บทที่ 3
บทที่ 3
แต่เมื่อจะเอ่ยปากเล่า ไป๋ซีเยว่ก็นิ่งไปนิด พลางคิดอย่างไม่แน่ใจว่าควรจะบอกอีกฝ่ายไปดีหรือไม่... หากคนตรงหน้าเป็นศัตรูของแคว้นหยาง ตั้งใจทำเรื่องราวทั้งหมดนี่หลอกนางเล่า เพราะมารดาของหญิงสาวสอนให้ระแวดระวังและมองคนให้ออก ซีเยว่จึงหุบปากที่กำลังจะอ้าเล่าเรื่องราว แน่นอนว่าท่าทางลังเลนั้นอยู่ในายตาของกู้หยวนเฉิง
“เธอไม่ต้องกังวลหรอก ฉันแค่อยากรู้...ว่าบ้านของเธอเป็นอย่างไร ไม่ได้คิดอะไรไม่ดี” หญิงสาวมองหน้าอีกฝ่าย กู้หยวนเฉิงนั้นดูเป็นคนดี หากบอกเพียงแค่เรื่องที่เกี่ยวกับเขาแห่งนี้ก็คงไม่เป็นอะไรกระมัง อย่างไรอีกฝ่ายรวมถึงคนของเขาก็ดูเหมือนจะรู้จักพื้นที่แถว ๆ นี้ดีอยู่แล้ว
“แคว้นหยางเป็นเช่นไรนั้นข้าไม่รู้หรอก เพราะไม่ค่อยได้ออกไปไหนมากนัก ส่วนมากไกลที่สุดที่ไปก็ชายแดนแคว้นฉู่ที่อยู่ไม่ไกลนัก เพราะเป็นบ้านเกิดของพี่สะใภ้”
“มีพี่ชายด้วย” น้ำเสียงที่ไม่แปลกใจนักดังขึ้นจากชายตรงหน้า ไป๋ซีเยว่พยักหน้า “ถึงได้คุ้นชินพูดคุยกับผู้ชายโดยไม่ติดขัด” กู้หยวนเฉิงพูดเบา ๆ เขาดูเหมือนจะพอใจที่เหตุผลในการสนิทกับคนง่ายของหญิงสาวเป็นเพราะคุ้นเคยกับการพูดคุยกับพี่ชายของตัวเอง
เขาไม่ได้คิดกังวลไปเอง แต่น้องสาวของเขา อายุก็ไม่ไกลไม่ใกล้กับคนตรงหน้าเท่าไร แต่บางครั้งเจอกับป๋ออี้หรันยังทำท่าทางอาย ๆ อยู่เลย จึงคิดว่าผู้หญิงทุกคนควรจะเป็นอย่างนั้น
“จะว่าเช่นนั้นก็ไม่ถูกนัก ข้าเป็นบุตรสาวของหมอเทวดา วัน ๆ ต้องเจอคนป่วยมากมาย ทั้งชายทั้งหญิง จะกับใครก็พูดได้คล่องทั้งนั้นนั่นแหละ”
“เธอเรียนรู้เรื่องการรักษามาจากพ่ออย่างนั้นเหรอ”
“ใช่ บิดาของข้าเก่งที่สุด แม้จะมีตัวช่วยที่ดี” ไป๋ซีเยว่นึกถึงบ่อน้ำพุข้างนอก ตั้งแต่พวกเขารู้ความท่านพ่อก็เล่าถึงความลับของบ่อน้ำให้ฟัง
ท่านพ่อบอกว่าบ่อน้ำพุนั้นเป็นบ่อศักดิ์สิทธิ์ ไม่เพียงมีน้ำที่บริสุทธิ์ให้ดื่มกินทั้งปี แต่น้ำนั้นหากนำมาปลูกสมุนไพร แม้จะเป็นสมุนไพรดาษดื่นก็จะกลายเป็นสมุนไพรล้ำค้า เพิ่มสรรพคุณได้เป็นอย่างดี
แต่ถึงแม้ว่าบ่อน้ำนี้จะมีประโยชน์ แต่ท่านพ่อและท่านแม่กลับบอกกับซีเยว่อยู่เสมอว่าไม่ควรเข้าไปใกล้มากนัก เพราะอาจเกิดเหตุไม่คาดคิดได้ ตอนแรกซีเยว่ไม่คิดมาก่อนว่าบ่อน้ำจะทำอันตรายอะไรได้ ทั้งสองห้ามจนซีเยว่และพี่ชายมักจะไม่ไปวิ่งเล่นใกล้ ๆ กับบ่อเพราะไม่อยากถูกตำหนิ
แต่จากเวลาหลายวันที่อยู่ที่นี่ บางครั้งความคิดของหญิงสาวก็ผุดขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ หากนางตกลงในบ่อแล้วมาโผล่ในอีกยุคหนึ่งล่ะ หากนี่เป็นสิ่งที่ท่านพ่อและท่านแม่ของนางกังวล และยังเรื่องที่มารดาของนางเคยเล่าให้ฟังว่า แท้จริงแล้วนางไม่ใช่คนแคว้นฉู่หรือหยาง แต่มาจากเมืองปักกิ่ง
ไป๋ซีเยว่เป็นคนฉลาด เพราะอยากรู้เรื่องราวของมารดา จึงเคยหาตำรามากมายมาเพื่อหาเมืองปักกิ่งที่ว่า แต่กลับไม่พบ มารดาของนางจึงบอกว่าเมืองนั้นไม่ได้อยู่ในช่วงยุคที่พวกเราอยู่ อีกทั้งยังเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ในเมืองนั้นให้ฟัง แม้จะไม่ละเอียดแต่ทุกอย่างล้วนไม่เหมือนกันกับสิ่งที่เคยเห็น ทำให้หญิงสาวพอเข้าใจถึงความต่าง
ฟังคราแรกซีเยว่คิดว่าที่นั่นต้องเป็นสวรรค์แน่ ๆ แต่ตอนนี้... รถที่วิ่งได้เองโดยไม่มีม้าก็จอดให้เห็นอยู่หน้าตึก ตึกสูงระฟ้า แม้ตึกที่อยู่ตรงนี้จะไม่ระฟ้าแต่ก็ทำให้สงสัยว่าสร้างขึ้นไปได้อย่างไร ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนสิ่งก่อสร้างในยุคที่เคยคุ้นชิน
ตอนนั้นซีเยว่ไม่เข้าใจคำของมารดานัก แต่ตอนนี้...
“จะว่าไป ท่านผู้บัญชาการรู้จักเมืองปักกิ่งหรือไม่” กู้หยวนเฉิงยิ้ม “ต้องรู้อยู่แล้ว บ้านของฉันอยู่ที่นั่น” ดวงตาของไป๋ซีเยว่เบิกกว้าง
“เช่นนั้นที่นั่นก็ต้องมีรถมากมาย ตึกสูงระฟ้าเหนือเมฆขึ้นไปอีก แสงไฟส่องสว่างทั้งวันคืนใช่หรือไม่” ชายหนุ่มส่ายหน้า “จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ถูก...รถมีบ้างไม่เยอะเท่าไร ตึกก็ไม่ได้สูงขนาดนั้น ส่วนไฟฟ้าก็ต้องใช้อย่างประหยัด”
ไป๋ซีเยว่ฟังแล้วก็สับสน แต่ระหว่างที่หญิงสาวกำลังคิด กู้หยวนเฉิงก็ถามคำถามหญิงสาว
“เธอรู้จักปักกิ่งหรืออย่างไร”
“ท่านแม่ของข้าเกิดที่ปักกิ่งก่อนจะย้ายมาอยู่แคว้นฉู่ แล้วมาอยู่แคว้นหยางกับท่านพ่อของข้า” พูดจบไป๋ซีเยว่ก็เดินไปที่หน้าต่างของห้องที่ตนยืนคุยกับท่านผู้บัญชาการอยู่ มันมองเห็นลงไปถึงลำธารก่อนถึงเชิงเขา ที่ปกติตอนเด็ก ๆ ซีเยว่กับพี่ชายมักจะไปเที่ยวเล่น
ยิ่งมองวิวทิวทัศน์ที่มักจะเห็นเวลาปีนขึ้นไปนั่งดูบนต้นไม้ใหญ่กับพี่ชายก็ยิ่งชัดเจน เขาลูกนี้กับเขาที่เป็นบ้านของนางต้องเป็นที่เดียวกันแน่ ๆ เพียงแต่ช่วงเวลา
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวย ก่อนจะหันไปบอกลากู้หยวนเฉิง
“ข้าว่าข้าอยู่ที่นี่มานานเกินไปแล้ว ท่านพ่อท่านแม่ของข้าอาจจะเป็นห่วงได้” กู้หยวนเฉิงไม่เข้าใจท่าทางนั้นของอีกฝ่าย “เจ้าจะกลับไปแคว้นหยางเหรอ” ไป๋ซีเยว่พยักหน้า
“มีพบก็ต้องมีจาก ข้าจัดการเรื่องที่ควรจัดการแล้ว คงหมดหน้าที่แล้ว ข้าขอลาท่านผู้บัญชาการ” พูดจบไป๋ซีเยว่ก็ก้มหัวให้อีกฝ่าย แม้จะไม่ได้ถูกบังคับ แต่หญิงสาวก็เต็มใจที่จะยกย่องอีกฝ่ายเหมือนกับที่ทุกคนที่นี่ยกย่อง
เพราะได้ยินว่าที่ทุกคนได้กลับมาที่นี่หมดไม่มีใครตาย ก็เพราะเจ้าตัวจัดการล่อศัตรูส่วนใหญ่เอง ช่างเป็นวีรบุรุษ
