บท
ตั้งค่า

ตอนที่1. ได้ยินว่า...

“ได้ยินว่าหมออิฐอกหักอีกแล้ว”

“พูดเป็นเล่น เห็นหวานออกสื่อขนาดนั้น”

“ก็ไม่รู้สินะ แต่ที่แน่ๆ หมออิฐอัพเดทสถานะโสดแล้วจ้า”

“แต่เหมือนได้ยินว่าหมออิฐก็เพิ่งอกหักไม่ใช่เหรอ”

“สี่ปีอกหักสามหนเลยนะ ธรรมดาที่ไหน”

“หมออิฐก็เป็นคนดีอยู่นะ ทำไมอกหักบ่อยจัง”

“อยากรู้ก็ไปดามอกให้หมออิฐดูสิ”

บทสนาของบรรดาพยาบาลสาวดึงดูดความสนใจของเกวลิน เธอไม่ได้ชอบสนใจเรื่องของคนอื่น แต่ที่สนใจก็เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ ‘หมออิฐ’ หรือ ‘นายแพทย์อิทธิพล’ ผู้ชายที่เธอแอบรักข้างเดียวมานาน

“อ้าว น้องกะทิมาส่งข้าวเองเลยเหรอ” พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยทักเมื่อเห็นแม่ค้าหน้าหวานเข้ามาพร้อมถุงใส่กล่องอาหารนับสิบกล่อง

“ค่ะ วันนี้พี่ตะโก้ต้องเอารถไปซ่อมค่ะ” หญิงสาวยิ้มกว้าง แม้มีหน้ากากอนามัยปิดครึ่งใบหน้าก็ตาม “มีน้ำใบเตยด้วยค่ะ อันนี้แถมฟรี”

“น่ารักจังเลย ขอให้ขายดีนะจ๊ะ” พยาบาลสาวรับถุงอาหารมาแล้วหยิบมือถือมาโอนค่าอาหารที่สั่งไว้

“เอ่อ... หมออิฐกลับมาจากโรงพยาบาลสนามแล้วเหรอค่ะ”

“อ้อ! ใช่จ๊ะ โรงพยาบาลสนามปิดแล้ว หมออิฐกลับมาประจำแผนกอายุรกรรม ลำบากกะทิแล้วนะ คนนี้กินยาก ถ้าวันไหนหมออิฐสั่งข้าวกล่อง พี่จะเขียนโน้ตไว้ให้เป็นพิเศษ”

“ไม่ลำบากเลยค่ะ พี่ ๆ สั่งมาได้เลยค่ะ”

หญิงสาวพยายามเก็บอาการตื่นเต้นดีใจไว้ใต้หน้ากากอนามัย แต่กระนั้น ดวงตากลมโตเป็นประกายรื่นเริง ‘หมออิฐกลับมาแล้ว’ เธอลอบมองไปด้านในของอาคารอีกครั้ง แม้ไม่เห็นอะไรเลย แต่หัวใจก็เต้นรัวด้วยความดีใจ

เกวลินหมุนตัวเดินกลับมาที่รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจซึ่งเวลานี้ด้านหลังดันแปลงให้วางลังพลาสติกใบใหญ่ใส่อาหารได้ เธอหยิบหมวกกันน็อคที่ห้อยอยู่มาสวมศีรษะแล้วขับรถออมาช้าๆ ด้วยความระมัดระวัง เพราะต้องช่วย ‘การันต์หรือตะโก้’พี่ชายคนเดียวของเธอส่งอาหารตามในละแวกใกล้เคียง ถึงจะต้องฝ่าอากาศร้อน แต่หญิงสาวก็ไม่เคยบ่นเพราะเป็นกิจการของครอบครัว

“ปั่นจักรยานได้ ขับรถยนต์เป็น มอเตอร์ไซค์ก็ไม่ยากหรอก”

หญิงสาวนึกถึงตอนที่พี่ชายสอนเธอขับมอเตอร์ไซค์ จะว่าไปการันต์ไม่อยากให้เธอขับมอเตอร์ไซค์นักหรอก แต่เพราะความจำเป็น หลังจากแม่ตายจาก ก็เหลือกันเพียงสองคนพี่น้อง พี่ชายรับหน้าที่เป็นพ่อครัว ส่วนเธอประจำตำแหน่งแคชเชียร์ พี่ชายลองปรับปรุงร้านเป็น ร้านอาหารกึ่งผับ เพิ่มรายได้ด้วยการขายเครื่องดื่มยามค่ำคืน ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับดีที่เดียว ทุกอย่างมันเหมือนจะไปได้ดีแล้วแท้ๆ แต่สถานการณ์โควิด-19ทำให้ผับของการันต์ต้องปิดร้านอย่างไม่มีกำหนด มาตราการของรัฐไม่ได้ช่วยอะไรคนทำงานกลางคืนนัก ไม่ว่าจะนักร้องนักดนตรี พนักงานในร้าน การันต์พยายามเต็มที่แล้ว แต่ไม่อาจช่วยทุกคนหรือแม้แต่ตัวเองได้ เงินเก็บร่อยหรอลงไปที่ละน้อย เพราะต้องลดต้นทุนลง ทำให้เหลือแค่พนักงานในร้านอีกสองคน และเธอเองก็มาช่วยงานในร้านด้วยเช่นกัน

“ขอโทษนะ พี่ทำให้เราลำบากแล้ว”

“ลำบากอะไรคะ เราพี่น้องกันนะ ถ้ากะทิไม่มีพี่ตะโก้ดูแล กะทิจะเป็นยังไง”

เกวลินจำได้ว่าตัวเองหัวเราะเสียงใส เธอรู้ดีว่าสถานการณ์อย่างนี้สิ่งที่การันต์ตัดสินใจนั้นดีที่สุดแล้ว เธอเองเพิ่งเรียนจบยังไม่มีงานประจำทำ ตอนนี้ทำได้แค่ช่วยงานพี่ชายไปก่อน พ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่เธอยังเด็ก เธอจำหน้าพ่อไม่ได้ด้วยซ้ำและแม่ก็ไม่เก็บรูปพ่อไว้ให้ดู แต่เท่าที่พี่ชายเล่าให้ฟัง พ่อเป็นผู้ชายที่ไม่มีความเป็นพ่อเอาเสียเลย คงเพราะแบบนี้ การันต์จึงดูแลเธอราวกับเป็นพ่อคนที่สอง ส่วนแม่ก็หาเลี้ยงลูกสองคนด้วยการทำข้าวราดแกงขาย แม่เป็นคนขยันอดออมจนเก็บเงินซื้อบ้านและตึกแถวทำร้านอาหารได้ ในวันที่แม่ไม่อยู่จึงเป็นสมบัติอันมีค่าที่แม่ทิ้งไว้ให้ลูกทั้งสองคนได้ตั้งตัวได้

เกวลินขับมอเตอร์ไซค์กลับมาที่ร้านอาหารที่เคยเป็นผับของนักท่องราตรีมาก่อน หญิงสาวจอดรถเรียบร้อยแล้วเดินเข้ามาในร้าน ด้านหน้ามีลูกค้ามารอซื้ออาหารกลับบ้านอยู่สามสี่คน เธอล้างมือแล้วยื่นหน้าไปในครัว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel