ตอนที่5.กำไร ก็คือ...
“เอาของมาส่งแล้วค่ะ”
“มาแล้วเหรอกะทิ” คุณพยาบาลสาวยิ้มทักแล้วพยักหน้าให้
“ค่ะ ผ้าอ้อมสำเร็จไซส์เอ็มกับเอ็กซ์แอล แล้วก็แป้งเด็กลดผดผื่น ทิชชู่เปียก มีน้ำผลไม้ด้วยค่ะ แล้วก็แปรงสีฟันยาสีฟันตามสั่งครบทุกรายการ กะทิแยกบิลให้หมดทุกรายการแล้วค่ะ เงินทอนใส่ในถุงให้แล้ว”
“ขอบใจมากนะจ๊ะ”
“กะทิต่างหากที่ต้องขอบคุณพี่ๆ ทำให้มีรายได้พิเศษด้วยเลยค่ะ” หญิงสาวส่งยิ้มหวาน “อยากกินอะไรเป็นพิเศษบอกได้เลยนะคะ นอกเหนือจากเมนูก็ได้ค่ะ ถ้าพี่ตะโก้ทำได้ กะทิจะสั่งให้ทำให้เลยค่ะ”
“จ๊ะๆ พี่น้องคู่นี้น่ารักจริงๆ ยังไงก็ขอให้ได้งานประจำทำเร็วๆนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
เกวลินยกมือไหว้ลาพยาบาลประจำชั้น เธอมาส่งข้าวกล่องบ่อยๆ จนคุ้นเคยกับทุกคนไปแล้ว ผู้ป่วยบางคนพักรักษาตัวนาน ไม่มีญาติพี่น้อง หรือญาติไม่สะดวกมาเยี่ยม เธอจึงอาสาไปซื้อมาให้ เพราะยังไงเธอก็ว่างตามประสาคนไม่มีงานประจำทำอยู่แล้ว บางคนออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว ยังติดต่อเธออยู่ก็เลยได้ลูกค้าข้าวกล่องเพิ่มขึ้น บางรายอยู่บ้านคนเดียว จะสั่งซื้อของเข้าบ้านก็ไม่ชอบให้คนแปลกหน้ามาบ้านบ่อยๆ เธอรับฝากซื้อของตามที่ต้องการจัดการส่งถึงบ้านให้ด้วย ใครจะรู้ว่าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้กลายเป็นรายได้ของเธอ
แต่ถ้าถามหากำไร ก็คือได้เห็นหน้าคุณหมออิฐยังไงล่ะ!
...
เสียงประตูบ้านเปิดออกทำให้ชายหนุ่มสองคนผละออกจากกัน การันต์ปรับลมหายใจครู่หนึ่งแล้วยกนิ้วโป้งเช็ดมุมปากให้ชายหนุ่มที่ยืนหน้าแดงตรงหน้า
“จ๊ะเอ๋” เสียงหวานใสของเกวลินดังขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะโผล่หน้าเข้ามาในครัว หญิงสาวปลดหน้ากากอนามัยแล้วเดินตรงดิ่งไปล้างมือที่อ่างล้างจานเหมือนปกติที่เคยทำ
“ไปส่งของมาเหรอครับ” วายุเอ่ยทักทายน้องสาวของคนรัก
“ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับแต่แอบหลิวตามองพี่ชายตัวโตที่ทำหน้ากระอักกระอ่วน “สงสัยกะทิจะกลับบ้านเร็วไปหน่อย”
“กลับช้าไปครึ่งชั่วโมง” การันต์ดุน้องสาว “พี่บอกแล้วไง แค่ส่งข้าวกล่องของที่ร้านก็พอแล้ว ไม่ต้องออกไปซื้อของส่งของอะไรพวกนั้นหรอก”
จะเรียกว่าเป็น ‘ไรเดอร์’ ก็เรียกได้ไม่เต็มปาก เพราะน้องสาวของเขาไม่ได้รับงานประจำ แต่จะเรียก ‘จิตอาสา’ก็ไม่ใช่ เพราะได้รับค่าตอบแทนตามสมควร การันต์กลุ้มใจไม่น้อยที่น้องสาวคนเดียว ขับรถซื้อของ-ส่งของตามใบสั่งให้ลูกค้าอย่างนี้
“แวะเอาข้าวไปให้แมวจรค่ะ เลยมาช้าไปนิดหนึ่ง” เกวลินยิ้มทะเล้นแล้วหันไปทางวายุ “หิวจังเลยค่ะ มีอะไรกินบ้างคะ”
“ตะโก้ทำไข่พะโล้ไว้ แล้วก็มีทอดมันปลากราย น้องกะทิจะกินเลยไหม พี่จะอุ่นกับข้าวให้กินร้อนๆ”
“กินเลยดีกว่าค่ะ กินข้าวแล้วกะทิจะได้ไปอาบน้ำ” พูดจบก็เช็ดมือกับผ้าเช็ดมือที่แขวนอยู่ด้านข้างแล้วเดินไปนั่งรอที่โต๊ะกินข้าว พี่ชายส่ายหน้าไปมาแล้วหยิบจานตักข้าวให้น้องสาว เขาทำหน้าที่ทุกอย่างในบ้านเป็นแทนแม่ที่ตายจากไปได้ห้าปีแล้ว ส่วนพ่อแท้ๆ นั้นทออดทิ้งไปตั้งแต่เกวลินอายุได้สิบขวบ เดิมทีอยู่กันสองคนพี่น้อง แต่ตอนนี้ชีวิตเขามีเกวลินเองไม่ติดขัดที่รู้ว่าพี่ชายมีคนรักเป็นผู้ชาย ยุคนี้แล้ว เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องธรรมดา วายุเข้ามาอยู่ร่วมบ้านได้สองเดือนแล้ว ที่ผ่านมาก็ไม่ได้สร้างปัญหาอะไร แถมยังคอยดูแลเธออีกด้วย ก็ถือว่าเป็นคนดีคนหนึ่งเลยทีเดียว
“วันนี้น้องกะทิดูอารมณ์ดีนะครับ” วายุทักที่เห็นน้องสาวคนรักเอาแต่นั่งยิ้ม เขาวางถ้วยใส่ไข่พะโล้บนโต๊ะ ตามด้วยจานทอดมันปลากราย น้ำจิ้มที่มีแตงกวาหันบางๆ และรินน้ำดื่มให้ การันต์บ่นพึมพำที่เขาเอาใจใส่น้องสาวมากเกินไป กลัวว่าจะเสียนิสัย แต่พี่น้องคู่นี้นิสัยชอบโต้เถียงกันแต่รักกันมาก ที่สำคัญมองเขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวทำให้เขาสบายใจและอบอุ่นใจมากกว่าครอบครัวที่ากมา เป็นเหตุผลที่ทำให้วายุเอาใจใส่ดูแลเกวลินเหมือนน้องสาวตัวเอง
‘วายุ’ เพิ่มเข้ามาเป็นหนึ่งในครอบครัวของเขา แรกทีเดียวก็กลัวน้องสาวจะรับไม่ได้ แต่หลังจากคบหาดูใจในฐานะ ‘คนรัก’ มาสองปี และเมื่อลองถามเกวลินดู น้องสาวไม่ขัดข้องอะไร เขาจึงให้วายุย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน
