บท
ตั้งค่า

ตอนที่4. ผู้หญิงอะไรตาโตจริง

“ก็ว่าจะอยู่เกาะพ่อเกาะแม่ไปจนตายเหมือนกันครับ”

จำได้ว่าเขาย้อนพ่อไปแบบนั้น

“บ๊ะ! ไอ้ลูกคนนี้ จะทำให้พ่อแม่เป็นห่วงไปถึงไหน”

“ผมสามสิบกว่าแล้วนะพ่อ เรียนจบมีงานทำแล้ว แค่ยังหาเมียไม่ได้แค่นั้นเอง แล้วเดี๋ยวนี้ใครเขามาคิดเรื่องพวกนี้กันเล่า”

“เอาน่าๆ พ่อลูกคู่นี้ก็คุยกันดีๆ ไม่เป็นหรือไง” แม่ออกโรงห้ามทัพก่อนที่พ่อลูกจะปะทะฝีปากกันมากไปกว่านี้ “พ่อกับแม่ก็แค่เป็นห่วง แต่ถ้าแกอยากอยู่คนเดียวไปทั้งชีวิตก็เตรียมวางแผนซื้อประกันชีวิตหรือดูบ้านพักคนชราไว้ก็ดีนะลูกนะ”

คราวนี้เขาถึงกับหน้าหน้ายู่ อายุแค่สามสิบสี่ให้วางแผนใช้ชีวิตที่บ้านพักคนชรา แต่พ่อกลับหัวเราะพรืดออกมาแล้วพยักหน้าเห็นด้วยกับแม่ บ้านนี้มีลูกชายสามคน พี่ชายสองคนแต่งงานแยกกันไปสร้างครอบครัวของตัวเอง ส่วนเขาที่ยังโสดแต่ไม่อยากอยู่บ้านเดียวกับพ่อแม่ ย่องไปซื้อคอนโดไว้ซุกหัวนอน แต่ก็กลับบ้านทุกเดือน เช่นเดียวกับพี่ชายทั้งสองที่แวะเวียนพาลูกมาเยี่ยมคุณปู่คุณย่าบ่อยๆ แต่พอกลับไปแล้วบ้านก็เงียบ ตอนนี้พ่อที่เกษียณตัวเองมาปลูกต้นไม้เล็กๆ น้อยๆ ขายเป็นงานอดิเรกจึงว่างมาเทศนาสั่งสอนเกมบังคับให้เขาแต่งงานเสียที

ชายหนุ่มเผลอถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ไม่ได้อยากอยู่เป็นโสดนี่ คนล่าสุดที่เพิ่งเลิกลากันไปก็เพราะทัศคติไม่ตรงกัน คนเป็นหมอก็ไม่ใช่ว่าอยากเปิดคลินิกของตัวเองทุกคนเสียหน่อย หลังเลิกงานแล้วก็อยากพักผ่อนไปทำอะไรอย่างอื่นบ้าง เข้าฟิตเนสบ้าง ซ้อมดนตรีกับเพื่อนบ้าง แต่คุณเธอมองว่าเขาไม่อยากก้าวหน้า ไม่อยากมีเงินเก็บ สุดท้ายก็ได้แต่โบกมือลากันด้วยดี

ขณะเดินไปใกล้ถึงตึกอายุรกรรม สายตาปะทะกับผู้หญิงคนหนึ่งกำลังพ่นสเปรย์ใส่บรรดาถุงข้าวของที่ตั้งบนโต๊ะม้าหิน ครู่หนึ่งเธอก็พ่นสเปรย์ใส่ตัวเอง เขาขมวดคิ้วแล้วอดเตือนไม่ได้

“คุณครับ ไม่ต้องพ่นสเปรย์แอลกอฮอร์ใส่ตัวเองแบบนั้นหรอก แค่ใช้เจลล้างมือบ่อยๆ ก็พอแล้ว”

“ขอโทษค่ะ มันเคยชินไปแล้ว” เสียงหวานใสเอ่ยปนหัวเราะร่าแล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับอีกฝ่าย

ผู้หญิงอะไรตาโตจริง ดวงตาสวยเหมือนมีหยดน้ำเอ่อคลอ

อิทธิพลเผลอมองดวงตาคู่สวยของอีกฝ่าย และต่างคนต่างมีหน้ากากอนามัยปิดครึ่งใบหน้าทำให้ไม่รู้ว่าริมฝีปากก็ยิ้มออกมาด้วย

“หมออิฐ”

“ครับ?” เขาขานรับ แปลกใจที่ถูกเรียกอยากสนิทสนม

เกวลินยิ้มกว้าง แน่ล่ะ! ได้เจอคนที่แอบรักจะไม่ยิ้มได้ยังไง แต่ยิ้มกว้างแค่ไหนเขาก็คงไม่รู้ เพราะตอนนี้มีหน้ากากอนามัยปิดปากปิดจมูกอยู่ สีหน้าเขาบอกชัดว่าจำเธอไม่ได้ ซึ่ง...มันก็ดีแล้วล่ะ

“หมอกินข้าวเที่ยงแล้วเหรอคะ”

“ครับ...เรียบร้อยแล้วครับ”

“ช่วงนี้ฝนตกบ่อย คนป่วยเยอะเลย ลำบากคุณหมอแย่เลยนะคะ”

“ครับ...ขอบคุณครับ”

“โอ๊ย! อีกสิบนาทีจะบ่ายโมง ขอตัวก่อนนะคะ ต้องรีบเอาผ้าอ้อมกับของใช้ไปส่งให้คนป่วยค่ะ”

“ครับ” เขายังทำหน้างงอยู่ ดูเหมือนเธอจะมาส่งของให้คนป่วย เป็นญาติเหรอ? แต่ข้าวของเยอะขนาดนี้ไม่น่าจะสำหรับคนๆเดียว หรือว่าเป็นไรเดอร์มาส่งของใช้ตามสั่ง แต่ปกติก็ไม่อนุญาตให้ไรเดอร์ขึ้นตึกผู้ป่วยนี่นะ ยังไม่ทันเอ่ยถามอะไร อีกฝ่ายก็ผงกศีรษะให้แล้วเดินเร็วไปที่ลิฟต์ทันที

เกวลินผงกศีรษะให้เขาแล้วรีบคว้าถุงผ้าอ้อมผู้ใหญ่สามสี่ถุงและถุงใส่ของใช้อีกสองถุงเดินเร็วๆ จนเกือบจะเป็นวิ่งไปที่ลิฟต์ รปภ.ประจำตึกคงคุ้นเคยกับเธอดีจึงกดลิฟต์เปิดให้ หญิงสาวยังส่งสายตามองหมอหนุ่มที่ยังยืนอยู่ที่เดิม ประตูลิฟต์ปิดลงแล้ว เธอก็แทบอยากร้องกรี๊ดๆ ออกมา

ได้คุยกับคนที่ชอบ ใจมันก็จะพองโตหน่อยนะ

เกวลินได้แต่บอกให้ตัวเองสงบใจ แบบนี้เรียกคุยได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่เอาเถอะ น้ำเสียงที่เขาพูด “ครับ” มันยังดังอยู่ในหู เสียงทุ่มต่ำฟังแล้วใจเต้นแรง เธอต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่อาการหนักขนาดนี้

ประตูลิฟต์เปิดออกเมื่อถึงชั้นที่ต้องการ หญิงสาวตั้งสติแล้วก้าวออกไปพร้อมรอยยิ้มใต้หน้ากากอนามัยแล้วทักทายพยาบาลที่ดูแลคนป่วยอย่างเคยชิน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel