บทย่อ
'เกวลิน' หญิงสาววัย22ปี สาวหน้าหวานผิวขาวสมกับชื่อเล่น 'กะทิ' เพิ่งเรียนจบและยังไม่มีงานทำจึงช่วยงานพี่ชาย ‘ตะโก้’หรือ การันต์ ที่ดูแลกิจการร้านอาหารต่อจากแม่ที่เสียชีวิตไปห้าปีแล้ว ส่วนพ่อนั้นทอดทิ้งทั้งสามคนไปตั้งแต่การันต์อายุได้เพียง 10 ขวบ ‘หมออิฐ’ หรือ ‘นายแพทย์อิทธิพล’ หมอหนุ่มวัย 34 ปี หน้าตาก็ไม่ได้แย่ ฐานะการเงินและการงานก็ดีเลิศ แต่กลับอกหักซ้ำซากจจน่าสงสาร (กระซิกๆ) เกวลินเคยพบหมออิฐตั้งแต่เธออยู่ ม.5 ในตอนนั้นหมออิฐมาที่โรงเรียนในฐานะศิษย์เก่า เขามาพูดแนะแนวเรื่องการสอบเข้าคณะแพทย์ เกวลินชอบเขามาตั้งแต่ตอนนั้น แต่ก็รู้ดีว่าตัวเองไม่มีความสามารถที่จะสอบคณะแพทย์ เธอเรียนคณะบริหาร ช่วยงานที่บ้านซึ่งเป็นร้านอาหาร ซึ่งอยู่ใกล้โรงพยาบาลที่หมออิฐทำงานอยู่ เขาไม่รู้จักเธอ แต่เธอรู้จักเขาและมีความสุขดีกับการแอบรักข้างเดียว หญิงสาวขับมอเตอร์ไซค์ส่งอาหารให้หมอ-พยาบาลที่โทรสั่งเป็นประจำ และแล้วกามเทพก็ทำงานให้เธอต้องมาใกล้ชิดกับคนที่แอบรักเข้าจนได้! .... “ก็เมื่อก่อนพี่มีแฟน พี่จะมองคนอื่นได้ไง” เขาพูดไปตามตรงเพราะมันเป็นเรื่องในอดีต “ก็จริงนะ” เกวลินพยักหน้ารับ ตอนนั้นเขามีแฟนอยู่แล้ว ไม่เคยเห็นหมออิฐนอกใจแฟนเลย การที่เธอไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก และตอนที่เขามองเธอก็คือตอนที่เขาโสดสนิทด้วย “ขอบคุณนะคะ” “เรื่องอะไรครับ?” “ขอบคุณที่หันมามองกะทิไงคะ” ‘ขอบคุณที่ทำให้ความรักของกะทิสมหวังด้วยค่ะ’ ชายหนุ่มนิ่งงันไปทันที ทำไมรู้สึกเหมือนถูกบอกรักโดยไม่ต้องมีคำว่ารัก ใบหน้าหมอหนุ่มจึงแดงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ หรือมีแฟนเด็กมันดีแบบนี้เอง.
ตอนที่1. ได้ยินว่า...
“ได้ยินว่าหมออิฐอกหักอีกแล้ว”
“พูดเป็นเล่น เห็นหวานออกสื่อขนาดนั้น”
“ก็ไม่รู้สินะ แต่ที่แน่ๆ หมออิฐอัพเดทสถานะโสดแล้วจ้า”
“แต่เหมือนได้ยินว่าหมออิฐก็เพิ่งอกหักไม่ใช่เหรอ”
“สี่ปีอกหักสามหนเลยนะ ธรรมดาที่ไหน”
“หมออิฐก็เป็นคนดีอยู่นะ ทำไมอกหักบ่อยจัง”
“อยากรู้ก็ไปดามอกให้หมออิฐดูสิ”
บทสนาของบรรดาพยาบาลสาวดึงดูดความสนใจของเกวลิน เธอไม่ได้ชอบสนใจเรื่องของคนอื่น แต่ที่สนใจก็เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ ‘หมออิฐ’ หรือ ‘นายแพทย์อิทธิพล’ ผู้ชายที่เธอแอบรักข้างเดียวมานาน
“อ้าว น้องกะทิมาส่งข้าวเองเลยเหรอ” พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยทักเมื่อเห็นแม่ค้าหน้าหวานเข้ามาพร้อมถุงใส่กล่องอาหารนับสิบกล่อง
“ค่ะ วันนี้พี่ตะโก้ต้องเอารถไปซ่อมค่ะ” หญิงสาวยิ้มกว้าง แม้มีหน้ากากอนามัยปิดครึ่งใบหน้าก็ตาม “มีน้ำใบเตยด้วยค่ะ อันนี้แถมฟรี”
“น่ารักจังเลย ขอให้ขายดีนะจ๊ะ” พยาบาลสาวรับถุงอาหารมาแล้วหยิบมือถือมาโอนค่าอาหารที่สั่งไว้
“เอ่อ... หมออิฐกลับมาจากโรงพยาบาลสนามแล้วเหรอค่ะ”
“อ้อ! ใช่จ๊ะ โรงพยาบาลสนามปิดแล้ว หมออิฐกลับมาประจำแผนกอายุรกรรม ลำบากกะทิแล้วนะ คนนี้กินยาก ถ้าวันไหนหมออิฐสั่งข้าวกล่อง พี่จะเขียนโน้ตไว้ให้เป็นพิเศษ”
“ไม่ลำบากเลยค่ะ พี่ ๆ สั่งมาได้เลยค่ะ”
หญิงสาวพยายามเก็บอาการตื่นเต้นดีใจไว้ใต้หน้ากากอนามัย แต่กระนั้น ดวงตากลมโตเป็นประกายรื่นเริง ‘หมออิฐกลับมาแล้ว’ เธอลอบมองไปด้านในของอาคารอีกครั้ง แม้ไม่เห็นอะไรเลย แต่หัวใจก็เต้นรัวด้วยความดีใจ
เกวลินหมุนตัวเดินกลับมาที่รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจซึ่งเวลานี้ด้านหลังดันแปลงให้วางลังพลาสติกใบใหญ่ใส่อาหารได้ เธอหยิบหมวกกันน็อคที่ห้อยอยู่มาสวมศีรษะแล้วขับรถออมาช้าๆ ด้วยความระมัดระวัง เพราะต้องช่วย ‘การันต์หรือตะโก้’พี่ชายคนเดียวของเธอส่งอาหารตามในละแวกใกล้เคียง ถึงจะต้องฝ่าอากาศร้อน แต่หญิงสาวก็ไม่เคยบ่นเพราะเป็นกิจการของครอบครัว
“ปั่นจักรยานได้ ขับรถยนต์เป็น มอเตอร์ไซค์ก็ไม่ยากหรอก”
หญิงสาวนึกถึงตอนที่พี่ชายสอนเธอขับมอเตอร์ไซค์ จะว่าไปการันต์ไม่อยากให้เธอขับมอเตอร์ไซค์นักหรอก แต่เพราะความจำเป็น หลังจากแม่ตายจาก ก็เหลือกันเพียงสองคนพี่น้อง พี่ชายรับหน้าที่เป็นพ่อครัว ส่วนเธอประจำตำแหน่งแคชเชียร์ พี่ชายลองปรับปรุงร้านเป็น ร้านอาหารกึ่งผับ เพิ่มรายได้ด้วยการขายเครื่องดื่มยามค่ำคืน ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับดีที่เดียว ทุกอย่างมันเหมือนจะไปได้ดีแล้วแท้ๆ แต่สถานการณ์โควิด-19ทำให้ผับของการันต์ต้องปิดร้านอย่างไม่มีกำหนด มาตราการของรัฐไม่ได้ช่วยอะไรคนทำงานกลางคืนนัก ไม่ว่าจะนักร้องนักดนตรี พนักงานในร้าน การันต์พยายามเต็มที่แล้ว แต่ไม่อาจช่วยทุกคนหรือแม้แต่ตัวเองได้ เงินเก็บร่อยหรอลงไปที่ละน้อย เพราะต้องลดต้นทุนลง ทำให้เหลือแค่พนักงานในร้านอีกสองคน และเธอเองก็มาช่วยงานในร้านด้วยเช่นกัน
“ขอโทษนะ พี่ทำให้เราลำบากแล้ว”
“ลำบากอะไรคะ เราพี่น้องกันนะ ถ้ากะทิไม่มีพี่ตะโก้ดูแล กะทิจะเป็นยังไง”
เกวลินจำได้ว่าตัวเองหัวเราะเสียงใส เธอรู้ดีว่าสถานการณ์อย่างนี้สิ่งที่การันต์ตัดสินใจนั้นดีที่สุดแล้ว เธอเองเพิ่งเรียนจบยังไม่มีงานประจำทำ ตอนนี้ทำได้แค่ช่วยงานพี่ชายไปก่อน พ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่เธอยังเด็ก เธอจำหน้าพ่อไม่ได้ด้วยซ้ำและแม่ก็ไม่เก็บรูปพ่อไว้ให้ดู แต่เท่าที่พี่ชายเล่าให้ฟัง พ่อเป็นผู้ชายที่ไม่มีความเป็นพ่อเอาเสียเลย คงเพราะแบบนี้ การันต์จึงดูแลเธอราวกับเป็นพ่อคนที่สอง ส่วนแม่ก็หาเลี้ยงลูกสองคนด้วยการทำข้าวราดแกงขาย แม่เป็นคนขยันอดออมจนเก็บเงินซื้อบ้านและตึกแถวทำร้านอาหารได้ ในวันที่แม่ไม่อยู่จึงเป็นสมบัติอันมีค่าที่แม่ทิ้งไว้ให้ลูกทั้งสองคนได้ตั้งตัวได้
เกวลินขับมอเตอร์ไซค์กลับมาที่ร้านอาหารที่เคยเป็นผับของนักท่องราตรีมาก่อน หญิงสาวจอดรถเรียบร้อยแล้วเดินเข้ามาในร้าน ด้านหน้ามีลูกค้ามารอซื้ออาหารกลับบ้านอยู่สามสี่คน เธอล้างมือแล้วยื่นหน้าไปในครัว

