เป็นห่วงหรือกลัวสร้างปัญหา -Ep.10-
Ep.10
ผมพาพระพายเดินกลับมาก็เห็นทุกคนเดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวาย จนไอ้คินมันเห็นผมเลยรีบวิ่งมาหา ไอ้แดนกับไอ้ตาร์เห็นก็เลยวิ่งตามมา
“เกิดอะไรขึ้นครับผู้กอง!!?” ไอ้คินถามผมอย่างร้อนรน ผมเลยปรายตาไปมองตัวปัญหาที่ยืนเกาะแขนผมไม่ยอมปล่อย
“ผมเห็นเลยเวลาพักแล้วผู้กองกับคุณพระพายยังไม่มาเลยเป็นห่วงน่ะครับ”
“มีปัญหานิดหน่อย” ผมตอบไอ้ตาร์ที่แสดงท่าทีเป็นห่วง ดูพวกมันเหนื่อยหอบกันทั้งสามคนเลย อย่าบอกว่าวิ่งออกตามหาผมกับพระพายน่ะ
“ไอ้แดน แกบอกทุกคนเรื่องเขตปลอดภัยหรือยัง?”
“บอกอย่างละเอียดตั้งแต่ที่หน่วยแล้วครับ ทุกคนเข้าใจดี ไม่มีใครไม่รู้ครับ” พอไอ้แดนบอกผมก็หันไปมองคนข้างๆ มีสิ ยังมีคนที่ไม่รู้ ก็คุณนักเขียนจอมเซ่อซ่านี่ไง และเหมือนพวกมันจะเริ่มประติดประต่อเรื่องออกว่าเกิดอะไรขึ้น
“เอ่อ...โทษทีครับผู้กอง ผมลืมบอกคุณพระพาย เดิมทีไม่รู้ว่าเธอจะมาด้วย”
“ไม่ใช่ความผิดใครทั้งนั้นแหละ จากนี้ไปก็เตือนทุกคนบ่อยๆ พยายามอย่าให้ทุกคนเป็นอันตราย เรายังมีประโยชน์กับเพื่อนมนุษย์อีกหลายคน”
"ครับ” ทุกคนตอบรับพร้อมๆ กัน แต่ยังไม่ยอมละสายตาไปจากผม เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็สนใจคุณนักเขียนที่เกาะแขนผมไม่ปล่อยน่ะสิ แล้วเธอก็เหมือนจะยืนเหม่อจนไม่รู้ว่าทุกคนมอง ผมจึงบิดแขนออกมาไม่แรงมากนักแต่มือบางก็หลุดออกไป แล้วเธอก็ได้สติมองเราทุกคน พวกไอ้คินก็ได้สติเช่นกันพวกมันรีบกระจายตัวเพราะรู้ว่าจะถูกผมด่า
“ห้ามไปไหนอีกจนกว่าจะถึงค่าย!” ผมทิ้งคำสั่งไว้แค่นั้นแล้วเดินไปตั้งแถวกับทุกคน เธอก็วิ่งตามผมมาติดๆ ครับ เพราะต้องมาต่อหลังผม จากนั้นทุกคนก็ออกเดินทางกันต่อ
(Phraphai talk)
“ทุกคนแยกย้ายกันไปกางเต็นท์ของตัวเอง จะได้ไปอาบน้ำ กินข้าว และพักกันไวๆ พรุ่งนี้เราจะเริ่มฝึกฐานแรกกัน”
ทุกคนพากันไปรื้อเต็นท์มากางตามคำสั่งคุณผู้กองน้ำแข็ง เฮ้ออ ฉันยังตกใจงูตัวนั้นไม่หายเลยค่ะ นี่ถ้าหมอนั่นไม่ไปเจอฉันมีหวังนอนตายกลางเกาะไปแล้ว ฉันพยายามคิดทุกเรื่องที่ผ่านมา เวลาฉันมีปัญหาทีไร ผู้กองลักษณ์เข้ามาช่วยฉันไว้ทันตลอด หรือว่า!...ชาติที่แล้วเขาติดหนี้บุญคุญฉัน? อืม มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ คิดเรื่องไร้สาระจบฉันก็เดินมองซ้ายมองขวาดูคุณพี่ตำรวจเขากางเต็นท์กัน เต็นท์ใหญ่เนาะ ดูๆ แล้วคงจะนอนกันเต็นท์ละห้าหกคน เอ๊ะ! แล้วฉันล่ะ ฉันนอนเต็นท์ไหน นึกได้แบบนั้นฉันก็รีบวิ่งไปหาผู้กองลักษณ์ที่กำลังช่วยพวกคุณคินกางเต็นท์ ฉันอยากถามว่าฉันต้องนอนตรงไหน
“อ๊ะ!”
ตุบ!
เคร้ง!
โอ๊ยยย!! เจ็บชะมัดเลย ฉันสะดุดอะไรอีกเนี่ย!
“คุณพระพาย!” เสียงเข้มดุที่ดังขึ้นทำให้ฉันต้องปล่อยกบแล้วเงยหน้าขึ้นไปมอง อ่อ อีตาผู้กองน้ำแข็งนี่เอง อืมมม ล้มตุ๊บเดียวถึงกับมึนเลยเหรอฉัน ฉันหันไปมองรอบข้างก็พบว่าเชือกเต็นท์ที่ปลายเท้าฉันมันหลุด และเต็นท์ที่กางกำลังจะเสร็จของอีตาผู้กองน้ำแข็งก็ล้มลงจนเหล็กที่ต่อไว้มันหลุดออก เอิ่มม...มิน่าล่ะพวกคุณตาร์ถึงมายืนเคียงข้างอีตาผู้กองนี่แล้วพากันมองฉัน
“ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?” เป็นคุณแดนที่มาประคองฉันลุกขึ้นยืน ชิ! พวกไม่มีน้ำใจ แต่ก็นะ ฉันทำเต็นท์ที่พวกเขาช่วยกันรีบกางพัง ไม่แปลกที่จะโดนมอง
“คะ..คือฉันอยากถามว่า...ฉันนอนที่ไหนเหรอคะ?”
“เต็นท์สำหรับคุณผมเตรียมมา ไปกางเอาสิครับ”
เอ๊ะนี่! ฉันจะกางเป็นได้ยังไงล่ะ ขนาดพวกคุณยังช่วยกันกางเลย แล้วฉันจะไปทำคนเดียวได้ยังไง ฉันบ่นอุบอยู่ในใจ หมอนั่นไม่สนใจฉันเลย ตอนนี้เอาแต่กางเต็นท์ตัวเองต่อ แล้วฉันจะทำยังไงล่ะ
“ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวเขาก็ไปกางเต็นท์ให้คุณ” เสียงคุณตาร์มากระซิบบอก ก่อนที่เขาจะรีบวิ่งไปช่วยอีตาผู้กองลักษณ์กางเต็นท์ต่อ ฉันเลยต้องไปหาร่มไม้นั่ง ตอนที่ฉันนั่งอยู่ฉันเห็นผู้กองลักษณ์มองฉันบ่อยมาก ไม่รู้สิ ฉันคิดไปเองหรือเปล่า แต่ฉันสังเกตเห็นจริงๆ นะ สังเกตไปสังเกตมาฉันก็เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ค่ะ รู้ตัวอีกทีคือคุณแดนมาปลุก
“อืมม ค่ะคุณแดน” ฉันรีบลุกขึ้น เมื่อเห็นทุกคนกางเต็นท์กันเสร็จหมดแล้ว และทุกคนก็เหมือนจะกำลังจัดข้าวของอยู่ในเต็นท์ ฉันคงหลับไปไม่นานใช่ไหม
“เอาของเข้าไปเก็บเถอะครับ ผู้กองกางเต็นท์ให้คุณเสร็จแล้ว” คุณแดนพูดแล้วยิ้ม ฉันเลยขมวดคิ้วมองว่าคุณแดนยิ้มอะไร
“คือ...ผมแค่แปลกใจน่ะครับ พึ่งเคยเห็นผู้กองลักษณ์ให้ผู้หญิงเกาะแขน พึ่งเคยเห็นเขากางเต็นท์ให้ผู้หญิงแบบตั้งใจทำมาก แล้วก็พึ่งจะเคยเห็นเขาเป็นห่วงผู้หญิงด้วย”
“เป็นห่วง! หมายถึงเป็นห่วงฉันเหรอคะ?”
“ก็ต้องเป็นคุณสิครับ ผู้กองมองคุณแทบจะตลอดเวลาเลย คงกลัวว่าคุณจะเป็นอะไรไป”
“แหะๆ คงกลัวฉันจะสร้างปัญหามากกว่า” ถ้าเขามองฉันจริงๆ ก็ไม่ใช่เพราะว่าเป็นห่วงหรอกค่ะ แค่ฉันก้าวขาข้างนึงปัญหาก็เกิดแล้ว ตราบใดที่ฉันยังอยู่ในความดูแลของเขาเขาก็ต้องคอยกันฉันไม่ให้สร้างปัญหาจนเกิดอันตรายอยู่แล้ว มันหน้าที่เขาน่ะ
“ก็คงไม่ใช่ซะทีเดียวหรอกครับ ถ้าไม่เป็นห่วงจะทำให้ขนาดนี้เหรอ ผมรู้จักผู้กองดีครับ เชื่อผมเถอะ ผู้กองน่ะแพ้ผู้หญิงสวยแบบคุณแล้ว”
“แหะๆ คุณแดนก็....อย่าคิดไปถึงขั้นนั้นเลยค่ะ มันยากมาก! ฝนคงจะตกมาเป็นทองแน่ๆ ค่ะ” ปากบอกเป็นไปไม่ได้ แต่ฉันก็ยังอุตส่าห์เขินจนหน้าร้อนเห่อ แถมคุณแดนยังขำอีกด้วย
“แกไปตรวจดูที่อาบน้ำหรือยังไอ้แดน”
“เอ่อโทษทีครับผู้กองผมลืม! จะไปเดี๋ยวนี้เลยครับ”
“ให้ไว!”
“ครับๆ”
ก่อนที่คุณแดนจะวิ่งไป เขาอมยิ้มให้ฉันเหมือนล่วงรู้อะไรบางอย่างจากตัวคุณผู้กองน้ำแข็ง พอเหลือแค่ฉันกับผู้กองลักษณ์สองคน ความกดดันก็เริ่มเล่นงานฉันเมื่อดวงตาคมตวัดมาจ้อง หลบตาสิคะรออะไร เดี๋ยวแข็งตายก่อนได้เริ่มใช้ชีวิตที่นี่
“ไปจัดข้าวของของคุณซะ อย่าซุ่มซ่ามไปทำเต็นท์พังล่ะไม่งั้นผมจะให้คุณกางเอง” สิ้นเสียงเรียบตึงนั้น อีตาผู้กองน้ำแข็งก็หันหลังให้แล้วทำท่าจะเดินจากไป แต่เหมือนเขาอยากจะพูดอะไรอีกเลยหันหน้ากลับมา “อ่อ แล้วก็อย่าอ่อยลูกน้องผมให้มากนัก พวกมันอ่อนไหวง่าย ทนเสน่ห์คุณไม่ไหวหรอก เดี๋ยวจะตีกันเองตายก่อนออกไปทำหน้าที่”
“เอ๊ะนี่คุณว่าฉัน!...” ฉันชี้หน้ากะจะด่าอีตาผู้กองน้ำแข็งที่หาว่าฉันไปอ่อยคุณแดน คุณตาร์ คุณคิน แต่หมอนั่นก็เดินหนีไปไม่ฟังฉันอธิบายเลย ฉันอ่อยตรงไหนมิทราบยะ! ก็ที่นี่มันมีแต่ผู้ชายฉันก็ต้องคุยกับผู้ชายไหม แล้วพวกคุณคินเขาก็อัธยาศัยดี ไม่เหมือนหมอนั่นหนิ สานสัมพันธ์ด้วยยากมาก! ทำหน้าไม่รับแขกส่งสายตาเย็นชาตลอดเวลาแบบนั้นใครอยากจะเป็นเพื่อนด้วยล่ะ ชิ!
ฉันเดินอย่างหงุดหงิดไปเอากระเป๋าที่วางกองไว้ กับข้าวของสัมภาระของคนอื่นๆ แล้วเข้าไปในเต็นท์ที่เล็กกว่าคนอื่นนิดนึง แต่ก็สามารถนอนได้สามคนเลยนะคะ ทั้งใหญ่ทั้งกว้าง มาอยู่ข้างในนี้คนเดียวยังสบายใจกว่าอยู่ข้างนอกแล้วต้องเห็นหน้าอีตาผู้กองน้ำแข็งนั่นอีก เหอะ! ฟังคุณแดนพูดแล้วอยากจะขำ ไม่เคยทำอะไรให้ผู้หญิงคนอื่นเหมือนที่ทำให้ฉันงั้นเหรอ ก็ชีวิตเขาไม่เคยเจอผู้หญิงยังไงล่ะ ที่วันนี้มีฉันมาอยู่ก็เพราะงาน และเขาก็โดนบังคับให้ดูแลฉัน ไม่ได้มาพิศวาสฉันสักหน่อย
