บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 – เงาสะท้อนแห่งตำหนักสายน้ำจันทร์ - 1

สายหมอกบาง ๆ คลอเคลียอยู่เหนือคูน้ำด้านทิศตะวันออก เงาเรือนหลังคากระเบื้องฟ้าทอดยาวบนผืนน้ำเป็นริ้ว ๆ คล้ายพู่กันลากเส้นหมึกบนกระดาษชื้น ยามเช้าของวังหลวงงดงามดังภาพวาด ทว่าความเย็นที่แทรกซึมขึ้นจากผิวดินกลับเตือนให้จำว่า—ใต้ความงดงามยังมีเงา

เหมยลี่ตื่นตั้งแต่ก่อนกลองยามสุดท้ายดับเสียง นางนั่งขัดสมาธิบนตั่งไม้ หายใจยาวช้าเพื่อให้เลือดลมเดินสะดวก ก่อนค่อย ๆ เปิดหีบสมุนไพร ตรวจสอบขวดแก้วเล็ก ๆ ทีละใบอย่างพิถีพิถัน นิ้วเรียวแตะปากขวดยาแล้วลองดมเพียงเสี้ยวลมหายใจ กำจัดความผิดปกติด้วยสัญชาตญาณที่ถูกฝึกมาในย่านรัตติกาล—สถานที่ซึ่งกลิ่นหนึ่งผิดเพี้ยนอาจหมายถึงชีวิต

บนโต๊ะมีซองกระดาษน้ำมันที่นางยัดมาเมื่อคืน—สูตรรมไฟซ่างกู๋ระดับต่าง ๆ ตัวอักษรพู่กันสีหม่นเขียนชื่อผู้เรียบเรียงไว้ชัดเจน “หยางอี้เหวิน” เพียงมองตัวสะกดยังรู้สึกได้ถึงนิสัยคนเขียน: เส้นแข็ง ทื่อ แต่ไม่สั่น บรรทัดเรียงเท่ากันราวไม้บรรทัด วินัยเช่นนี้หากไปอยู่ในครัวหรือตำหนักใด สิ่งที่ออกมาก็จะ “คุมได้” อย่างน่ากลัว

บานประตูเลื่อนแผ่ว หลิวเซิ่งก้าวเข้ามาในเรือนเงียบ ๆ เขาสวมเสื้อคลุมสีอ่อน ขลิบไหมเงินที่สาบเสื้อทอเป็นลายเถาเมฆแทบกลืนกับผ้าพื้น ดวงตาของเขานิ่งแต่ลึก—นิ่งพอให้ผู้คนเผลอลืมว่าในความนิ่งนั้นซ่อนคมดาบ

“เมื่อคืนหลังแยกจากเจ้า ข้าออกตรวจตามแนวกำแพงด้านตะวันตก” เขาวางชิ้นผ้าเล็ก ๆ ลงตรงหน้า “เจอเศษชายเสื้อปักโบตั๋นด้วยไหมเงิน ลายมือปักของช่างตำหนักสายน้ำจันทร์เท่านั้นจึงจะทำได้เนียนขนาดนี้”

เหมยลี่หยิบขึ้นมาดู พลิกซ้ายขวา ลายโบตั๋นปลายกลีบมีเส้นเงินสองเส้นซ้อนตรงกลาง กลวิธีนี้ใช้ปกปิดรอยต่อด้ายให้ยากแก่การสังเกต หากมิใช่คนเคยจับแพรพรรณมาเองย่อมไม่ทันมองเห็น “ตำหนักสายน้ำจันทร์…คนในวังลือกันว่าเป็นที่โปรดปรานที่สุด ทั้งทิวทัศน์ ทั้งบุคคล ทั้งน้ำชาที่ปรุงด้วยดอกเหมยฤดูหนาว” นางวางผ้าลง “ยิ่งโปรด ยิ่งต้องระวัง”

“หัวหน้าห้องเครื่องของตำหนักนั้น ชื่อเจียงผิง” หลิวเซิ่งเอ่ยต่อ “เคยเป็นศิษย์ของหยางอี้เหวินเมื่อครั้งสำนักยาเมืองชายแดนตะวันตกยังเปิดสอนอยู่”

ชื่อ “เจียงผิง” ทำให้ในลำคอเหมยลี่อุ่นขึ้นชั่ววูบ—อารมณ์บอกไม่ถูกระหว่างโกรธกับขื่น “ถ้าผู้สอนริเริ่มสูตรพิษ ผู้ศิษย์ก็มิยากจะประยุกต์ให้กลิ่นหาย นับจากนี้ทุกถ้วยชาในตำหนักนั้น ข้าจะถือว่า ‘ไม่สะอาด’ จนกว่าจะพิสูจน์”

“ซ่งเหวินกำลังขอเบาะแสรายชื่อคนเข้าออกตำหนักสายน้ำจันทร์ในสามเดือนหลัง” หลิวเซิ่งกล่าวเรียบ “แต่รายชื่อบนกระดาษไม่เคยครบเท้าทั้งหมดที่เหยียบพื้นจริง เราต้องเข้าไป ‘เห็น’ ด้วยตา”

คำว่า “เข้าไป” คล้ายประตูที่งับลงอยู่แล้วเปิดออกช้า ๆ ในหัวใจเหมยลี่ นางช้อนสายตาขึ้น “เจ้ามีหนทางหรือ”

หลิวเซิ่งเหลือบยิ้มมุมปาก “ทุกกำแพงมีรอยต่อ ทุกกฎมี ‘ข้อยกเว้น’—ขึ้นอยู่กับว่าใครขอ และขอด้วยสิ่งใด” เขาขยับเข้าใกล้ เอื้อมหยิบซองสูตรพิษขึ้นมาพลิกดูไม่กี่ครั้ง “วันนี้ช่วงยามซื่อ ตำหนักสายน้ำจันทร์จะมีการชิมชาใหม่จากหอชงชาอวิ๋นเหอ ข้าจะใช้สิทธิ์ตรวจความปลอดภัยของเครื่องหอมและน้ำชา เข้าไปพร้อมคณะนั้น”

“แล้วข้า” เหมยลี่ถาม

“เป็น ‘ผู้ช่วยตรวจยา’ ของข้า” เขาตอบโดยไม่ลังเล “ตำแหน่งชั่วคราวที่ทำให้เจ้ามีสิทธิ์ยืนข้างเตาอบหอม ข้างหม้อน้ำร้อน และ—ข้างคนที่ไม่อยากให้เราเห็น”

เหมยลี่เผลอยิ้มจาง ๆ “เจ้าวางหมากทันทีที่พูดคำว่าเข้าไปสินะ”

“มิใช่หมาก” หลิวเซิ่งส่ายหน้า “แต่เป็นสะพาน—เพื่อให้เราข้ามน้ำขุ่น”

เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นหน้าประตู ซ่งเหวินโผล่มาโค้งน้อย ๆ ใบหน้าสงบคมตามเคย แต่ในแววตาแฝงความเร่งด่วน “รายชื่อมาแล้วขอรับ” เขาส่งแผ่นไม้จารอักขระให้หลิวเซิ่ง ก่อนหันมาคารวะเหมยลี่อย่างให้เกียรติ “ท่านหมอยา โปรดระวังกลิ่น ‘กุ้ยจู’ ด้วย กลิ่นนั้นใช้กลบกลินซ่างกู๋ได้ราวกับเป็นเงาของกันและกัน”

“เจ้ารู้ละเอียดดี” เหมยลี่เลิกคิ้ว

“ข้าเคยเห็นมันใช้ในงานเลี้ยงใหญ่…ครั้งที่เกิดเหตุวุ่นวายเรื่องคนล้มพร้อมกันหลายคน แต่ไม่มีใครตาย” ซ่งเหวินตอบสั้น “เช้าวันนั้นลมหนาวพัดแรง กลิ่นกุ้ยจูกระจายไปไกลจนคนเดินผ่านตำหนักยังว่าหอม”

หลิวเซิ่งไล่นิ้วตามรายชื่อบนแผ่นไม้ “ผู้คัดเลือกชา—หงอิ๋น หอชงชาอวิ๋นเหอ, ผู้ควบคุมน้ำหอม—หลันสือ หอเครื่องหอมเยว่ซู, หัวหน้าห้องเครื่องตำหนัก—เจียงผิง, นางกำนัลต้นห้อง—สี่คน” เขาเงยหน้ามองเหมยลี่ “ในบรรดานี้ ‘กุ้ยจู’ จะอยู่ในมือใคร”

“หลันสือ” เหมยลี่ตอบทันที “หอเยว่ซูขึ้นชื่อเรื่องกลบกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วยกลิ่นดอกไม้อ่อน ถ้าข้าคือคนที่อยากให้พิษเจือจางเดินทางไปโดยไม่มีใครรู้ ข้าจะฝากมันไว้ใต้ ‘ความหอม’ มิใช่ในหม้อใหญ่”

ซ่งเหวินพยักหน้า “ข้าจะเตรียมตราตรวจผ่านทางของสำนักใช้สอยให้พวกท่าน” เขาถอยไปเพียงสองก้าว พลันหยุด “อ้อ อีกเรื่อง…รองหัวหน้าสำนักใช้สอยออกตรวจรอบเช้านี้ด้วยตนเอง”

ห้องนิ่งไปชั่วคราว หลิวเซิ่งกับเหมยลี่สบตา—ชื่อ “รองหัวหน้า” ที่เคยขวางพวกเขากลางคืนก่อนยังอุ่นปลายลิ้น

“ยิ่งมากคนดู ยิ่งต้องเรียบ” หลิวเซิ่งกล่าวเนิบ “เราจะเข้าไปอย่างถูกต้องทุกประการ—ให้เขาไม่มีที่จับผิด”

ยามไม่นานหลังจากนั้น คณะเล็ก ๆ ก็เคลื่อนตัวออกจากเรือนรับรอง เหมยลี่เปลี่ยนเป็นชุดนางกำนัลตรวจยา สีหม่น ปกสูง คาดผ้าขาวที่เอว สำหรับเหน็บตลับเข็มและขวดแก้วเล็ก ๆ ผมถูกรวบขึ้นเรียบร้อย ไม่ประดับสิ่งใดนอกจากปิ่นไม้เรียวหนึ่งอัน ลดทอนทุกสิ่งที่อาจสะดุดตา เหลือเพียงดวงตาดำสนิทที่เฝ้ามองโลก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel