเอียดแทบไม่เห็นขนอ่อนสักเส้น ผิวคงจะอ่อนนุ่มไม่น้อย หน้าตาแม้จัดว่าธรรมดาแต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่จนมองไม่ได้

“ท่านคงสืบประวัติข้ามาแล้ว เหตุใดยังต้องถามอีก”

“แค่ตอบมา ถึงอย่างไรเจ้าก็ต้องรักษาครรภ์น้องสะใภ้ข้า จะไม่ให้ข้าได้ตรวจสอบประวัติความเป็นมาเป็นไปของเจ้าบ้างหรือ”

ทั้งฮูหยินผู้เฒ่ากับโจวฮูหยินก็นั่งฟังอยู่อีกด้านหนึ่งโดยไม่สอดปาก ทางนี้ก็จ้องหน้ากันเขม็ง กัวจือหรานถอนใจครั้งหนึ่งแล้วเริ่มบอกประวัติตัวเองคร่าว ๆ

“ข้าเป็นเด็กกำพร้า ท่านแม่สวีช่วยข้าไว้ตั้งแต่ย่างแปดขวบ สอนหนังสือให้เพื่อวันหน้าข้าจะได้ช่วยนางดูแลบัญชีให้หอราตรีสวรรค์ แต่ข้าชอบวิชาแพทย์ ท่านหมอซุนมาตรวจอาการที่หอราตรีสวรรค์หลายครั้งและพอเห็นแววว่าข้าจะสามารถร่ำเรียนวิชาแพทย์ได้ จึงรับข้าเป็นศิษย์ก็แค่นั้น”

“ในเมื่อมีวิชาแพทย์ ซ้ำยังทำงานอยู่ในโรงหมอสกุลซุนแล้วเหตุใดไม่แยกตัวออกมาจากหอราตรีสวรรค์”

“ท่านแม่สวีนับว่าเป็นมารดาคนที่สอง ซ้ำข้ายังต้องช่วยนางดูแลเรื่องบัญชีค่าใช้จ่าย ข้าจะเนรคุณท่านแม่สวีได้อย่างไร”

“สถานที่อัปมงคล!”

“อัปมงคลอย่างไรท่านก็เคยไปมาแล้วหลายครั้งมิใช่หรือ” กัวจือหรานกดเสียงให้ต่ำลง จึงมีแค่โจวเฟิงเท่านั้นที่ได้ยิน

โจวเฟิงเป็นคนใหญ่คนโตในพื้นที่ หอราตรีสวรรค์รับรองแขกมากหน้าหลายตา มีหรือที่นางจะไม่รู้ว่าโจวเฟิงก็เคยไปเยือนหอราตรีสวรรค์บ่อยครั้ง

มุมปากหยักบางของโจวเฟิงกระตุกครั้งหนึ่ง ใบหน้าเยียบเย็นขึ้นมาทันตา “นับแต่นี้เป็นต้นไป แม่นางกัวจะเป็นหมอหญิงประจำจวนสกุลโจว” เสียงที่เอ่ยนั้นได้ยินกันทั้งห้อง

กัวจือหรานอึ้งไป ยังไม่ทันขยับปากพูดเขาก็เอ่ยแทรกขึ้นมาอีก

“หากรักษาน้องสะใภ้กับหลานของข้าไว้ไม่ได้ แม่นางกัวกับข้าจะได้เห็นดีกัน” เสียงเขากดต่ำ แข็งเกล้าท่าทางข่มขู่จนกัวจือหรานเสียวสันหลังวาบ

แม้นางจะเคยเจอผู้คนมามากแต่ก็ไม่เคยถูกใครกดดันจนอึดอัดเช่นนี้มาก่อน นางพยายามรักษาสีหน้าเรียบเฉยไว้สุดกำลัง จากนั้นก็คว้ากล่องยาขึ้นมาสะพายไหล่

“ข้าคงต้องขอตัวก่อน จะมาตรวจอาการให้ฮูหยินท่านรองวันเว้นวัน เทียบยานั้นต้มจากน้ำสามชามเหลือหนึ่งชาม ดื่มก่อนอาหารเช้าวันละครั้ง หากมีอาการอะไรผิดปกติให้คนไปตามข้าได้ตลอดเวลา” นางถอยออกมาเมื่อพูดจบ คำนับเขาไปครั้งหนึ่งแล้วเดินไปทางผู้อาวุโสทั้งสอง จากนั้นคำนับอีกครั้งจนกระทั่งโจวฮูหยินเรียกคนให้ออกไปส่งนาง ขึ้นนั่งบนรถม้าเรียบร้อยแล้วกัวจือหรานถึงกล้าผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ

หลังจากกัวจือหรานออกไปแล้วฮูหยินผู้เฒ่าก็ยันกายขึ้นนั่งตรงแล้วมองหลานชายคนโตด้วยความฉงนก่อนจะเอ่ยขึ้น “มั่งใจในฝีมือของนางหรือไร จะไว้ใจหญิงสาวที่มาจากสถานที่เช่นนั้นได้หรือ”

“ข้าให้คนไปตรวจสอบประวัตินางแล้ว เป็นอย่างที่นางเล่ามา นางไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการขายเนื้อหนัง ชื่อเสียงการรักษาโรคสตรีในโรงหมอสกุลซุนก็ไม่เลวเช่นกัน อย่างเทียบยาเมื่อสักครู่ หมอท่านอื่นจะไม่สั่งยาเช่นนั้น เพราะเป็นยาแรง แต่ก็นับว่าเป็นยาดีที่มีส่วนผสมไม่ขาดไม่เกิน หมอคนอื่นฝีมือไม่อาจเทียบเท่านางได้เพราะเทียบยานี้ แม้แต่ข้าเองก็ยังไม่กล้าสั่งยาเช่นนี้ให้น้องสะใภ้มาก่อน แต่กัวจือหรานกล้า นั่นย่อมหมายความว่านางมั่นใจในผลการรักษาของตนอยู่แล้ว”

ฮูหยินผู้เฒ่าส่ายหน้า “ยังไงย่าก็ไม่วางใจ เจ้ายังพอมีวิชาแพทย์ติดตัวมาบ้าง ซ้ำยังเรียนรู้เรื่องสมุนไพรมาไม่น้อย หากวันหน้านางมาดูอาการสะใภ้รองอีก เจ้าก็มาด้วย ย่าไม่วางใจนางนักหรอก”

“ใช่ แม่ก็ไม่วางใจเลย ชีวิตของสะใภ้รองกับหลานข้าจะกล้าวางไว้ในมือหญิงสาวที่มาจากสถานที่เช่นนั้นได้อย่างไรกัน”

“ท่านย่ากับท่านแม่โปรดวางใจ ข้าจะจับตามองกัวจือหรานอย่างใกล้ชิดขอรับ”

แม้โจวเฟิงจะรับปากแล้วแต่สตรีทั้งก็ไม่ค่อยวางใจ หากกัวจือหรานไม่ได้มาจากหอโคมแดง พวกนางคงไม่กังวลขนาดนี้ แต่โจวเฟิงได้ตัดสินใจจะให้กัวจือหรานรักษาอาการของเหอเซียงต่อ พวกนางจะพูดอะไรได้อีก โจวเฟิงนั้นเป็นผู้นำในบ้าน สิทธิขาดในการตัดสินใจทุกเรื่องก็อยู่ที่เขามาตลอด เขาว่าดี พวกนางไหนเลยจะว่าเลว มีแต่ต้องคล้อยตามและรอดูต่อไปก็เท่านั้นแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel