บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 8 อย่าแกล้งน้อง

“เรามาคุยงานกับพี่จอม” สายป่านน้ำเสียงเรียบนิ่งเกร็งตัวคอขึ้นเอ็นกำกระเป๋าถือในมือแน่น

“มาถึงเรือนหอแสดงว่าสำคัญมาก” ชาลินียกมุมปากจ้องมองกันอย่างท้าทาย

“เรื่องเพิ่มคลาสเรียนรำและรับจ้างงานเพิ่ม แยมเขาส่งตารางมาทางอีเมลให้พี่ดูแล้วอยากได้คำตอบว่าพี่เห็นด้วยไหมหรือมีข้อเสนอแนะด้านไหนบ้าง” สายป่านพูดถึงเรื่องงานที่เขาร่วมหุ้นและเป็นผู้บริหารให้กับโรงเรียนรำที่เธอเปิดสอนอยู่

“พี่ยังไม่ได้อ่านอีเมลเดี๋ยวดูให้นะ” จอมทัพยิ้มให้สายป่าน จะลุกไปหยิบแท็บเล็ตมาดูอีเมลเลยดันตัวภรรยาออกจากตัก

“ลุกไปนั่งดี ๆ พี่หนัก” เขาเงยมองกระซิบเบา ๆ ชาลินีหน้างอไม่ยอมลุกกลับเขยิบก้นเข้าใกล้กายหนามากกว่าเดิม

“อุ้ย!” เธอสัมผัสของแข็งอีกแล้วดวงตาสวยเบิกโพลงตกใจมองหน้าสามีที่อ้าปากเหวอ เธอค่อย ๆ เขยิบตัวออกจะมองเป้ากางเกงสามี แขนแกร่งรวบเอวภรรยาเข้าใกล้สีหน้าตื่นตระหนกมีพิรุธ

“พี่ขอตัวแป๊บ” เขาบอกกับสายป่านก่อนจะช้อนแขนเข้าใต้เรียวขาภรรยาแล้วยืนขึ้นอุ้มเธอไว้แนบอก

“ว้าย.....พี่จอม......จะพาเมียไปไหนเนี่ย......” ชาลินีเสียงสูงเบะปากใส่สายป่านอย่างเหนือกว่า สายป่านมองเขาอุ้มภรรยาต่อหน้าต่อตาด้วยความโมโหจ้องตาแทบถลน เมื่อก่อนเคยเห็นใกล้ชิดกันหลังแต่งงานกลับดูใกล้ชิดกันมากขึ้นกว่าเดิม

ในห้องนอน

จอมทัพหายใจหอบเหนื่อยอุ้มภรรยาคนสวยมาส่งที่ห้องนอนแล้ววางเธอลงยืน

“ถ้าจะลงไปข้างล่างแต่งตัวให้ดี ๆ ห้ามแกล้งยั่วพี่อีก” เขาเน้นย้ำไม่ให้เธอยั่วแล้วหันหลังจะเดินไปที่ประตูห้อง

“พี่มีอารมณ์ใช่ไหม ของพี่มันปึ๋งปั๋งด้วย” เธอเดินตามไปแซวติด ๆ เขาหันขวับมาหาทำให้ใกล้ชิดเกือบชนกัน

“อารมณ์โมโหน่ะสิ” เขาก้มมองหน้าสวยที่กำลังมองเขาอย่างเจ้าเล่ห์

“โกหก พี่อยากมีอะไรกับลินี”

“มะ ไม่........” นัยน์ตาคมหลุกหลิกพยายามปกปิดอาการไม่ให้เธอรู้ว่าเขารู้สึกอะไรกับเธอตอนนี้

“งั้นก็......ให้จับพิสูจน์” ริมฝีปากบางยกยิ้มเขยิบกายเข้าใกล้ยื่นมือจะจับเป้ากางเกงสามีแต่เขาคว้ามือเธอไว้ได้ทัน

“เป็นผู้หญิงนะ!”

“ภรรยาจับของสามีไม่แปลกหรอกค่ะ” หน้าสวยเชิดขึ้นพยายามดึงมือออกจากการจับกุมของมือหนา

“อย่าแกล้งถ่วงเวลาให้พี่ลงไปหาป่านช้า อีกอย่างพี่รู้ว่าเราฝืนทำ ถ้าพี่ให้จับจริงลินีไม่กล้าจับหรอก.......” เขาจ้องหน้าเธออย่างรู้ทันว่าเธอต้องการทำอะไรก่อนจะเคลื่อนมือเขาที่กุมมือเธอไว้เข้าใกล้เป้ากางเกงอย่างเชื่องช้ามองสบตากันหวั่น ๆ แอบหลบสายตากันเป็นระยะ ชาลินีเขินแก้มแดงมีอาการประหม่า จอมทัพเองก็ตื่นเต้นหายใจติดขัด

“อย่าแกล้งน้อง!” เธอบ่นหน้าเครียดพยายามดึงมือออก จอมทัพอมยิ้มค่อย ๆ ปล่อยมือเธอให้เป็นอิสระตัวเขาเองก็โล่งอก

“แต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วรีบลงไปข้างล่าง ถ้าช้าอาจไม่ได้ยินว่าพี่กับป่านคุยอะไรกัน...........” เขายกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับภรรยาที่ยืนหน้างอถลึงตาใส่เมื่อเขาออกไปเธอก็รีบวิ่งไปหยิบเสื้อผ้าสวมใส่แล้ววิ่งลงไปชั้นอย่างรวดเร็ว

บริเวณโถงกลางบ้านเป็นพื้นที่วางโซฟารับแขก จอมทัพกับสายป่านนั่งคุยแผนงานของโรงเรียนสอนรำ ส่วนชาลินีจิบชากินขนมหวานยามบ่ายชิว ๆ คอยจับตาดูสามีกับกิ๊กของเขา

“ให้แยมแก้ไขเพิ่มเติมตามที่พี่ระบุไว้ นอกนั้นโอเคแล้ว” เขาชี้ตรงจุดที่แนะนำเพิ่มเติม สายป่านตอบรับก่อนจะนิ่วหน้า

“โอ๊ย...” เธองอตัวเอามือจับที่ท้อง

“เป็นอะไร?”

“สงสัยโรคกระเพาะกำเริบค่ะ ป่านเป็นห่วงพี่เลยรีบมายังไม่ได้กินอาหารกลางวัน” คิ้วเรียวขมวดน้ำเสียงอ่อนแรง

“งั้นก็กินที่บ้านนี้เลย พี่จะบอกป้าแช่มเตรียมอาหารให้” จอมทัพมองอย่างห่วงใยลุกขึ้นเดินไปบอกป้าแช่มที่ห้องครัว ชาลินีถึงกับช้อนหลุดมือเธอนั่งอยู่ตรงนี้แท้ ๆ เขาไม่คิดจะถามสักคำว่าอนุญาตให้สายป่านกินข้าวที่นี่หรือไม่ สายป่านกระตุกยิ้มเอียงมองสบตากับชาลินีที่หน้างอจ้องเธอราวจะเลือดกินเนื้อ จอมทัพเดินกลับมาจากห้องครัวเห็นสองสาวที่นั่งจ้องหน้ากันคนละมุม

“พี่จะขึ้นไปอาบน้ำก่อน อย่าทะเลาะกัน” เขามองสองสาวก่อนจะเดินอ้อมไปขึ้นบันไดเพื่อไปชำระล้างร่างกายที่เหนียวเหนอะหนะ สายป่านเอนตัวพิงโซฟาหยิบโทรศัพท์มากดเล่นส่วนชาลินีเคี้ยวขนมแรง ๆ สีหน้าบึ้งตึงเหล่มองเคือง

ด้านจอมทัพเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็นั่งลงข้างเตียงหยิบโทรศัพท์มาใช้งาน ผ่านไปเกือบห้านาทีเสียงกรีดร้องเอะอะมาจากด้านล่างก็ดังลั่น เขาพ่นลมหายใจสีหน้าเบื่อหน่ายรีบลุกออกไปจากห้องนอนทันที

“หยุด!” เสียงทุ้มกังวานดังมาจากระเบียงชั้นสองที่มองเห็นโถงด้านล่างชัดเจน สองสาวชะงักเงยมองพร้อมกัน สภาพของชาลินีกับสายป่านกระเซอะกระเซิงผมเผ้ายุ่งเหยิงสองมือของสองสาวยังจิกอยู่บนผมของฝั่งตรงข้ามสีหน้าแววตาเกรี้ยวกราดด้วยกันทั้งคู่ จอมทัพนิ่วหน้าเดินลงมาอย่างหงุดหงิด

“บอกแล้วไงว่าอย่าทะเลาะกัน”

“มันหาเรื่องลินีก่อน” ชาลินีกำผมสายป่านแน่นไม่ยอมปล่อย เสื้อผ้าเปียกเหนียว

“ไม่จริงค่ะ อยู่ ๆ ลินีก็สาดยำปลาร้าใส่ป่านแล้วก็เข้ามาตบ ป่านเลยป้องกันตัว” สายป่านรีบคลายมือที่อีกข้างมีผ้าก้อตปิดแผลที่ถูกเศษแก้วปักมือ เธอหน้าเศร้าน้ำตาคลอเสื้อเปียกด้วยน้ำยำปลาร้ากลิ่นคลุ้ง

“มันสาดน้ำส้มใส่ลินี!”

“ลินีเริ่มก่อน......”

“พอ! พอกันได้แล้วไปล้างเนื้อล้างตัวกันไป” จอมทัพปวดหัวที่จะฟังเดินเข้าไปแกะมือชาลินีที่ไม่ยอมปล่อยจากผมของสายป่าน

“ลินี” เขาทำหน้าดุจ้องตาเขม็งเธอถึงยอมปล่อยมือ

“ป้าแช่มพาป่านไปเข้าห้องน้ำรับรองทีครับ ผมจะเอาเสื้อผ้าไปให้เปลี่ยน” เขาหันไปบอกป้าแช่มที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ข้าง ๆ ป้าแช่มผายมือเชิญสายป่านไปยังห้องรับรองที่อยู่ด้านล่างเธอเดินไปอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว จอมทัพหันกลับไปมองภรรยาที่เดินกระทืบเท้าขึ้นบันไดไปยังห้องนอนเลยเดินตามขึ้นไปหยิบเสื้อผ้ามาให้สายป่านเปลี่ยน

ภายในห้องนอนหรู

ชาลินีหยิบผ้าขนหนูกับเสื้อผ้ากำลังจะเดินเข้าห้องน้ำ เหล่มองสามีที่กำลังเดินเข้ามาในห้องแล้วตรงมายังตู้เสื้อผ้า

“หาเสื้อผ้าให้ป่านเปลี่ยนหน่อย”

“ให้มันกลับไปอย่างนั้นสิ คนอย่างมันเหมาะกับน้ำปลาร้าที่สุด” ชาลินีเบะปากหมั่นไส้

“เราทำเสื้อผ้าเขาเปรอะก็ต้องหาให้เปลี่ยน”

“ไม่ ลินีไม่ให้มันใส่ของลินีเด็ดขาด!” หน้าสวยบึ้งตึงไม่สบอารมณ์พึ่งตีกันมายังจะให้หาเสื้อผ้าให้อีก

“ก็ได้” เขาพยายามพูดน้ำเสียงปกติเดินเลี่ยงไปหยิบเสื้อยืดตัวใหญ่ของตัวเองแล้วเดินผ่านหน้าภรรยา เธอรีบดึงแขนเขาเอาไว้

“ของผัวก็เหมือนของเมีย ลินีไม่ยอมให้มันใส่เสื้อผ้าของพี่!” ชาลินีเสียงแข็งงอแงไม่ยอม จอมทัพไม่ตอบโต้ค่อย ๆ ดึงแขนออกแล้วเดินลิ่วไปที่เปิดประตูห้องทันที

“พี่จอม พี่จอม!” ชาลินีวิ่งมาดึงชายเสื้อรั้งสามี

“ให้ป่านใส่จะได้กลับบ้าน หรือว่าจะให้ป่านรอจนกว่าเสื้อผ้าที่ป้าแช่มซักให้แห้ง จะได้อยู่ที่นี่นาน ๆ” เขาพูดให้ภรรยาได้คิดเหตุผลที่เขาต้องเอาเสื้อผ้าไปให้สายป่านใส่ เธอคิดตามหน้าง้ำค่อย ๆ คลายมือปล่อยให้เขาออกไปจากห้องนอน

ผ่านไปเกือบยี่สิบนาที

ชาลินีอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านั่งอยู่หน้ากระจกเช็ดผมเป่าพัดลมให้แห้งแม้วิธีนี้ผมจะแห้งช้ากว่าไดร์เป่าผมแต่เพราะเธอมักปวดหัวบ่อย ๆ ทำให้โดนความร้อนจากไดร์ไม่ค่อยได้ สักพักจอมทัพก็เดินเข้ามาหยิบกุญแจรถที่หัวเตียง

“พี่ไปส่งป่านนะ” เขาหันมาบอกภรรยาที่มองตาขวางผ่านกระจกเงา

“มันขับรถมาก็ให้ขับกลับไปเองสิ!”

“ป่านปวดท้องขับรถไม่ไหว”

“ตอแหล!” เธอกระแทกเสียงหมั่นไส้สุดฤทธิ์

“พี่เคยบอกว่าไม่ชอบให้หนูพูดแบบนี้ไง!” เขาเสียงแข็งไม่ชอบให้เธอใช้คำพูดจิกกัดคนอื่น

“พี่ก็อย่าสนใจมันมากกว่าลินีสิ” หน้าสวยหันขวับมองอย่างขุ่นเคืองไม่พอใจที่เขาปกป้องสายป่านแม้แต่คำพูดยังว่าไม่ได้

“แค่ไปส่งเดี๋ยวกลับมา อยากกินอะไรไหมพี่จะซื้อมาฝาก”

“ไม่ต้อง อยากไปปลอบโยนกันนักก็ไป ยังไงลินีก็เป็นแค่เมียแต่งพี่ไม่ต้องการเรียกร้องอะไรพี่ก็ไม่สนใจอยู่ดี!” ร่างบางลุกขึ้นเดินกระฟัดกระเฟียดทิ้งตัวนอนเอาผ้านวมคลุมโปงทันที จอมทัพถอนหายใจส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ชาลินีได้ยินเสียงปิดประตูเลยผงกหัวหันไปมองทั้งน้ำตาเขาไม่เคยถามว่าใครถูกผิดเขาเลือกที่จะปกป้องแต่คนที่เขารัก(แกมันคนไม่สำคัญก็ต้องนอนร้องไห้คนเดียวแบบนี้แหละลินี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel