ตอนที่ 9 ไม่เคยไม่ห่วง
จอมทัพขับรถหรูไปส่งสายป่านและให้ลุงพร้อมขับรถของสายป่านตามหลังไป ระหว่างการเดินทางสายป่านนั่งกินข้าวไข่เจียวที่ป้าแช่มใส่กล่องอาหารมาให้เพราะจอมทัพเร่งให้เธอแต่งตัวและรีบขึ้นรถ ใบหน้าหล่อเคร่งขรึมคล้ายครุ่นคิด สายป่านเหลือบมองเขาที่ห่างเหินตั้งแต่วันที่เธอป่วยอาหารเป็นพิษชาลินีแต่งชุดเจ้าสาวไปตามที่โรงพยาบาลหรือว่าเขาจะเห็นความสวยและใกล้ชิดกับชาลินีเลยจะเขี่ยเธอทิ้ง ทั้งสองนั่งมาในรถคันเดียวกันด้วยความเงียบจนถึงหน้ารั้วบ้านของสายป่านเขาจอดรถไม่ดับเครื่องรอให้สายป่านลงจากรถ
“ป่านไม่ได้หาเรื่องลินีนะคะ” สายป่านรู้ว่าเขาไม่พอใจที่เธอมีเรื่องกับชาลินีที่เรือนหอ
“ลินีเจ้าอารมณ์แต่ไม่ทำร้ายป่านก่อน ถ้าไม่มีคำพูดอะไรไปสะกิดให้ของขึ้น”
“ป่านไม่ได้พูดอะไร ลินีชอบหาเรื่องป่านอยู่แล้วแค่นั่งหายใจยังผิดเลย....” เธอแสร้งบีบน้ำตารีบออกตัวโบ้ยความผิดไปทางชาลินีที่ใจร้อนวู่วามนิสัยไม่ดีใคร ๆ ก็รู้ว่านางนั่นเหวี่ยงวีนแค่ไหน
“บ้านพี่มีกล้องวงจรปิด” เขาพูดนิ่ง ๆ สายป่านถึงกับตาโตอ้าปากค้างสายตาหลุกหลิกคิดว่าเขาอาจจะแกล้งพูดขู่ให้เธอหลุดออกมาเอง
“ถ้าพี่ไม่ไว้ใจป่านก็กลับไปเปิดดูสิคะว่าป่านไม่ได้เริ่ม”
“พี่ดูตั้งแต่ก่อนที่ป่านจะสาดน้ำส้มใส่ลินี!” จอมทัพสวนกลับเสียงแข็ง ย้อนไปเมื่อตอนที่เขาอาบน้ำเสร็จแล้วนั่งดูโทรศัพท์มือถือเปิดกล้องวงจรปิดอยากรู้ว่าจะมีเรื่องอะไรอย่างคิดไหม เขาเห็นสายป่านพูดอะไรบางอย่างทำให้ชาลินีที่นั่งอยู่อีกมุมลุกขึ้นชี้หน้าต่อว่าจากนั้นสายป่านก็ลุกยืนลอยหน้าลอยตาท้าทาย ชาลินีกำมือโมโหจะเดินเลี่ยงมาที่บันไดแต่สายป่านคว้าแก้วน้ำส้มคั้นสาดใส่ตัวชาลินี ๆ เลยเดินตรงไปเอาจานยำปลาร้าที่ป้าแช่มกำลังถือมาสาดใส่ตัวสายป่านจากนั้นก็เข้าไปจิกหัวดึงรั้งผมกรีดร้องไม่มีใครยอมใคร
“.............” สายป่านนั่งนิ่งหายใจแรงดวงตาแดงก่ำโกรธที่เขาไม่ไว้ใจจ้องจับผิดเธอ
“ถ้ายังอยากเจอพี่อีกก็อย่าทำให้ลินีหัวเสีย” จอมทัพไม่หันมองหน้าสายป่านเพราะนึกถึงความสัมพันธ์อันดีที่เคยมีให้กัน
“พี่จอมดูห่วงเมียจังเลยนะคะ.....” สายป่านตาขวางกระแหนะกระแหนเขาที่เฉยชา
“ป่านรู้ดี......ว่าพี่ไม่เคยไม่ห่วงลินี” เขาหันมาจ้องตาหญิงสาวที่กำลังน้ำตาไหลนั่นกลับไม่ทำให้เขารู้สึกอะไร
“ค่ะ ขอบคุณที่มาส่งนะคะ” เธอกระแทกเสียงตาแข็งเม้มริมฝีปากก่อนจะเปิดประตูรถลงไปเปิดประตูรั้วให้ลุงพร้อมขับรถเธอเข้าไปจอดในรั้วบ้าน เมื่อลุงพร้อมจอดรถเสร็จก็กลับมาขับรถให้จอมทัพที่เดินไปนั่งเบาะหลังหันมองไปทางอื่นไม่มองสายป่านที่กำลังยืนมองเคืองน้ำตาชุ่มหน้าสวย
เรือนหอ
จอมทัพกลับมาบ้านปิดไฟมืดมีเพียงแสงไฟจากนอกบ้าน เขาถือถุงผัดไทยเจ้าอร่อยตรงขึ้นไปยังห้องนอนที่มืดสนิทเปิดแอร์เย็นฉ่ำ เขาเปิดโคมไฟหัวนอนแล้วนั่งลงบนเตียงกว้างเขย่าแขนภรรยาที่ไม่รู้ว่าหลับหรือกำลังร้องไห้
“พี่ซื้อผัดไทยร้านที่หนูชอบมาฝาก”
“ไม่กิน!” ร่างบางขยับดึงผ้านวมขึ้นมาปิดถึงปาก
“ยังไม่ได้กินข้าวเย็นไม่หิวเหรอ?”
“ไม่!” เธอกระแทกเสียงหนักขยุกขยิกตัวรำคาญ
“งั้นพี่กินคนเดียวนะ” เขาอมยิ้มกรุ้มกริ่มลุกขึ้นไปที่โต๊ะข้างหน้าต่าง เปิดห่อผัดไทยสองห่อกลิ่นหอมฟุ้งทั่วห้อง ชาลินีนอนดมกลิ่นหอมด้วยความหิวโหยต้องลุกขึ้นมานั่งหน้างอ
“ทำไมไม่ไปกินข้างล่าง!”
“อยากมีเพื่อนกินเผื่อจะมีคนเปลี่ยนใจ...” เขาใช้ตะเกียบคีบเส้นเข้าปากแล้วเคี้ยวยั่ว ชาลินีเม้มปากกลืนน้ำลายท้องร้องประท้วง
“กินก็ได้เห็นเหงาหรอกนะ” เธอเดินหน้าง้ำเดินมานั่งหน้าห่อผัดไทยเหมือนไม่เต็มใจแต่รีบคว้าตะเกียบคีบเส้นเข้าปากหิวจนมือสั่น จอมทัพเหลือบมองภรรยาแล้วอมยิ้มตั้งแต่เล็กจนโตสาวน้อยขี้งอนของเขาก็ง้อได้ด้วยขนม ไอติม และของกินอร่อย ๆ เสมอ
“พี่บ่นป่านไปแล้วว่าอย่าทำหนูหัวเสียอีก”
“พี่เชื่อเหรอว่าลินีไม่ได้เริ่มก่อน?”
“เชื่อ” เขาตอบสั้น ๆ มองเธอที่ทำหน้าประหลาดใจ
“.....อย่างกับมันจะฟัง....นางนั่นมันร้ายจะตาย” ชาลินีสะบัดหน้ามองบนไม่ค่อยอยากเชื่อว่านางตัวดีจะเลิกป่วน
“ตัวเองก็ใช่ย่อย”
“แน่สิใครจะยอม” หน้าสวยเชิดขึ้นมั่นใจแรงมาแรงกลับไม่กลัว ๆ แค่คนตอแหลชอบเล่นลับหลังทำให้ตั้งตัวไม่ทัน จอมทัพนั่งกินผัดไทยไม่พูดอะไร เขารู้ว่าสายป่านร้ายแต่ภรรยาก็แสบเอาเรื่องเหมือนกัน
เช้าวันรุ่งขึ้น
จอมทัพเหงื่อโชกกลับเข้ามาในห้องนอน หลังจากลงไปวิ่งออกกำลังกายรอบสนามหญ้ายามเช้า ชาลินีสวมเดรสสีดำยาวคลุมเข่าผ่าขึ้นสูงเห็นขาอ่อนนั่งแต่งหน้าอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งกลิ่นน้ำหอมโชยอ่อน
“วันนี้ออกไปช้อปปิ้งกับนิ้งนะคะ งอน...” เธอเหล่มองเสียงเหวี่ยงยังงอนที่เขาทิ้งให้เธอร้องไห้คนเดียว
“อื้ม.....” เขาพยักหน้าเดินไปหยิบกระเป๋าเงินแล้วเดินมาวางบัตรเครดิตแบล็กการ์ดบนโต๊ะเครื่องแป้ง
“เอาบัตรพี่ไปช็อป........ง้อคนงอน” เขาโน้มตัวลงกระซิบใกล้ ๆ ชาลินีหันขวับมองเคืองใบหน้าใกล้ชิดห่างกันปลายจมูกทั้งสองนิ่งงันมองสบตากันก่อนจะผละออกเขินอาย
“ก็โอเคนะคะ จะซื้อให้จ่ายไม่ไหวไปเลย”
“ตามสบาย...” จอมทัพอมยิ้มเดินไปหยิบผ้าขนหนูเข้าไปในห้องน้ำ ชาลินีมองแผ่นหลังกว้างที่ชุ่มเหงื่อเมื่อไหร่นะจะได้กอดสัมผัสกับเขาโดยที่ไม่ต้องรอแค่มีโอกาส…………
วันนี้ทั้งวัน
จอมทัพนั่งเอาต้นกล้าลงดินตั้งแต่เช้ายันบ่ายแล้วกลับเข้ามาอาบน้ำชำระล้างร่างกายก่อนจะลงไปกินอาหารมื้อเย็น เขาชะเง้อมองรถของชาลินีเกือบห้าโมงเย็นแล้วเธอยังไม่กลับมาบ้าน
“คุณจอมรับข้าวเย็นเลยไหมคะหรือว่าจะรอคุณผู้หญิง” ป้าแช่มเดินออกมาเอ่ยถาม
“กินเลยครับ ลินีคงกลับค่ำ”
“วันนี้มีอาหารจีนและไก่ตุ๋นยาจีนค่ะ คุณแม่ให้คนรถเอามาส่ง”
“ครับป้า” จอมทัพนั่งลงบนโต๊ะอาหารมองอาหารมากมายที่ป้าแช่มเอาออกมาเสิร์ฟแล้วนึกถึงภรรยาที่ชอบกินไก่ตุ๋นยาจีนจะว่าไปเธอก็ชอบของกินทุกอย่างที่อร่อยนั่นแหละ
ร้านอาหารหน้าปากซอยหมู่บ้าน
ชาลินีกับนิ้งนั่งรับประทานอาหารกันมื้อใหญ่หลังจากไปเดินช้อปปิ้งจนเหนื่อยมาเกือบทั้งวัน ชาลินีกินไปมองโทรศัพท์ไปหวังให้สามีโทรมาตามแต่ก็ไร้วี่แวว
“รีบกินรีบกลับเถอะ เดี๋ยวพี่จอมบ่น” นิ้งพูดกับเพื่อนที่ดูกังวลเปิดปิดโทรศัพท์ตลอดเวลา
“เขาไม่สนใจเราหรอก โทรยังไม่โทรเลย....” ชาลินีบ่นพึมพำหน้างอ
“อ๋อ ที่ไม่กลับเพราะรอสามีโทรตามว่างั้น”
“ก็ไม่เชิง อยากกินข้าวกับแกไง” เธอทำท่าอิดออดหยิบช้อนตักอาหารช้า ๆ
“....อย่ามาทำรักเพื่อน หยั่งเชิงให้เขาโทรมาตามก็บอก....” นิ้งหรี่ตามองอย่างรู้ทัน
“เขาไม่โทรมาหรอก......” ชาลินีลากเสียงน้อยใจเขี่ยอาหารในจานไปมา
“ค่อย ๆ กินสิอย่ารีบ” เธอบ่นนิ้งที่กินต่อเร็วไม่สนใจเพราะคิดว่าชาลินีจะเล่นตัวรอให้สามีโทรหาทำไม อยากกลับไปเจอก็กลับยากตรงไหน สักพักเสียงที่อยากได้ยินก็ดังขึ้นและขึ้นหน้าจอชื่อพี่จอมชาลินีดีใจยิ้มแก้มปริ
“อยู่ไหน?” เสียงทุ้มลากยาวคล้ายเหนื่อยหอบ
“นั่งกินข้าวกับนิ้งอยู่ค่ะ”
“รีบกลับมาบ้านที...” พูดจบสายก็ตัดไปเฉย ๆ
“พี่จอมเป็นอะไร พี่จอม” ชาลินีใจคอไม่ดีน้ำเสียงเขาเหมือนไม่ค่อยไหว พอโทรกลับไปเขาก็ไม่รับสายเลยโทรศัพท์ไปหาป้าแช่มด้วยความร้อนใจ
“ป้าแช่มพี่จอมเป็นอะไรคะ?”
“ไม่ได้เป็นอะไรนะคะ เพิ่งกินข้าวเย็นแล้วขึ้นไปพักบนห้องหรือว่าจะไม่ค่อยสบายเพราะตากแดดปลูกต้นไม้ทั้งวัน” ป้าแช่มตอบตามที่คิด ชาลินียิ่งสงสัยหลังจากวางสายก็คว้ากระเป๋ามาใส่โทรศัพท์บ่นพึมพำกับเพื่อน
“หรือว่าพี่จอมโทรมาแกล้ง” เธอยังเอะใจกับน้ำเสียงแปลก ๆ ของเขา
“รีบกลับไปเถอะ ค่าอาหารเราจัดการเอง”
“ไปนะ” ร่างบางลุกขึ้นโบกมือลาเพื่อนแล้วรีบเดินเร็วออกนอกร้านทันที นิ้งอมยิ้มขำเพื่อนแค่สามีโทรมาก็ลุกลี้ลุกลนกลับบ้านแทบไม่ทัน
รถยุโรปคันหรูแล่นเข้ามาจอดในโรงจอดรถ
ชาลินีลงจากรถเดินเข้าไปในบ้านอย่างเร่งรีบกังวลว่าเขาไม่สบายหรืออาจจะแกล้งที่เธอกลับบ้านช้า เท้าเรียวหยุดหน้าประตูห้องเงี่ยหูฟังข้างในก่อนจะเปิดประตูเข้าไปอย่างหวาดระแวงกลัวว่าจอมทัพจะแกล้งหลอกผีให้เธอกลัว นิ้วเรียวเอื้อมไปเปิดไฟในห้องสว่างจ้าทั่วห้องมองไปบนเตียงก็ไม่มีเขานอนอยู่เลยชะเง้อมองว่าเขาหลบอยู่ตรงไหน
“พี่จอม อย่าแกล้งน้อง ๆ กลัว.....” เธอส่งเสียงให้เขารู้ว่าเธอกลัวไม่ชอบให้เล่นแบบนี้ จอมทัพเปิดประตูเดินออกมาจากห้องน้ำสีหน้าขึงขังตัวเปียกโชกตั้งแต่หัวจรดเท้าแม้แต่ผ้าขนหนูที่พันรอบเอวก็เปียกน้ำหยดตามทางที่เขากำลังเดินมาหาเธอ ชาลินีตกใจไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรอยู่ ๆ แขนแกร่งก็โอบล้อมตัวเธอแล้วดึงไปประกบปากจูบรวดเร็วจนไม่ทันตั้งตัว
