ตอนที่2.ใครกันนะ หักอกหมออิฐได้ลง
“มีอะไรให้กะทิช่วยไหมคะ”
“มาพอดีเลย เอาใส่กล่องให้ลูกค้าหน่อย”
“ได้ค่ะ”
เกวลินช่วยจัดอาหารใส่กล่องลงถุงแล้วหิ้วไปหน้าร้าน
“กะเพรากุ้งกับข้าวผัดปูค่ะ” เธอร้องบอกรายการอาหาร ลูกค้าที่สั่งไว้ยื่นมือมารับแล้วแสกนคิวอาร์โค้ดจ่ายเงินให้
เดิมทีการันต์ก็ชอบทำอาหารอยู่แล้ว แต่เพราะต้องดูแลกิจการจึงไม่ได้เข้าครัวเอง แต่เขาอดสงสารน้องสาวไม่ได้ เธอควรใช้ชีวิตวัยรุ่นสนุกสนานกลับมาต้องช่วยงานในร้าน เขาอยากให้น้องเรียนต่อระดับปริญญาโท แต่การเงินที่ติดขัดแบบนี้ เขาไม่กล้ารับปากน้อง งานในร้านเบาบางลงแล้ว การันต์เช็ดมือแล้วเดินมารินน้ำดื่ม เกวลินกำลังทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายประจำวัน เขาเลิกคิ้วประหลาดใจที่ได้ยินเสียงน้องสาวกำลังร้องเพลงเบาๆ
“อารมณ์ดีจัง”
“อารมณ์ดีไม่ได้เหรอคะ”
“ใครทำน้องสาวพี่อารมณ์ดีหนอ” เขาหยอกล้อแล้วลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ “มีหนุ่มมาจีบเหรอ”
“กะทิอายุยี่สิบสองแล้วก็ให้มีคนมาจีบหน่อยเถอะค่ะ” เธอหัวเราะไม่ได้จริงจังนัก “ชอบเวลานับเงินจังเลย”
“ไม่เหนื่อยเหรอ ตากแดดตัวดำแล้ว”
“ไม่เห็นเป็นไรเลยค่ะ” เกวลินรู้ว่าพี่ชายเป็นห่วง “ขับรถไปใกล้ๆนี่เอง แล้วทุกคนในร้านก็ยุ่งด้วย เราจะจ่ายเงินจ้างไรเดอร์ทุกครั้งก็ไม่ไหวนะคะ ให้กะทิช่วยเถอะค่ะ อีกอย่างแค่โรงพยาบาลใกล้ๆ นี่เอง”
“อ้อ...ที่อารมณ์ดีเพราะได้เจอหมออิฐละสิ”
“พี่ตะโก้” เกวลินแสร้งแยกเขี้ยวใส่กลบเกลือนอาการเขินอายของตนเอง
“ยังแอบชอบหมออิฐอยู่อีกเหรอเนี้ย”
“แอบรักค่ะไม่ใช่แอบชอบ”
เกวลินทำเป็นไม่สนใจ พี่ชายแค่ยื่นขยี้ผมน้องสาวเล่น แล้วลุกขึ้นไปทำงานอื่น หญิงสาวถอนหายใจเบาๆ ก็แค่ ‘แอบรัก’ ก็เท่านั้น เธอรู้จัก ‘หมออิฐ’ เพราะเขาเคยมาโรงเรียนในฐานะศิษย์เก่า มาพูดแนะนำเรื่องการสอบเข้าคณะแพทย์ สำหรับเกวลินที่ตอนนั้นเรียนอยู่แค่ ม.5รู้สึกประทับใจมาก จนแอบจดชื่อนามสกุลแล้วส่องตามโลกโซเซียล เธอไม่กล้าแสดงตัว ได้แต่แอบติดตามข่าวคราวของเขาเงียบๆ เธอไม่ใช่คนเรียนเก่ง แต่ก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐได้ เลือกเรียนคณะบริหารเพราะคิดว่าจบมาจะหางานทำได้ง่าย แต่ก็ดันมาเจอช่วงเศรษฐกิจย่ำแย่เอาอย่างนี้
แต่หมออิฐคงจำเธอไม่ได้ เขาเคยเป็นลูกค้าประจำของร้าน มานั่งดื่มและฟังเพลงเดือนละครั้งสองครั้ง เขาก็เหมือนคนอื่น มาดื่ม มาฟังเพลง มาผ่อนคลาย เธอไม่เคยเข้าไปทักเขาสักที เพราะหลายครั้งที่เขามาก็มีหญิงสาวมาด้วยเสมอ แต่คืนนั้นเธอถูกลูกค้าเมาลวนลามและบังเอิญเขาเข้ามาช่วย การันต์รู้เข้าจึงเลี้ยงเครื่องดื่มแทนคำขอบคุณ ทำให้นับตั้งแต่นั้น เธออยากรู้จักนายแพทย์อิทธิพลหรือหมออิฐมากยิ่งขึ้น และรู้ว่าเขามีหญิงสาวคบอยู่ด้วย เธอจึงพอใจกับการเฝ้ามองและติดตามเขาอยู่ห่างๆ จนกระทั่งการันต์ต้องปิดผับมาเปิดร้านอาหารตามเดิม และมีบริการเดลิเวอรี่ มีลูกค้าที่ทำงานที่โรงพยาบาลให้เธอนำข้าวกล่องไปส่ง ทำให้เธอได้พบหมออิฐอีกครั้ง ซึ่งเธอก็ไม่เคยอยู่ในสายตาเขาอยู่ดี แต่ เธอใส่ใจรายการอาหารของหมออิฐเป็นพิเศษ ทำให้จำได้ว่าเขาชอบหรือไม่ชอบอะไร คนที่ดูเหมือนง่ายๆอะไรก็ได้จึงไม่ง่ายอย่างที่คิด
“ตั้งแต่สั่งข้าวกล่องมา หมออิฐชอบกินข้าวกล่องร้านของหนูกะทิที่สุด แกเรื่องมากจริงๆ ผัดกระเพราต้องเป็นผัดกระเพรา ไม่ใส่ถั่วฝักยาวหรือแคร์รอต เมนูปลาต้องไม่คาว ถ้าวันไหนสั่งไข่ดาว ต้องให้ไข่ดาวเยิ้มๆ ไข่ขาวกรอบๆ ใครเป็นเมียลำบากแน่”
นั้นเป็นเรื่องที่พยาบาลแอบนิทาลับหลัง รวมทั้งชีวิตรักของหมออิทธิพลด้วย
เขาอกหักอีกแล้ว
ใครกันนะ หักอกหมออิฐได้ลง.
...
“วันนี้ทำสถิติตรวจคนไข้หมดภายในเที่ยงวันเลยค่ะหมออิฐ”
พยาบาลสาววัยสี่สิบโผล่หน้าเข้ามาในห้องตรวจ หมอหนุ่มกำลังพิมพ์รายงานอยู่พยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มเล็กน้อย แต่ไม่อาจกลบความเหนื่อยล้าได้
“ข้าวกล่องมาส่งแล้ว หมออิฐจะกินพร้อมพวกเราไหมคะ” พยาบาลคนเดิมยังเอ่ยถามด้วยความเคยชิน
“ถ้าไม่รบกวนพี่แวว ผมขอนั่งกินข้าวด้วยแล้วกันครับ ตอนบ่ายต้องขึ้นราวน์วอร์ด”
“อ้าว ไม่ใช่เวรหมอก้อยหรือคะ”
“แลกกันครับ พอดีหมอก้อยมีธุระ พาลูกไปทำอะไรสักอย่างนี่แหละ ผมลืมไปแล้ว” เขาหัวเราะในลำคอ เป็นคนโสดนี่นะ ใครๆ ก็มองว่าว่างตลอด
